นายนุรักษ์ มาประณีต ตลก.รธน. กล่าวว่า มีมติข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่าทีพีไอได้บริจาคให้พรรคประชาธิปัตย์ตามข้อกล่าวหา โดยข้อเท้จจริงฟังได้ว่าการจ่ายเงินให้บริษัทเมซไซอะว่าเงินบริจาค เป็นการจ่ายเพื่อประชาสัมพันธ์ตามสัญญาว่าจ้างระหว่างทีพีไอกับเมซไซอะตามโครงการรวม10 สัญญาได้ทำงานตามสัญญาจ้างและเบิกจ่ายเงิน การจ่ายเงินจึงไม่ใช่เงินบริจาคให้ประชาธิปัตย์ ดังนั้นนายอภิชาต จึงมีความเห็นสั่งให้ยกคำร้อง นายประพันธ์ นัยโกวิท มีความเห็นให้ส่งเรื่องให้ศาลรธน. นางสดศรี สัตยธรรม เห็นว่าให้นายทะเบียนดำเนินการตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง ตาม ม.94 นายสมชาย จึงประเสริฐ เห็นว่าการที่นายเกียรติอุดมยื่นคำร้องต่อนายทะเบียนพรรคให้ดำเนินการต่อพรรคประชาธิปัตย์และกรรมการบริหารพรรค อันเป็นการฝ่าฝืนพ.ร.บ. นายทะเบียนจำเป็นต้องแสวงหาข้อเท็จจริง เพื่อให้สอดคล้องและเป็นไปตคามระเบียบข้อ 19 (1)
ดังนั้น กกต.จึงมีมติครั้งที่ 48/2552 แต่งตั้งคณะบุคคลเป็นคณะบุคคลสอบสวนสืบสวน ซึ่งกกต.มีอำนาจเพียงแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบส่วนเท่านั้น เมื่อสอบเสร็จแล้วต้องเสนอต่อนายทะเบียนพิจารณาก่อน เมื่อนายทะเบียนจัดทำความเห็นอยางใดจึงเสนอ กกต.ต่อไป ดังนั้น ชั้นนี้เห็นควรให้นายทะเบียนดำเนินการตามพ.ร.บ.พรรคการเมือง ส่วนนายวิสุทธิ์ โพธิแท่น เห็นว่าข้อเท็จจริงเห็นว่ามีการให้หรือบริจาคโดยทีพีไอ ผ่านเมซไซอะ วิเคราะห์แล้วจากความเห็นของกกต.ดังกล่าว ที่ประชุมมีมติเสียงข้างมากให้ส่งเรื่องให้นายทะเบียนพรรคพิจารณา เพราะนายทะเบียนพรรคยังไม่มีความเห็นให้ถูกต้องเสียก่อน และนายอภิชาติก็เห็นว่าพรรคดังกล่าวไม่ได้ทำผิด ไม่ควรถูกยุบพรรค
ต่อมา 12 เม.ย.53 นายทะเบียนเห็นควรเสนอ กกต.ว่า อาจมีการกระทำตาม ม.94 และเห็นว่าประชาธิปัตย์ อาจมีการกระทำตาม ม.94 แห่งพ.ร.บ.พรรคการเมือง หรือไม่ก็ได้ และเห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญจึงเสนอกกต. พิจารณามีมติ เพียงแต่เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญเท่านั้น ว่าอาจเป็นการกระทำตาม ม.94 ดังนั้นนายทะเบียนจึงต้องให้ความเห็นก่อน ที่กกต.จะให้ความเห็นมา
ส่วนความเห็นของนายประพันธ์ นางสดศรี นายสมชัย กรรมการกลับมีความเห็นว่าให้ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค ตามพ.ร.บ.พรรคการเมือง มีข้อสังเกตว่าความเห็นของทั้งสามมีความเห็นต่างจากครั้งแรกที่นายทะเบียนยังไม่มีความเห็น เมื่อไม่ปรากฏว่ามีความเห็นจากนายทะเบียนว่า พรรคผู้ถูกร้องกระทำตาม ม.94 ต้องถูกยุบพรรค และด้วยเสียงข้างมา 4 เสียงให้ส่งให้อัยการสูงสุดเพื่อให้ศาสรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคจึงข้ามขั้นตอน และไม่มีอำนาจจะให้เห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบได้ จึงมีความเห็นด้วยเสียงข้างมาก 4 ต่อ 3 ให้ยกคำร้อง
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1462 ครั้ง