วันที่ 3 ธ.ค.นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีพนักงานอัยการไม่ยื่นถอนประกันตัวนายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย และจำเลยคดีก่อการร้าย ว่า เคารพความเห็นของพนักงานอัยการ แต่กรณีของนายจตุพร ตนเองได้หารือกับพนักงานสอบสวนดีเอสไอที่รับผิดชอบสำนวนคดีแล้ว โดยในวันอังคารที่ 7 ธันวาคม เวลา 10.00 น. ตนเองในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีก่อการร้ายจะเดินทางไปยังศาลอาญา เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลขอให้เรียกตัวนายจตุพร และนายการุณ โหสกุล ส.ส.พรรคเพื่อไทย มาที่ศาล เนื่องจากคดีก่อการร้ายมีจำเลยและผู้ต้องหาจำนวนมาก โดยจำเลยหลายรายไม่ได้รับการประกันตัว โดยศาลมีความเห็นให้ควบคุมตัวเพื่อไม่ให้ออกมาก่อความวุ่นวายหรือหลบหนีออกนอกประเทศ โดยนายจตุพรและนายการุณ ถูกฟ้องในคดีก่อการร้ายเช่นกัน แตได้รับเอกสิทธิความเป็นส.ส.จึงไม่ถูกควบคุมตัว ดังนั้นเมื่อปิดสมัยประชุมสภาแทนราษฎร ระบบของกระบวนการยุติธรรมต้องเดินหน้าต่อไป ดีเอสไอจึงยื่นเรื่องให้ศาลใช้ดุลยพินิจในการควบคุมตัวนายจตุพรและนายการุณ
นายธาริต กล่าวอีกว่า นายจตุพรมีพฤติการณ์ข่มขู่พยานและเข้าไปยุ่งกับพยานหลักฐาน ข่มขู่เจ้าหน้าที่รัฐ เป็นผู้นำการชุมนุมก่อความไม่สงบ ให้ร้ายเจ้าหน้าที่รัฐอย่างต่อเนื่อง เป็นพฤติการณ์ที่ต่างจากนายการุณโดยสิ้นเชิง ดังนั้นเมื่อเอกสิทธิ ส.ส.สิ้นสุดลง ดีเอสไอจึงจำเป็นต้องยื่นเรื่องให้ศาลมีหมายเรียกบุคคลทั้ง 2 มายังศาล โดยดีเอสไอจะคัดค้านประกันนายจุตพร ซึ่งในทางกฎหมายไม่ได้ตัดอำนาจของพนักงานสอบสวน และกรณีดังกล่าวไม่ถือเป็นความขัดแย้งกับความเห็นพนักงานอัยการ เนื่องจากดีเอสไอได้ประมวลเหตุการณ์พบว่านายจตุพรเป็นแกนนำการชุมนุมหลายครั้ง และมีพฤติการณ์ปลุกปั่นให้ผู้ชุมนุมก่อความไม่สงบ รวมถึงการนำมวลชนมากดดันการทำงานของดีเอสไอ ซึ่งถือเป็นหลักฐานที่นอกเหนือไปจากส่วนที่ดีเอสไอส่งให้อัยการถอนประกันตัวนายจตุพร คือ กรณีที่การข่มขู่นายเมธี อมรวุฒิกุล พยานในคดีก่อการร้าย ส่วนตัวไม่มีเหตุโกรธเคืองกับนายจตุพร การยื่นคำร้องต่อศาลและการคัดค้านการประกันตัวเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ เพราะหากไม่ดำเนินการดีเอสไอจะถูกฟ้องฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เสียเอง แม้ก่อนหน้านี้นายจตุพรจะไม่มีพฤติการณ์หลบหนี แต่มีพฤติการณ์ข่มขู่พยาน ข่มขู่เจ้าหน้าที่รัฐ และเป็นแกนหลักในการชุมนุมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเข้าเงื่อนไขในการคัดค้านประกันตัว นอกจากนี้ผมตั้งข้อสังเกตกรณีที่ศาลให้ประกันตัวนายวีระ มุสิกพงศ์ จำเลยรายเดียวที่ได้รับการประกันตัว ซึ่งศาลยังกำหนดเงื่อนไขเรื่องการเดินทาง และสั่งห้ามไม่ให้สัมภาษณ์ประเด็นการเมือง หรือเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการชุมนุม
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 963 ครั้ง