วันที่ 7 ธันวาคม นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ในฐานะรัฐมนตรีติดตามสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ครม.ใต้) กล่าวถึงการเสนอยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า จะมีการยกเลิกใน อ.เบตง จ.ยะลา, อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี, อ.แว้ง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะเรียกประชุมตำรวจ ทหาร และ สมช. ซึ่งในอำเภอดังกล่าวมีเหตุเกิดไม่เกิน 2 ครั้ง แต่การเกิดเหตุมากไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่าจะเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้หรือไม่
“การยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นการยกเลิกอำนาจพิเศษของเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทบกระเทือนสิทธิของประชาชน เช่น การจำกัดเวลาออกจากบ้าน หรือการกระทบกระเทือนสิทธิในการกักตัวบุคคลเกิน 1 เดือนเพื่อสอบถามหรือสืบสวน เพราะฉะนั้นจะเห็นว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับความถี่ของเหตุเกิด แต่จะมาจากประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ป้องกันเหตุเกิด
รมช.มหาดไทยระบุว่า หากย้อนหลัง 2 ปีที่แล้วจะพบว่าปัจจุบันเหตุเกิดไม่ถึงพันครั้งต่อปี สถานการณ์ดีขึ้นมาก ประชาชนอยากได้สิทธิในการดำเนินชีวิตประจำวันเหมือนกับประชาชนคนไทยที่อื่นๆ ส่วนที่การเกิดเหตุลดน้อยลง เกิดจากประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาลผ่าน ศอ.บต.ได้สอบถามความคิดเห็นของประชาชนพึงพอใจ 54 เปอร์เซ็นต์ของการแก้ปัญหาคิดว่าแนวทางการเมืองนำการทหารถูกทางแล้ว
นายถาวรบอกว่า วันที่ 16 ธ.ค. ตนจะเดินทางไปศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ประเทศไอซ์แลนด์เหนือ ประเทศอังกฤษ ซึ่งมีความขัดแย้งระหว่างโปรเตสแตนต์และคาทอลิก เราจะไปดูว่าระบบการสร้างความสันติสุขทำอย่างไร ตนศึกษาเบื้องต้น 10 ประเทศที่มีความขัดแย้งทางอัตลักษณ์ ประเพณี และวัฒนธรรม จนนำไปสู่ความไม่ยุติธรรมและความรุนแรง ท้ายที่สุดจบลงด้วยการเมืองนำการทหารทั้งหมด
เมื่อถามว่า จะสามารถยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้ทันปีใหม่หรือไม่ นายถาวรกล่าวว่า อยู่ที่นายกฯ มีอำนาจประกาศหรือยกเลิกประกาศ พ.ร.ก. จากนั้นจะนำ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักรไปใช้ ทั้งนี้ ไม่ใช่การต่อรองกับกลุ่มความไม่สงบ และไม่ใช่การเจรจากับผู้ก่อการร้าย เราใช้คำกลางๆ นั่นคือการเปิดพื้นที่ให้กว้างขึ้น เหมือนกับกรณีที่นายกฯ คุยกับคนเสื้อแดง
“เราไปรับฟังว่าเขาต้องการแบ่งแยกดินแดนหรือไม่, ต้องการหยุดงานวันศุกร์หรือเปล่า, ต้องการพัฒนาอาชีพ ไม่ต้องการให้มีอบายมุข, ต้องการใช้ภาษามลายูถิ่นแทนการใช้ภาษาไทยหรือไม่ เราต้องรับฟังในสิ่งที่ร้องขอว่าเป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรหรือไม่ หรือเป็นการร้องขอจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้มากขึ้น ฉะนั้นการเปิดใจกว้างเพิ่มขึ้นถือเป็นการลดอุณหภูมิความคิดเห็นที่แตกต่าง ในสิ่งที่เขาไม่ได้รับการดูแลหรือการพัฒนา” นายถาวรกล่าว
นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เจ้าหน้าที่กำลังพิจารณาอยู่ นายกฯ จะนัดหน่วยงานด้านความมั่นคงมาหารืออีกครั้ง ทั้งนี้ สถานการณ์บางส่วนก็ดีขึ้น ไม่ถึงขนาดว่า 4-5 ปีที่ผ่านมาใช้ พ.ร.ก.แล้วมีแต่โทษอย่างเดียวไม่มีประโยชน์
อีกด้านหนึ่ง เวลา 07.50 น. ร.ต.อ.แดนชัย มูลป้อม ร้อยเวร สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารชุด รปภ.ครู สังกัดร้อย ร.1021 ฉก.นราธิวาส 30 บนถนนในหมู่บ้านมะนังปันยัง ม.2 ต.สามัคคี อ.รือเสาะ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 4 นาย เพื่อนทหารได้นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลรือเสาะ ประกอบด้วย 1.ส.อ.ไตรภพ เสือสุวรรณ อายุ 22 ปี หัวหน้าชุดถูกสะเก็ดระเบิดจนขาขวาหัก 2.พลทหารอดิศักดิ์ อ่อนสุด อายุ 22 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณขาซ้ายและลำตัว ซึ่งทั้ง 2 นายอาการสาหัส แพทย์ต้องส่งตัวรักษาต่อยังโรงพยาบาล มอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 นาย ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดตามบริเวณลำตัวอาการไม่สาหัสมากนัก แพทย์ให้นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลรือเสาะ คือ 1.พลทหารวิชัย วัชโรสิทธิ์ อายุ 23 ปี 2.พลทหารภานุพงศ์ เกื้อกูลบูรณานนท์ อายุ 22 ปี
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ส.อ.ไตรภพ หัวหน้าชุด ได้นำกำลังรวม 12 นายออกเดินลาดตระเวนตรวจสอบความเรียบร้อยเส้นทางให้กับคณะครูโรงเรียนบ้านมะนังปันยัง เมื่อถึงที่เกิดเหตุซึ่งห่างจากโรงเรียนบ้านมะนังปันยัง ประมาณ 800 เมตร คนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบริมทางและใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิดที่ลอบนำไปฝังไว้จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่น ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 4 นาย แล้วคนร้ายที่แฝงตัวอยู่ใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 และอาก้ายิงถล่มซ้ำใส่เจ้าหน้าที่ทหาร จนทั้ง 2 ฝ่ายได้เปิดฉากยิงปะทะกันเป็นระลอกๆ นาน 5 นาที กลุ่มคนร้ายเห็นเจ้าหน้าที่เข้าสนับสนุนจึงได้ล่าถอยไป
ต่อมา เจ้าหน้าที่ทหารได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อปิดเส้นทางหลบหนีของกลุ่มคนร้าย และสามารถจับกุมชายฉกรรจ์ต้องสงสัยได้จำนวน 3 คน ซึ่งท่าทางมีพิรุธและเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวไปสอบสวนเครียดที่ฐานปฏิบัติการชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 30 ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดสวนธรรม อ.รือเสาะ ว่าบุคคลทั้งสามมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุลอบวางระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารหรือไม่ อย่างไร
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1658 ครั้ง