ในหลวง พระเทพฯเสด็จทางชลมารคด้วยเรือพระที่นั่งอังสนาไปยังคลองลัดโพธิ์เพื่อทรงเปิดประตูระบายน้ำ และสะพานภูมิพล1และ2 ท่ามกลางพสกพิกรที่มารอเฝ้าฯ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินทางชลมารคโดยเรือพระที่นั่งอังสนา จากรพ.ศิริราช เพื่อทรงเปิดประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ กับทรงเปิดสะพานภูมิพล 1 และสะพานภูมิพล 2 ซึ่งถือเป็นการเสด็จพระราชดำเนินทางชลมารคครั้งแรกในรอบ 4 ปี ท่ามกลางพสกนิกรที่มารอเฝ้าจำนวนมาก
ภาพ/อภิชิต จินากุล
เมื่อปีพ.ศ.2538 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีพระราชดำริให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขุดลอก และปรับปรุงคลองลัดโพธิ์ให้มีความลึกและกว้างขึ้น พร้อมก่อสร้างอาคารประกอบ เพื่อใช้เป็นทางลัดในการระบายน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาให้ลงสู่ทะเลได้รวดเร็วขึ้น ส่งผลให้สามารถบรรเทาปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้เป็นอย่างดี
นอกจากนั้น ยังมีพระราชดำริให้จัดสร้างสะพานภูมิพล 1 และสะพานภูมิพล 2 เพื่อรองรับการขนถ่ายและลำเลียงสินค้าจากท่าเรือกรุงเทพ ไปยังพื้นที่อุตสาหกรรมใน จ.สมุทรปราการ และพื้นที่อื่นๆ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาด้านการจราจร โครงการอันเนื่องจากพระราชดำริเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่เพื่อยังประโยชน์พสกนิกรทั้งสิ้น
ภาพ/อภิชิต จินากุล
สำหรับการถวายการรักษาความปลอดภัยในการเสด็จพระราชดำเนิน มีการจัดเรือถวายรักษาความปลอดภัยจำนวน 21 ลำ พร้อมกับเจ้าหน้าที่จากกรมราชองครักษ์ ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจสันติบาล กองบัญชาการตำรวจน้ำ กรมเจ้าท่า ร่วมถึงเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลวชิระ และโรงพยาบาลศิริราช
กองทัพเรือโดย พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มอบหมายให้ พล.ร.ต.รุ่งศักดิ์ เสรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการฐานทัพเรือกรุงเทพ ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการร่วมถวายความปลอดภัย ตามภารกิจถวายความปลอดภัยสูงสุด และสมพระเกียรติ
ภาพ/อภิชิต จินากุล
ขณะที่ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบดูแลในภาพรวม
นอกจากนี้ ยังมีการจัดเรือดูแลรักษาความปลอดภัยตามแยกต่าง ๆ อีก 10 ลำ สำหรับกำลังพลที่ใช้ในการดูแลอารักขาความปลออภัย จะใช้จากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบในแต่ละท้องที่ที่เรือขบวนเสด็จผ่าน.
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 2071 ครั้ง