วันที่ 29 พ.ย. เอกสารลับของสหรัฐ ที่เผยแพร่โดยวิกิลีคส์ และหนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์ค ไทม์ส ระบุว่า กษัตริย์อับดุลเลาะห์ บิน อับด์ อัล-อาซิซ แห่งซาอุดิอาระเบีย ทรงกระตุ้นให้สหรัฐโจมตีอิหร่าน เพื่อทำลายโครงการนิวเคลียร์ ในระหว่างที่นายไรอัน คร็อคเกอร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงริยาร์ด และพลเอกเดวิด เพตราอุส เข้าเฝ้าพระองค์ เมื่อเดือนเมษายน ปี 2551
ข้อความในบันทึกช่วยจำของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ระบุว่า นายอับเดล อัล-จูแบร์ เอกอัครราชทูตซาอุดิอาระเบีย ประจำกรุงวอชิงตัน ดีซี ได้แจ้งต่อสถานทูตสหรัฐในริยาร์ด ในช่วง 2 วันหลังการเจรจาระดับสูงในครั้งนั้นว่า กษัตริย์อับดุลเลาะห์ , เจ้าชายมุกริน และเจ้าชายนาอิฟ ทรงเห็นชอบถึงความนำเป็นที่จะต้องร่วมมือกับสหรัฐ ในการต้านทานและลดอิทธิพลของอิหร่านและโค่นล้มอิรัก
แต่ในบันทึกช่วยจำ ระบุด้วยว่า ทางการซาอุดิอาระเบีย ได้เตือนให้ระมัดระวังเกี่ยวกับความจำเป็นเรื่องการใช้ปฏิบัติการทางทหาร ซึ่งเจ้าชาย ซาอุด อัล ไฟซาล รัฐมนตรีต่างประเทศ และเจ้าชายมุกริน บิน อับด์ อัล อาซิซ รัฐมนตรีข่าวกรอง ได้ทรงผลักดันให้ใช้มาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านให้หนักข้อขึ้นอีก โดยเฉพาะในเรื่องการห้ามการเดินทางและการทำธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งเจ้าชายมุกริน ทรงย้ำว่า มาตรการคว่ำบาตรบางอย่างควรทำให้สัมฤทธิ์ผล โดยไม่ต้องการอาศัยฉันทามติจากสหประชาชาติ ขณะที่การใช้มาตรการกดดันทางทหารต่ออิหร่าน ก็ไม่ควรมองข้ามด้วย
บันทึกช่วยจำที่รั่วออกมานี้ อาจพิสูจน์ให้เห็นถึงความอึดอัดใจของซาอุดิอาระเบีย ที่กำลังเครียดหนักต่อความทะเยอทะยานด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน แต่ไม่อาจเรียกร้องอย่างเปิดเผยให้ชาติตะวันตกใช้กำลังเข้าจัดการกับเพื่อนบ้านที่ทรงอิทธิพลได้
ด้านที่ปรึกษาของรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย ที่ไม่เปิดเผยนาม ได้มีปฏิกิริยาตอบโต้ต่อบันทึกช่วยจำที่รั่วออกมาว่า เนื้อหาทั้งหมดให้ผลในทางลบอย่างยิ่ง และไม่เป็นผลดีต่อการเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ก่อนหน้านี้ สรหัฐได้เตือนไปยังซาอุดิอาระเบียแล้วว่า จะมีเอกสารลับรั่วออกมา แต่ไม่อาจรู้ล่วงหน้าได้อย่างแท้จริงว่า จะมีเอกสารลับรั่วออกมา แต่ไม่อาจรู้ล่วงหน้าได้อย่างแท้จริงว่า จะเป็นเรื่องอะไรบ้าง
กษัตริย์อัลดุลเลาะห์กับอมาดิเนจาด แห่งอิหร่าน
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 2077 ครั้ง