วันที่ 5 ธันวาคม เป็นวันมหามงคลที่คนไทยทั้งประเทศรอคอยที่จะร่วมเฉลิมฉลองวันมหามงคล “5 ธันวา เฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
นายเนวิน ชิดชอบ ในฐานะประธานคณะทำงานการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในครั้งนี้ยืนยันถึงความพร้อมอย่างเต็มที่หลังจากการลงตรวจพื้นที่ริม 2 ฝั่งเจ้าพระยา
โดยไฮไลต์ของงานนั้นนอกจากจะมีการฉายภาพยนต์เฉลิมพระเกียรติ ขบวนเรือไฟ และการจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติแล้ว ยังมีการฉายภาพพระบรมฉายาลักษณ์ 4 มิติ บนตัวตึกคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตึกโรงพยาบาลศิริราช และจะมีการแสดงแสง สี และการจุดพลุ 999 ดอก ปล่อยโคมลอยจำนวน 10,000 ดวง บริเวณสะพานพระปิ่นเกล้าด้วย
สำหรับกำหนดการจัดงานในวันที่ 5 ธันวาคมนั้น จะเริ่มในเวลา 17.30 น. ด้วยการแสดงเพลงแหล่เฉลิมพระเกียรติ “ราชาแห่งราชัน” ประกอบมิวสิควิดีโอ โดยศิลปินแห่งชาติ ตามด้วยการแสดงเพลงเรือถวายพระพร ที่เวทีม่านน้ำ บริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากนั้นเวลา 18.00 น. เป็นการแสดงของศิลปินรับเชิญ ประกอบแสง สี เสียง บริเวณ 2 ฝั่งเจ้าพระยา อาทิ พลพล พลกองเส็ง แอ๊ด คาราบาว อ.ธนิศร์ ศรีกลิ่นดี อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
หลังจากนั้นในเวลา 18.30 น. เป็นการแสดงชุดแผ่นดินของเรา โดยนัท มีเรีย เจมส์ เรืองศักดิ์ เบิร์ด ธงไชย บี้ เตอะสตาร์ สิงโต เดอะสตาร์ นัททิว เอเอฟ และสุนารี ราชสีมา ที่เวทีม่านน้ำ
ตามด้วยขบวนจุดเรือไฟถวายพระพร และการปล่อยโคม จุดพลุอย่างอลังการ
ขณะที่การดูแลความปลอดภัยในการจัดงานนั้น พันตำรวจเอก ทรงพล วัฒนชัย รองผู้บังคับการอำนวยการกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจน้ำ กองทัพเรือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกรมเจ้าท่า ได้วางแผนกระจายกำลังอย่างเข้มงวดรอบพื้นที่การจัดงาน รัศมี 2 กิโลเมตร วางระบบตรวจคนเข้าร่วมงานอย่างเข้มงวด
นายเนวิน ย้ำว่ากิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ครั้งนี้ ถือเป็นภารกิจที่สำคัญของคนไทยทั้งชาติ ที่จะได้ร่วมกันถวายความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา 5 ธันวาคม 2553 เนื่องจากเมื่อวันที่ 5 ธันวาคมปีที่ผ่านมา ได้มีการจัดถวายพระพรพระบาทสมเด็จ บริเวณลานพระราชวังดุสิต มีประชาชนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก จึงเป็นแรงบันดาลใจให้คณะทำงานฯเห็นว่า วันที่ 5 ธันวาคมปีนี้ จะถวายพระพรให้ใกล้ที่สุด ด้วยการร่วมกันไปถวายพระพรกลางแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหน้าท่าน้ำศิริราช ตกแต่งเรือเป็นเรือประดับไฟ คาดว่าจะมีประชาชนลงเรือเพื่อร่วมถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่น้อยกว่า 800 ลำ มีประชาชนไม่น้อยกว่า 5 หมื่นคน ร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพรกลางลำน้ำเจ้าพระยา
นอกจากนี้ในวันที่ 5 ธ.ค. ตั้งแต่เวลา 09.00 น. จะมีการฉายภาพยนต์เฉลิมพระเกียรติ 7 เรื่อง โดยผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง และดาราชื่อดัง ประกอบด้วย เรื่องราชประชานุเคราะห์ คนล่าเมฆ คนละเรื่องเดียวกัน หรือ That’s why we love king จากฟ้าสู่ดิน เหรียญของพ่อ แผ่นดินของเรา อาม่า เป็นการนำเสนอเรื่องราวที่เป็นพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย ในโรงภาพยนต์เครือเมเจอร์ และเอสเอฟ
ส่วนค่ำคืนวันที่ 5 ธ.ค. จะฉ่ยภาพยนต์ที่เวทีม่านน้ำ พร้อมกับหน้าศาลากลางจังหวัดทั่วประเทศ จะนำภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติฉายให้ประชาชนที่มาร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพรได้ชม จากนั้นจะทูลเกล้าฯถวายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ทั้ง 7 เรื่อง ให้เป็นลิขสิทธิ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดทำดีวีดี และวีซีดีภาพยนตร์ทั้ง 7 เรื่อง จำนวน 5 ล้านชุด แจกจ่ายให้ประชาชนชาวไทยทั้งประเทศในวันที่ 5 ธ.ค.
ทั้งนี้ ขั้นตอนของเวทีจะเกิดขึ้นหลังการถวายพระพรที่สนามหลวง ของมูลนิธิ 5 ธันวา โดยขบวนเรือจะรวมตัวกันตั้งแต่ช่วงบ่าย พิธีการจะเริ่มในเวลา 17.30 น. ด้วยการแสดงเพลงเรือถวายพระพรของศิลปินแห่งชาติ อาทิ ชินกร ไกรลาศ ลพ บุรีรัตน์ ขวัญจิต ศรีประจันต์ เวลา 17.45 น. มีการแสดงเพลงแหล่เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งจัดแสดงบนเวทีกลางน้ำ โดยยึดเวทีบริเวณด้านหน้าท่าน้ำ ม.ธรรมศาสตร์ ขนาด 50 เมตร
จากนั้นเป็นการแสดงชุดแผ่นดินของเรา มีศิลปินเข้าร่วมแสดงเพื่อร้องเพลงพระราชนิพนธ์ ประกอบด้วย นัท มีเรีย เจมส์-เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์ สุนารี ราชสีมา บี้ เดอะสตาร์ สิงโต เดอะสตาร์ นัททิว เอเอฟ เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ เวลา 18.00 น. การแสดงแสง สี เสียง ชุดเจ้าพระยา น้อมถวายพระพรชัย แล้วเข้าสู่การแสดงชุดแผ่นดินของเรา และร่วมกันจุดเทียนชัยถวายพระพร ร้องเพลงสดุดีมหาราชาในเวลา 19.49 น. ซึ่งการแสดงทั้งหมดกลางลำน้ำเจ้าพระยา จะได้พบกับขบวนเรือใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ขบวนประชาชนที่ถวายพระพรมากที่สุดในโลก การแสดง แสง สี เสียง ที่ตื่นตาตื่นใจที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย และเชื่อว่าการร่วมถวายความจงรักภักดีครั้งนี้จะปรากฏในกินเนสส์บุ๊ก เพราะเป็นครั้งแรกในโลกที่มีการมาถวายพระพรพระเจ้าแผ่นดินทางน้ำมากที่สุดในโลก
นายเนวิน เปิดเผยต่อด้วยว่า หลังจากนั้นในเดือน ก.พ. จะมีการจัดสร้างและจัดแสดงพาวิลเลียน เป็นเอ็กซ์โปพาวิลเลียน บริเวณสถานีแอร์พอร์ตลิงค์ มักกะสัน การแสดงจะเริ่มตั้งแต่เดือน ก.พ. 2554-ธ.ค. 2554 โดยใช้คอนเซปต์ของคำว่า “King” จะเป็นพาวิลเลียนที่แสดงถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระอัจฉริยภาพ พระปรีชาสามารถของพระเจ้าอยู่หัวของพวกเรา ที่ทรงมีต่อประเทศไทย โดยจะแยกออกเป็น 4 พาวิลเลียน คือพาวิลเลียน K แสดงถึงองค์ความรู้ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีในเรื่องต่างๆ และทรงนำองค์ความรู้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ในการช่วยเหลือประชาชน พาวิลเลียนที่สองคือ I หรือ Innovation นวัตกรรมที่พระองค์ทรงคิดค้นขึ้นมา เพื่อช่วยเหลือประชาชนคนไทย พาวิลเลียนที่สามคือ N หรือ Natural เป็นเรื่องของธรรมชาติ ที่พระองค์ทรงเป็นหลักในการอนุรักษ์ รักษาสิ่งแวดล้อม จะได้เห็นเรื่องที่พระองค์ใช้ พระปรีชาสามารถในเรื่องการปกป้องป่า ปกป้องสิ่งแวดล้อม ทำมาเป็นหลายสิบปี ก่อนที่ประเทศอื่นๆจะต่อสู้เรื่องโลกร้อน จะได้เห็นถึงพระปรีชาสามารถในการแก้ปัญหาการปลูกฝิ่น ซึ่งเป็นแหล่งสำคัญของยาเสพติด เพื่อปกป้องพลเมืองของโลก พาวิลเลียนสุดท้าย G หรือ Greated พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงยิ่งใหญ่ ที่สุดในโลก เป็นการนำเสนอเรื่องราวที่เป็นพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งการทำงานครั้งนี้ไม่มีการตั้งงบประมาณจากทางราชการ แต่เป็นเรื่องที่คณะทำงานขอความสนับสนุนร่วมแรงร่วมใจจากภาคเอกชนต่างๆ ในการสนับสนุนงานเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสพระชนมพรรษา 84 พรรษา เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติต่อพระองค์
สำหรับกิจกรรมในวันที่ 5 ธันวาคมปีนี้ จะมีการถวายพระพรพร้อมกันทั่วประเทศในเวลา 20.00 น. โดยประชาชนในจังหวัดต่างๆ จะไปพร้อมกันที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อจุดเทียนชัยถวายพระพร พร้อมกับขบวนเรือไฟในแม่น้ำเจ้าพระยาหน้าโรงพยาบาลศิริราช
ขณะเดียวกันนอกจากกิจกรรมหลักทั้งสามด้านแล้ว คณะทำงานได้จัดทำเว็บไซต์ http://www.weloveking.org/ เปิดโอกาสให้ประชาชนได้ลงทะเบียนเพื่อสมัครอีเมลที่ลงท้ายด้วยแอดไซน์ weloveking.org เพื่อร่วมส่งข้อความถวายพระ
พรถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเว็บไซต์นี้ยังรวบรวมสารานุกรมในรูปแบบอีบุ๊กที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนอีกด้วย