ครม.มีมติเห็นชอบระเบียบขึ้นค่าตอบแทนผู้บริหารอบต. โดยนายกฯสั่งมหาดไทยศึกษาเปรียบเทียบกับ สก.-สข.ก่อนเสนอที่ประชุมอีกครั้งในช่วงสัปดาห์หน้า
นายถาวร เสนเนียม รมช.กระทรวงมหาดไทย (มท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ มีมติเห็นชอบระเบียบกระทรวงมหาดไทยเรื่องการเพิ่มค่าตอบแทน ให้ผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ตามที่กระทรวงเสนอ แต่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยไปศึกษาเปรียบเทียบอัตราการเพิ่มค่าตอบแทนดังกล่าวกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นๆที่ต้องการปรับขึ้นเงินค่าตอบแทบด้วย เช่นสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร(สก.)สมาชิกสภาเขต(สข.) เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมครม.ในวันที่ 14 ธ.ค.
นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทย ได้เสนอที่ประชุมครม.ยกเลิกพ.ร.ก.การบริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉิน(พ.ร.ก.ฉุกเฉิน)ใน3อำเภอ3จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย 1.อ.เบตง จ.ยะลา 2.อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี และ3.อ.แว้ง จ.นราธิวาส เนื่องจากมีสถานการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นน้อยและให้ใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงในราชอาณาจักรบังคับใช้ในพื้นที่แทน แต่ทั้งนี้อำนาจการตัดสินใจให้ยกเลิกหรือไม่ขึ้นอยู่กับนายกฯ
นายถาวร กล่าวว่า วันที่ 9 ธ.ค.จะลงพื้นที่เพื่อเปิดรับความฟังความความเห็นหลัง พ.ร.บ.ศอ.บต.ได้ผ่านความเห็นชอบของสภาแล้ว และอยู่ระหว่างการประกาศใช้บังคับ จะหารือใน 3 ประเด็น ประกอบด้วย 1.การเตรียมความความพร้อมขององค์กร 2.การยกร่างระเบียบ 3.การสร้างความเข้าใจ เพื่อรองรับกฏหมายดังกล่าว
“จะเปิดพื้นที่เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เช่น การหยุดงานวันศุกร์เพื่อให้ไปละหมาด การพัฒนาอาชีพ การแก้ปัญหายาเสพติด การใช้ภาษามาลายูควบคู่ไปกับภาษาไทย เพื่อนำไปสู่การลดอุณภูมิความแตกต่าง” นายถาวร กล่าว
ทั้งนี้ ก่อนการประชุมครม. นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกกระทรวงมหาดไทยกล่าวถึง กรณีเสียงวิจารณ์การขึ้นเงินเดือนของอบต.ทั่วประเทศว่าเป็นการหาเสียงของพรรคภูมิใจไทยว่า การขึ้นเงินอบต.เป็นนโยบายในการเพิ่มสวัสดิการของบุคคลากรในมหาดไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และเป็นไปตามหลักการและนโยบาย ไม่ใช่การหาเสียงของพรรคภูมิใจไทย แต่เป็นเจตนาที่ภาครัฐตั้งใจตอบแทนให้ผู้ปฏิบัตงาน สำหรับอบต.ที่ผ่านมาก็มีความรับผิดชอบดูแลประชาชน และมีฐานผู้นำท้องถิ่นที่ต้องดูแล ในฐานะกระทรวงมหาดไทยที่ดูแลอบต.ในอีกชั้นก็เป็นเรื่องปกติที่มีการเพิ่ม ตอบสนอง และการดูแลสวัสดิการต่าง ๆ และยืนยันว่ากระทรวงมหาดไทยทำงานเพื่อประชาชน หากนโยบายได้รับความนิยมก็ไม่แปลกและไม่มีปัญหา เพราะมหาดไทยยุคนี้เป็นยุคที่มีคนรักและชอบ ได้รับความนิยมอย่างสูง และมีเจตนาดูแลประชาชนอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนอาจมีความไม่เข้าใจในส่วนรายละเอียด รวมถึงมีเสียงวิจารณ์ทั้งข้างในและนอกนั้น ก็จะอธิบายและทำความเข้าใจกับนายกฯและพรรคพร่วมเช่น ปชป.ได้และคงไม่ใช่ความขัดแย้งอะไรกับการที่พรรคดำเนินนโยบายนี้ออกมา
ส่วนสมาทร์การ์ดก็ยืนยันว่า กระทรวงหมาดไทย เองได้ดำเนินการไปตามภาระกิจหน้าที่ของก.มหาดไทย แต่คงไม่ใช่ไปเอื้อเอกชนแน่นอน และยืนยันว่าไม่มีการแก้กฏกกระทรวงรองรับ เพราะจะเป็นไปมองว่าไปเอื้อบ.เอกชน ซึ่งมหาดไทยเองก็แค่รอใช้บัตรสมาร์ดทการ์ดรูแบบใหม่ที่กระทรวงมหาดไทยได้ส่งแบบร่างไปแล้ว ถือว่าหมดภาระกิจ หลังจากนี้่ก็เป็นขั้นตอนของกระทรวงไอซีที
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1601 ครั้ง