ธิดา ต่อรองผัวต้องไม่มีเงื่อนไข

นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย และนายคารม พลทะกลาง ทนายความนปช. ได้เข้าพบนางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิฯ เพื่อหารือเรื่องการยื่นประกันตัวจำเลยกลุ่มแกนนำนปช.และแนวร่วมนปช.ที่ถูกควบคุมตัวระหว่างการพิจารณาคดี ภายหลังคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และสำนักงานอัยการสูงสุด ไม่คัดค้านการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว

นางธิดา กล่าวว่า  ในวันที่ 22 ธ.ค. นี้จะมอบหมายให้นายนรินท์พงศ์ เข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์เพื่อขอให้ปล่อยตัวชั่วคราวแกนนำนปช.และแนวร่วมนปช.ต่อกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ โดยในช่วงเช้านายนรินท์พงศ์จะเข้าหารือกับแกนนำที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ และหากแกนนำเห็นชอบภายในวันเดียวกันจะเข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมจากกรมคุ้มครองสิทธิฯอย่างเป็นทางการพร้อมหลักทรัพย์ของตนเอง

ส่วนเรื่องการประกันตัวจะยื่นประกันตัวแนวร่วมพร้อมแกนนำนปช.ทั้งหมด และอยากให้เข้าใจว่า การดำเนินการครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ของประชาชน และไม่ใช่การใช้สิทธิพิเศษของแกนนำนปช.ไม่มีการต่อรองผลประโยชน์ ซึ่งการเข้ามาติดต่อกับกรมคุ้มครองสิทธิฯครั้งนี้เป็นการใช้สิทธิในฐานะประชาชนทั่วไป แต่สังคมไทยมักนำความเชื่อมาแทนความจริง ดังนั้นขอยืนยันว่าการดำเนินการครั้งนี้ไม่ใช่การก้มหัวให้รัฐบาลหรือหน่วยงานราชการ

นางธิดา กล่าวว่า เมื่อจะออกมาก็ควรเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองไม่ใช่ออกมาเป็นตอไม้ เพราะตอไม้ทำประโยชน์อะไรให้บ้านเมืองไม่ได้ อยากให้ออกมาเช่น ช่วยการปรองดองเพื่อบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นจะได้ไม่ประสบชะตากรรมเหมือนประเทศอื่นๆ แต่ตนคงตอบแทนแกนนำไม่ได้ ต้องให้ทนายเข้าไปหารือว่าแกนนำจะมีความเห็นเป็นอย่างไร

ถามว่า ในฐานะภรรยานพ.เหวง หากได้รับประกันตัวแล้วต้องมีสภาพเป็นตอไม้ ยังต้องการให้ประกันตัวออกมาหรือไม่ นางธิดา กล่าวว่า ตนไม่ขอตอบในฐานะภรรยาหมอเหวง แต่มาในฐานะรักษาการประธานนปช. ที่สำคัญแกนนำไม่ใช่เป็นเรื่องของหมอเหวงหรือแค่นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อเท่านั้น แต่จะต้องเป็นความเห็นร่วมกันทั้งหมดของแกนนำ

ถามว่า แกนนำทุกคนอยากออกมาใช่หรือไม่ นางธิดา กล่าวว่า เขาอยู่ได้ และทุกคนมีชีวิตปกติ เป็นห่วงบ้านเมือง โดยเฉพาะนพ.เหวงที่เป็นห่วงตนเองที่จะต้องประสบกับปัญหามากมาย อย่างไรก็ตาม สำหรับมติครม.ที่มีความเห็นให้ปล่อยกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวน 104 คน ที่ถูกยังอยู่ในเรือนจำต่างๆนั้นถือเป็นเรื่องที่ดีและจะต้องมาดูว่าเป็นการแสดงหรือจะเป็นเรื่องจริง ซึ่งต้องรอดูต่อไปและเรานิ่งพอที่จะรอดูว่าทั้งหมดนี้เป็นการแสดงหรือเป็นการหลอกลวงคนดู เพราะถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้แสดงให้เห็นว่าความยุติธรรมในอัตราที่สูงขึ้น และหลังจากนี้ความจริงเรื่องการเสียชีวิตของกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงก็จะต้องปรากฏ

“ในฐานะรักษาการเห็นว่า เดือนนี้จะไม่เคลื่อนไหวแล้วจนถึงเทศกาลปีใหม่ แต่จะเปลี่ยนมาเป็นวันที่ 10 ม.ค.และหากจังหวัดใดผู้ต้องขังเสื้อแดงได้รับการปล่อยตัวแล้ว ก็อาจจะไม่มีการจัดชุมนุมอีกต่อไป”นางธิดา

ด้าน นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)  กล่าวว่า ในส่วนของดีเอสไอยังต้องรอฟังคณะรัฐมนตรีที่ชัดเจน เบื้องต้นครม.ไม่ได้มีมติให้ประกันตัวแนวร่วมคนเสื้อแดงทั้ง 104 ราย แต่สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดีเอสไอ และสำนักงานอัยการสูงสุด หารือร่วมกันเพื่อพิจารณาไม่คัดค้านการยื่นขอประกันตัวสำหรับผู้กระทำความผิดที่ไม่ใช่ตัวการในคดีก่อการร้ายและมีพฤติการณ์เบาบางเช่น ถูกแจ้งข้อกล่าวหาคดีขู่บังคับรัฐบาล ปิดถนน กีดขวางทางจราจร หรือร่วมก่อเหตุวางเพลิง ทั้งนี้ ยืนยันว่า ไม่รวมผู้ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาร้ายแรง อาทิ ยิงระเบิด เอ็ม 79 ใส่ทหาร ประชาชน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ส่วนนายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ(คอป.) กล่าวว่า การที่รัฐบาลมีมติให้ปล่อยตัวกลุ่มแกนนำนปช.และผู้ต้องขังคนเสื้อแดงตามข้อเสนอของคอป.ถือเป็นสัญญาณที่ดี  ถือเป็นการตอบสนองแนวทางในการปรองดอง เพราะข้อเสนอแนะที่คอป.ไม่ได้นำความรู้สึกมาใช้ แต่เป็นไปตามหลักวิชาการ ซึ่งมีทิศทางไปในทางบวกและมีผลต่อส่วนร่วมก็ถือว่าใช้ได้