รัฐบาล UAE รุกคืบไปอีกขั้นไปสู่การสร้างสำรองยุทธศาสตร์ด้านอาหารที่จำ
เป็นเช่น ชา น้ำมันพืช ช้าว และนม เพื่อเอาไว้ใช้ในกรณีของภาวะฉุกเฉิน
แห่งชาติ และเพื่อสร้างกลไกในการรับมือกับราคาอาหารที่อาจพุ่งขึ้นอย่างรวด
เร็ว
ไปยังสมาคมซึ่งดูแลสหกรณ์
นำมาสำรอง นายโมฮัมเหม็ด อัลชัมซี่ คณะกรรมการของหน่วยงานข้างต้
สมาคมได้รับการร้องขอให้ร่วมมื
ปริมาณขั้นต่ำของอาหารแต่
นาน 6 เดือนเป็นเท่าไร นายอัลชัมซีกล่าวในช่วงการเปิ
คุ้มครองผู้บริ
ปัจจุบันปริมาณอาหารสำรองที่
83 แห่งทั่วประเทศเพียงพอแค่ 2 เดือนเท่านั้น นายอัลชัมซี
ประธานของสหกรณ์ รัส อัลไคเมาะห์ กล่าว
“เรามีคลังจัดเก็บสำหรับ
สหกรณ์
เราต้องการสถานที่มากกว่านี้” นายอัลชัมซีกล่าวกับหนังสือพิ
เนชั่นแนล
ปัจจุบัน UAE พึ่งพาการนำเข้าอาหารจากต่
โดยนำเข้าอาหารกว่า 85% สำหรับการบริโภคในประเทศ
แนวคิดเรื่องการส
ร้างคลั
ทำสถิติสูงสุดในรอบ 25 ปี และเงินเฟ้อของ UAE พุ่งไปแตะ 11.5%
นับจากนั้นกระทรวงเศรษฐกิจของ UAE จึงได้วางแผนสร้างสำรองยุ
สำหรับโภคภัณฑ์อาหารที่
ผลกระทบจากการพุ่งขึ้
อย่างไรก็ตามหลังจาก
เศรษฐกิ
FAO ระบุว่า ราคาอาหารร่วงลง 35% หลังจากจุดสูงสุดในเดือน มิถุนายน 2008
จนกระทั่งเดือนมีนาคม 2009
แต่ราคาก็เริ่มทะยอยปรับตัวสู
2009 จนถึง มกราคม 2010 ราคาไต่สูงขึ้น 24%
แม้ว่าราคาอาหารจะยังไม่
กลั
อัลมันซูรี่ กล่าวว่า UAE กำลังเดินหน้าแผนการสร้
ยุทธศาสตร์ แผนการสร้างได้รับการอนุมัติ
และคลังสำรองต้องเสร็จใน 2 ปี นายอัลมันซูรี่กล่าวเพิ่มเติม
นายแอนดี้ บาร์เน็ต ศาสตราจารย์สาขาเศรษฐศาสตร์
American University of Sharjah กล่าวว่า สำรองอาหารไม่สามารถป้องกันปั
การพุ่งขึ้นของราคาได้ แต่สามารถช่วยได้แค่ในระยะสั้
“สิ่ง
ที่ควรจะทำคือ การผ่อนคลายอัตราการเพิ่มขึ้
นายบาร์เน็ตให้ความเห็น
“เมื่อราคาเริ่มปรับตัวสูงขึ้น คุณสามารถระบายอาหารออกมาจากคลั
เพื่อชะลอการพุ่งขึ้
ไปยังที่ที่มันจะไปถึง” นายบาร์เน็ตกล่าวเพิ่มเติม
ที่มา The
National
http://www.thenational.ae/