แดงประกาศชุมนุมทุกวันที่ 19 รำลึกเสื้อแดงแย่งซีนกันเอง กลุ่ม “สมบัติ” กับซีก นปช. ธิดา-จตุพร จัดอีเวนต์ชิงมวลชนเรียกความสนใจแข่งกันทำแดงราชประสงค์ มึน “ทักษิณ” ร่อนจดหมายกลางงาน ปลุกให้สู้ไม่มีถอยจนกว่าจะชนะ ซัดเผด็จการทหารสั่งฆ่าประชาชน “หนูหริ่ง-สุรชัย” จวกสหายปูน-เมียเหวงดอดพบ “มาร์ค” ด้าน “ตุ๊ดตู่” งัดเอกสารดีเอสไอหวังตอกลิ่ม “เทือก-ประยุทธ์” นายกฯ ระบุแกนนำคงไม่ได้ประกันทุกคน
นัดหมายชุมนุมการเมืองเชิงสัญลักษณ์ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือคนเสื้อแดง ที่ประกาศจะมีการรวมตัวกันที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ทุกวันที่ 19 ของทุกเดือนนับแต่นี้ เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ 19 พฤษภาคม 2553 ที่มีการกระชับพื้นที่สลายการชุมนุมบริเวณสี่แยกราชประสงค์ โดยกิจกรรมรำลึก 7 เดือนเหตุการณ์ 19 พ.ค.ของคนเสื้อแดงที่สี่แยกราชประสงค์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม 2553 พบว่ามีคนมาร่วมพอประมาณ โดยคาดคะเนว่าน่าจะอยู่ที่ตัวเลข 1.2 หมื่นคน ซึ่งก็ดำเนินไปได้ด้วยดี
กิจกรรมดังกล่าวเริ่มตั้งแต่ช่วงสายวันอาทิตย์คือตั้งแต่ 10.00 น. ที่แยกราชประสงค์ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ แกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง ได้นัดหมายคนเสื้อแดงจัดกิจกรรมรำลึก 7 เดือนสี่แยกราชประสงค์ และเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักโทษทางการเมือง
พบว่าหลังการนัดหมายของกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง ปรากฏว่าทางกลุ่ม นปช.ชุดใหม่ที่มีนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ เป็นรักษาการประธาน นปช. ก็เข้ามาประกาศเป็นเจ้าภาพจัดงานรำลึกทับซ้อนกับนายสมบัติ ส่งผลให้กลุ่มวันอาทิตย์สีแดงจัดงานแยกส่วนออกไป โดยนัดหมายมวลชนวันอาทิตย์สีแดงที่ร้านแมคโดนัลด์ ใต้ศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่า เพื่อร่วมกับพับนกกระดาษสีแดง
ขณะที่คนเสื้อแดงอีกส่วนหนึ่งก็แยกไปรวมตัวกันจัดงานเลี้ยงพระเพลรำลึกให้ผู้เสียชีวิตที่วัดปทุมวนารามฯ บางกลุ่มก็ทยอยมาจัดกิจกรรมที่แยกราชประสงค์ ด้วยการนำผ้าแดงมาผูกถักร้อยเป็นตาข่ายขึงเต็มพื้นที่ ทั้งนำนกกระดาษแดงมาร้อยในตาข่ายจนเต็มเพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงการปล่อยตัวผู้ถูกคุมขังทางการเมือง
นายสมบัติกล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้เพื่อแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลมีส่วนร่วมในการก่ออาชญากรรม จึงขอให้รัฐบาลส่งผู้ที่เกี่ยวข้องไปให้ข้อมูลกับคณะกรรมการ คอป.ชุดนายคณิต ณ นคร ด้วย พร้อมกับระบุว่ามีคนเสื้อแดงไม่เห็นด้วยกับการที่นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ไปนัดหารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนถึงความโกรธของคนเสื้อแดงที่ไม่ต้องการให้มีการเจรจาทางลับกับนายอภิสิทธิ์ อย่างไรก็ตามยังสนับสนุนแนวทางของนางธิดา และเชื่อว่าการเจรจาครั้งนี้ไม่คิดว่าจะเป็นการขอให้ประกันตัวแกนนำอย่างเดียว คงจะมีการขอให้ประกันตัวคนเสื้อแดงที่ยังอยู่ในเรือนจำด้วย
“รักษาการประธาน นปช.ควรอธิบายเรื่องนี้กับคนเสื้อแดง ส่วนคนเสื้อแดงที่วิจารณ์นั้นก็มีสิทธิ์ แต่ไม่ควรโจมตี แต่สะท้อนให้เห็นถึงสถานะของ นปช.ด้วยว่าอยู่ในสถานะใดในขบวนคนเสื้อแดง ซึ่งหากเป็นประธานแล้วไม่มีคนตามก็คงมีปัญหา” นายสมบัติกล่าว
ต่อมาในช่วงสายคือตั้งแต่ 14.00 น. คนเสื้อแดงจำนวนมากทยอยเดินทางมายึดพื้นที่บนถนนราชดำริฝั่งมุ่งหน้าแยกประตูน้ำทั้งสองฝั่ง ทำให้ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ที่มาดูแลม็อบเสื้อแดงต้องนำกำลังตำรวจกว่า 7 กองร้อยเข้าควบคุมสถานการณ์ โดยช่วงแรกตำรวจใช้รั้วแผงเหล็กกั้นถนนราชดำริไว้ไม่ให้มวลชนล้ำเข้าปิดแยกราชประสงค์ แต่สุดท้ายคนเสื้อแดงที่ทยอยมากันมากขึ้นก็รวมตัวกันผลักดันตำรวจทำให้ตำรวจถอยร่นจนยึดสี่แยกราชประสงค์ได้สำเร็จ
หลังเสื้อแดงปิดแยกราชประสงค์สำเร็จก็ใช้รถกระบะแวนติดเครื่องเสียงมาเปิดเพลงดังกระหึ่มกลางแยก และร่วมกันร้องรำทำเพลงกันกลางสี่แยกโดยไม่สนใจว่าจะทำให้การจราจรเป็นอัมพาตตลอดทั้งเส้น ขณะที่ศูนย์การค้าในย่านราชประสงค์ทั้งหมดก็ต้องใช้แผงรั้วเหล็กมากั้นหน้าศูนย์การค้าเอาไว้ไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้ามาใกล้ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหาย
ขณะที่ซีกของกลุ่มวันอาทิตย์สีแดงของนายสมบัติ แม้จะพยายามจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น นำนักร้องคอรัสเสื้อแดงกว่า 50 คนที่ฝึกซ้อมกันมาขึ้นไปบนสกายวอล์กกลางสี่แยกราชประสงค์เพื่อเริ่มกิจกรรมรำลึก 7 เดือนราชประสงค์ โดยมี จิ้น กรรมาชน ศิลปินเสื้อแดง นำร้องประสานเสียงคอรัสในเพลงที่ชื่อ เดิมพัน และเพลงนักสู้ธุลีดิน
แต่ผลปรากฏว่ากิจกรรมกลุ่มวันอาทิตย์สีแดงกลับไม่ได้รับความสนใจจากกลุ่มคนเสื้อแดงที่ยึดแยกราชประสงค์ ต่างร้องรำทำเพลงเปิดเพลงกระหึ่มกันตามอำเภอใจในลักษณะแบบต่างคนต่างจัดเหมือนกับแย่งซีนกันเอง
จนกระทั่งในช่วงเย็น นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช., นางธิดา ถาวรเศรษฐ์, นายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ โฆษก นปช. เดินทางมายังวัดปทุมวนารามฯ เพื่อร่วมจัดพิธีบวงสรวงดวงวิญญาณให้ผู้เสียชีวิตในวัดปทุมวนารามฯ โดยมีนายศักดิ์ระพี พรหมชาติ พราหมณ์เสื้อแดง ที่เพิ่งได้รับการประกันตัวจากเรือนจำรับหน้าที่เป็นเจ้าพิธี
สำหรับพิธีดังกล่าวทางกลุ่มได้มีการตั้งแท่นบวงสรวงแบบพราหมณ์ในวัดปทุมฯ ท่ามกลางคนเสื้อแดงจำนวนมากที่เดินทางเข้าร่วม เป็นที่น่าสังเกตว่าระหว่างพิธีกรรมของกลุ่ม นปช.ที่บริเวณใกล้ๆ กัน ได้มีกลุ่มแดงสยาม นำโดยนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ เป็นแกนนำ พร้อมด้วยนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เดินทางมาแจกลายเซ็นให้กับคนเสื้อแดง แต่ไม่ได้เข้าร่วมกับพิธีของ นปช.แต่อย่างใด เช่นเดียวกับนายสมบัติ แกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง ซึ่งหลังจากจัดพิธีร้องเพลงคอรัสและปล่อยนกกระดาษสีแดงที่ป้ายราชประสงค์แล้วก็เดินทางกลับเช่นกัน
นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ แกนนำกลุ่มแดงสยาม ให้สัมภาษณ์ว่า แม้นางธิดาจะเคยอยู่ในป่า แต่ก็ยังไม่ถือว่าผ่านบทพิสูจน์ เพราะสมัยอยู่ป่าก็นำสหายออกมามอบตัว การที่ไปพบนายกฯ ก็โกหกได้ไม่สนิท เพราะหากต้องการที่จะให้มีการปล่อยตัวแกนนำจริง จะต้องได้รับการปล่อยตัวด้วยการต่อสู้ นั่นคือการขับไล่รัฐบาลชุดนี้ แต่ไม่ใช่ด้วยการร้องขอ เพราะหากเป็นการร้องขอ เท่ากับว่าการต่อสู้ของคนเสื้อแดงและคนที่เสียชีวิตก็ถือว่าสูญเปล่า สงสัยว่านายกฯ มีอำนาจในการสั่งศาลได้หรือ ถึงไปต่อรองให้ประกันตัวแกนนำ ส่วนตัวไม่สนใจว่าจะร่วมขบวนกับ นปช.หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยร่วมอยู่แล้ว นางธิดาอย่ามาอุปโลกน์ตัวเองว่าเป็นผู้นำ
ทักษิณไม่เลิกปลุกระดม
ต่อมา นายจตุพรและนางธิดาร่วมแถลงข่าวยืนยันว่าไม่มีความแตกแยกในหมู่เสื้อแดง จากนั้นนายจตุพรได้อ่านจดหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ส่งมาถึงคนเสื้อแดงว่า “วันนี้เป็นวันครบรอบ 7 เดือนของความสูญเสียครั้งสำคัญที่คนไทยต้องถูกสังหารโดยทหารไทยที่มีไว้สำหรับต่อสู้ผู้มารุกรานแผ่นดินของเรา ที่พี่น้องต้องมาเสียชีวิตและประสบเคราะห์กรรมก็เพราะมาดิ้นรนต่อสู้เพื่ออยากได้ความเป็นธรรมและความเป็นประชาธิปไตยของประเทศกลับคืนมา
ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งอีกครั้งหนึ่ง และขอร่วมไว้อาลัยกับทุกๆ ท่าน ตลอดจนครอบครัวที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักยิ่งของท่านไปทั้ง 91 ครอบครัว ตลอดจนผู้ต้องได้รับบาดเจ็บ ทั้งสาหัส ทุพพลภาพ และบาดเจ็บทั่วไป รวมทั้งผู้ที่ต้องติดคุกและต้องหนีออกนอกประเทศหรือต้องหลบๆ ซ่อนๆ เพราะความไม่ยุติธรรมของเผด็จการปัจจุบัน
ผมขออภัยที่ไม่ได้มาร่วมแสดงความไว้อาลัยพร้อมกับท่านทั้งหลาย ผมเชื่อว่าท่านคงจะเข้าใจว่าผมยังคงต้องระหกระเหินต่อไปจนกว่าประชาธิปไตยและความยุติธรรมที่ถูกปล้นไปจะกลับคืนมา ผมขอเป็นกำลังใจในการต่อสู้อย่างบริสุทธิ์ สันติ อหิงสาของท่านทั้งหลาย ขอได้โปรดใช้ความอดทน อดกลั้น ถึงแม้จะถูกรังแก ข่มเหงอย่างไรก็ตาม ความสันติเท่านั้นที่จะนำมาซึ่งชัยชนะของฝ่ายประชาธิปไตยและประเทศอันเป็นที่รักยิ่งของเราจะได้ไม่บอบช้ำเกินกว่าจะเยียวยา ขอให้ท่านปลอดภัยและมีชัยในการเรียกร้องหาประชาธิปไตยและความเป็นธรรมโดยเร็ว”
จากนั้น นางธิดากล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ที่ทางกลุ่มคนเสื้อแดงจะมีการแตกคอกัน เพราะว่าตั้งแต่มีการต่อสู้ร่วมกันมา หัวใจพวกเราได้หลอมรวมกัน แต่ยอมรับว่าก่อนหน้านี้มีปัญหาเรื่องความเห็นที่ไม่ลงรอยกัน แล้วถูกนำมาเป็นจุดอ่อนมาโจมตี นปช.ว่ามีความขัดแย้งกันจริง ยืนยันว่า นปช.มีความเป็นเอกภาพ
“พบนายอภิสิทธิ์ไม่ได้เข้าไปเพื่อที่จะขอให้แกนนำ นปช.ได้รับการปล่อยตัวอย่างที่ถูกกล่าวหา เพราะถ้าแกนนำจะถูกปล่อยตัวก็คงไม่ใช่ในฐานะผู้ที่มีความผิด สำหรับการพูดคุยครั้งนี้ก็เป็นไปตามมารยาท และไม่มีการนัดกัน หลังจากนี้ นปช.จะมีการยกระดับในการชุมนุมโดยจัดนัดหมายคนเสื้อแดงในต่างจังหวัดไปชุมนุมหน้าเรือนจำทุกวันที่ 10 และ 19 ของทุกเดือน” นางธิดากล่าว
จนกระทั่งในช่วงค่ำคือ 18.28 น. แกนนำ นปช.ทั้งหมดเดินทางไปยังแยกราชประสงค์พร้อมเชิญชวนมวลชนเสื้อแดงร่วมพิธีจุดเทียนไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุชุมนุมที่ผ่านมาท่ามกลางบรรยากาศอันเศร้าสลด โดยตำรวจสันติบาลรายงานว่ามีผู้ชุมนุมเสื้อแดงเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ราว 1.2 หมื่นคน ซึ่งหลังเสร็จพิธีก็จะแยกย้ายสลายตัวกลับ
ขณะที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ แถลงว่า กรณีนางธิดา, นายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช. ไปพบปะพูดคุยกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ถูกคนในรัฐบาลนำไปขยายผลจนเกิดความเข้าใจผิดในหมู่คนเสื้อแดง ทั้งที่นางธิดาไม่เคยนัด แต่นายอภิสิทธิ์ส่งนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ มาถาม ขณะที่นางธิดา, นายวีระ, นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.การพัฒนาสังคมฯ ขณะพูดคุยกันว่านายกฯ จะขอพบด้วยได้หรือไม่ โดยนางธิดาก็ให้พบ ไม่มีการเจรจา ไม่ใช่เป็นการยอมจำนน แต่ลูกหาบรัฐบาลกลับค้ากำไรเกินควร
“เรื่องนี้ได้สร้างความระส่ำระสาย ความซวยให้คนเสื้อแดง คนในรัฐบาลเสี้ยมให้แตกกัน ที่ผ่านมาผมและนางธิดาพูดคุยกันตลอด คนเสื้อแดงต้องมั่นใจว่าจะไม่มีใครทรยศ เพราะนายณัฐวุฒิและพี่น้องติดคุกก็เพราะถูกใส่ร้ายจากนายอภิสิทธิ์ แม้ผมจะถูกขังหรือต้องตายก็จะไม่ขอความเมตตาจากฆาตกร นายณัฐวุฒิและเสื้อแดงในเรือนจำบอกมาว่าถ้าต้องเอาเสรีภาพไปแลกจุดยืน ขอให้เขาอยู่ในคุกดีกว่า วันที่ 23 ธ.ค.จะแถลงข่าวนำเอกสารของดีเอสไอที่จัดทำถึงการตายของประชาชนจากทหารหน่วยไหน โดยใคร จากนั้นจะนัดหมายคนเสื้อแดงนำเอกสารไปมอบให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ที่กองทัพบก จะนำคำสั่งที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ สั่งให้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ สั่งสอบทหารที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์การที่ พล.อ.ประยุทธ์ยกย่องนายสุเทพนักหนา จะได้รู้ว่าปฏิบัติต่อหมู่มิตรอย่างไร จะได้พ้นจากความโง่ ตาสว่าง เรื่องนี้จะบ่งบอกถึงความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างทหารกับรัฐบาล” นายจตุพรกล่าว
“มาร์ค”ยันต้องเดินหน้าคุยแกนนำต่อ
ด้านนายอภิสิทธิ์กล่าวถึงกรณีที่นางธิดาตั้งความหวังว่าแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงจะได้รับการประกันตัวก่อนปีใหม่ว่า กลุ่มที่ไม่ใช่แกนนำน่าจะมีความคืบหน้าได้รวดเร็ว แต่จะได้ประกันตัวก่อนปีใหม่หรือไม่ ไม่สามารถตอบได้ เพราะมีขั้นตอนที่จะต้องพูดคุย หาข้อสรุปเพื่อยื่นต่อศาล และขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล โดยหลักต้องยอมรับว่าคนที่ไม่ใช่แกนนำจะเป็นคนที่มีโทษความผิดต่ำกว่า จะง่ายกว่าที่จะนำข้อมูลสนับสนุนไปยื่นประกันตัวที่คืบหน้าไปจะเป็นกรณีที่ไม่ใช่แกนนำก็มีความหวังดีขึ้นจากการที่อย่างน้อยมีการคุยกัน
เมื่อถามว่า เป็นเพราะนายกฯ ไปให้ความหวังใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ เพราะพูดตรงไปตรงมา ถ้าไปทำอะไรเป็นพิเศษกับแกนนำก็จะเป็นเรื่องของสองมาตรฐาน แต่ถ้าไม่คุยกับแกนนำเลยมันก็ขยับอะไรไม่ได้เลย ตอนนี้คุยกันมันก็มีโอกาสที่จะขยับได้ ความหวังมันก็ต้องดีขึ้นแน่นอน
“ไม่มีการแลกเปลี่ยนอะไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการชุมนุมหรือการประกันตัว มันต่อรองกันไม่ได้ หลายคนเข้าใจผิดว่าประกันตัวมาแล้วเหมือนกับไม่มีการดำเนินคดี ตรงนี้ไม่ใช่ เป็นการดำเนินคดีตามปกติ เพียงแต่ว่าระหว่างที่ยังไม่ได้ขึ้นศาล ไม่ได้อะไรต่างๆ ก็ไม่ได้ถูกคุมขัง ก็เป็นเรื่องปกติ แต่อยู่ที่ดุลพินิจของศาล ศาลไม่ได้ให้ทุกคนอยู่แล้ว เคยทำไปแล้ว 5 คน ยังได้แค่ 3 คน อีก 2 รายศาลบอกว่ายังไม่สมควร เมื่อศาลบอกว่าไม่สมควรก็จบ” นายกฯ กล่าว
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 907 ครั้ง