อย่างไรก็ตาม ในการเข้ากวาดล้างยาเสพติดเชิงรุกในครั้งนี้ ได้แบ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจออกเป็น 4 ชุด เข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณชุมชนจารุรัตน์ ซอยเพชรบุรี 35 จำนวน 4 จุด ซึ่งชุมชนจารุรัตน์แห่งนี้เป็น 1 ใน 26 ชุมชนที่เป็นเป้าหมายหลักในการกวาดล้างของพื้นที่รับผิดชอบของกองบังคับการตำรวจนครบาล 1
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า ปัญหายาเสพติดมีแนวโน้มแพร่ระบาดมากยิ่งขึ้น ทางกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 จึงต้องเร่งระดมตรวจค้นชุมชนกลุ่มเสี่ยง เพื่อทำการกวาดล้างปัญหาอาชญากรรม และยาเสพติดให้หมดไป ตามนโยบายของรัฐบาลที่เอาจริงเอาจังกับการกวาดล้างขบวนการค้ายาเสพติด รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปพัวพันกับเครือข่ายค้ายาเสพติด ไม่ว่าจะสนับสนุน หรือเอื้อประโยชน์ให้กับขบวนการดังกล่าว ก็จะต้องดำเนินการจัดการกับตำรวจนอกรีต ให้ถึงที่สุด
ผบก.น. 1 กล่าวต่อไปว่า ในพื้นที่ บก.น.1 มีผลการจับกุมยาเสพติดในนครบาลเป็นอันดับ 1 มาเป็นเวลา 8 เดือนแล้ว และวันที่ 26 ธ.ค.นี้ จะเรียกประชุม บก.น.1 ทั้งหมด เพื่อกำชับอย่าให้ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องโดยเด็ดขาด ทั้งทางตรงและทางอ้อมไม่เช่นนั้นจะต้องถูกดำเนินคดี ซึ่งที่ผ่านมาไม่กังวลว่า จะปราบได้แค่ไหน นอกจากนี้ ยังมีโครงการ “บก.น.1 พึ่งได้” โดยจะทำเวทีชาวบ้าน ว่าจะให้ตำรวจทำอะไรให้บ้าง ซึ่งในทางตรงข้ามก็จะขอชาวบ้านช่วยตำรวจอย่างไรด้วย ถือเป็นการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน
ทั้งนี้ จากการตรวจค้นบ้านเลขที่ 666/60 ในชุมชนจารุรัตน์ ซึ่งเป็นบ้านของนายบรรพต กลิ่นประณีต อายุ 22 ปี สามารถตรวจยึดของกลางเป็นซองกระสุนปืนเอ็ม 16 ระเบิด M 26 และเสื้อเกราะกันกระสุนอีก 1 ตัว โดยนายบรรพตสารภาพว่า ของกลางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดในครั้งนี้ หลงเหลือมาจากการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ผ่านมาและที่หน้าประตูบ้านของนายบรรพตเอง ก็ได้ผูกนกกระดาษสีแดงห้อยไว้ที่หน้าประตูบ้านด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ และจะทำการค้นหาต้นตอที่มาของอาวุธดังกล่าวต่อไป
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตรวจพบว่า นายบรรพตเคยต้องโทษคดีเสพ และมีพฤติกรรมเป็นผู้จำหน่าย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาคดีเสพและครอบครองรายอื่น ๆ ได้อีก 17 คน พร้อมของกลางยาบ้า 150 เม็ด โดยจะได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปดำเนินคดีต่อไป
บกน.2 ลุยกวาดล้างอาชญากรรม
เวลา 10.00 น. พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ รองผบช.น. พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รองผบก.น.2 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผบก.น.2 พ.ต.อ.ณัฐวัฒน์ การดี ผกก.สน.ประชาชื่น และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.ประชาชื่น แถลงผลการระดมกวาดล้างปราบปรามอาชญากรรมและยาเสพติดในพื้นที่บก.น.2 ระหว่างวันที่ 22-23 ธันวาคม ตามนโยบายของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวนทั้งสิ้น 111 ราย พร้อมของกลางจำนวนมาก
พล.ต.ต.สาโรจน์ เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ได้กำชับให้เร่งกวาดล้างอาชญากรรมและยาเสพติด จึงได้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดล้อมชุมชุนเป้าหมายในเขตพื้นที่บก.น.2 เพื่อกวาดล้างยาเสพติดและอาชญากรรมให้หมดสิ้นไป สำหรับชุมชนที่เข้าปิดล้อมตรวจค้นได้แก่ชุมชน ตรอกลิงและชุมชนสวัสดิรักษา ในท้องที่สน.เตาปูน เนื่องจากเป็นชุมชนที่มีการแพร่ระบาดในเรื่องของยาเสพติดจำนวนมาก ซึ่งจากการตรวจค้นสามารถจับกุมผู้ต้องหาครอบครองยาบ้าเพื่อจำหน่ายได้จำนวน 12 คน พร้อมของกลางยาบ้า 1,283 เม็ด และยาไอซ ์ 0.52 กรัม จับกุมผู้ต้องหาครอบครองยาบ้าได้ 18 ราย ของกลางยาบ้า 36 เม็ด จับกุมผู้ต้องหาครอบครองยาไอซ์ได้ 1 ราย พร้อมของกลางยาไอซ์ 0.06 กรัม จับกุมผู้ต้องหาครอบครองกัญชาได้ 4 ราย พร้อมของกลางกัญชา 3 ห่อ และจับกุมผู้ต้องหาเสพยาบ้าได้ 58 ราย
พล.ต.ต.สาโรจน์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์และครอบครองอาวุธปืนรวมถึงคดีค้างเก่าได้อีกหลายราย โดยอาวุธปืนที่ตรวจยึดมาได้จะต้องนำไปตรวจสอบอย่างละเอียดว่าเคยมีการนำไปก่อเหตุอาชญากรรมหรือไม่ ส่วนคดีที่น่าสนใจคือคดีลักรถจยย. เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน พร้อมของกลางรถจยย. 1 คัน โดยพฤติกรรมของผู้ต้องหาจะร่วมกับพวกตระเวนใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์เหยื่อที่ขับรถจยย.มาคนเดียว จากนั้นก็จะนำรถไปขายต่อ ซึ่งขณะนี้ฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการแล้ว ส่วนผู้ต้องหาทั้งหมดที่จับกุมได้จะนำตัวส่งพนักงานสอบสวนท้องที่ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.เอื้อพงษ์ โกมารกุล ณ นคร รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมชาย พัชรอินโต ผบก.น.5 พ.ต.อ.วราวุธ ทวีชัยการ พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สส.บก.น.5 พ.ต.อ.เมธี รักพันธ์ ผกก.สน.วัดพระยาไกร สนธิกำลังเจ้าหน้ที่ตำรวจจาก บก.อคฝ. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.5 ชุดจู่โจม บก.น.5 และสน.วัดพระยาไกร จำนวน 278 าย พร้อมสุนัขตำรวจ จำนวน 1 ตัว เข้าปิดล้อตรวจค้นพื้น 9 เป้าหมาย ใน 6 ชุมชุนที่อยู่นพื้นที่รับผิดชอบของ สน.วัดพระยาไกร ประกอบด้วยชุมชนหลังสามร้อยห้อง ชุมชนกิ่งจันทร์ ชุมชนวัดไผ่เงิน ชุมชนหลังโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ชุมชนวัดบางโคล่นอก และชุมชนวัดพระยาไกรระยะ 3
ผลการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายสุรชัย หรือ มาน โตหัวป่า อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120/68 ซอยจันทร์ 51 พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 30,000 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน 4 กิโลกรัม รถเก๋ง จำนวน 1 คัน และรถจยย.จำนวน 2 คัน และน.ส. อุษา หรือยุ้ย สว่างอารมณ์ พร้อมของกลางยาบ้า 25 เม็ด นอกจากนี้ยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาคดีเสพยาเสพติดจำนวน 17 ราย คดีครอบครองยาบ้า 1 ราย จับกุมอาวุธปืน ขนาด 635 ได้ 1 กระบอก พร้อมกระสุน แล
พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวว่า นายสุรชัย เป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.วัดพระยาไกร ติดตามมานานแล้ว แต่ก้สามารถหลบหนีมาได้ตลอด ซึ่งจากการสอบสวนให้การรับสรภาพโดยอ้างว่า เป็นเพียงผู้รับจ้างส่งยาบ้าเท่านั้น โดยไปรับยามาจากย่านปิ่นเกล้า ก่อนจะนำไปส่งให้ลูกค้า แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน และหากเสร็จงานก็จะได้ค่าจ้างครั้งละ 30,000-40,000 บาท โดยครั้งนี้ผู้ต้องหาอ้างว่า ไม่ทราบว่ามียาไอซ์มาด้วย
พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้กำลังเจ้าหน้าที่ชุดเดียวกันยังได้เข้าตรวจปิดล้อมตรวจค้นในเขตพื้นที่ สน.ทองหล่อ ผลปรากฏว่า สามารถยึดของกลางยาบ้าจำนวน 608 เม็ด ยาไอซ์ 0.98 กรัม ยาไฟว์โฟว์ 20 เม็ด กระสุนปืน ขนาด 9 ม.ม.50 นัด เงินสด 60,000 บาท สร้อยคอทองคำ จำนวน 1 เส้น กำไล 1 วง ซึ่งเป็นของ น.ส.พัชราภรณ์ หรือเอ๋ คำหุ่น ที่หลบหนีไปได้
บกน.8 จับขาใหญ่ยาเสพติด
เวลา 05.45 น. พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง รอง ผบก.น.8 พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิศาล พันธุ์มณี ผกก.สน.บุคคโล พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผกก.สน.สำเหร่ พ.ต.ท.ธีรศักดิ์ ภิญโญ รอง ผกก.สส.บก.น.8 สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน 30 นาย พร้อมอาวุธครบมือ นำหมายค้นศาลอาญาธนบุรี เลขที่ 801/2553 ลงวันที่ 23 ธ.ค.53 เข้าตรวจค้นห้องพักเลขที่ 235/257 ชั้น 13 อาคารคอนโดมิเนียมเปี่ยมรัก เรสซิเด้นท์ ซอยรัชดา-ท่าพระ 5 แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี หลังสืบทราบว่า นายอมร หรือบังโจ้ ธนูสา อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/19 ตรอกอุทัย แขวงบางค้อ เขตจอมทอง นักค้ายาเสพติดเครือข่ายเดียวกับนายสุเทพ บุญกระจ่าง หรือ “ตั้มเป๋” นักค้ายาชื่อดังฝั่งธนบุรี ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.8 จับกุมไปแล้ว ใช้ห้องดังกล่าวเป็นที่พักและอาจซ่อนยาเสพติดเอาไว้
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงก็พบว่าประตูห้องถูกล็อกจากด้านใน เจ้าหน้าที่จึงก้มลงส่องรูช่องว่างใต้ประตูก็เห็นไฟภายในห้องน้ำถูกเปิดทิ้งไว้ เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัว รปภ.ของคอนโดมิเนียมดังกล่าวมาเป็นพยานในการตรวจค้น จากนั้นจึงเคาะประตูเรียกคนในห้องให้มาเปิดประตู จากนั้นนายอมร ซึ่งอยู่ในสภาพนุ่งกางเกงขาสั้นเพียงตัวเดียว และกับ น.ส.ปวีณา หนูเทศ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 ถนนสุขาภิบาล 2 ซอย 15 แยก 2-8 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ แฟนสาวของนายอมรที่อยู่ในสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ยอีก 1 คน ลุกจากเตียงนอนมาเปิดประตูด้วยอาการงัวเงีย
เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจช่วยกันถีบพังประตูห้องพักดังกล่าว พร้อมใช้โล่กันกระสุนเป็นเครื่องกำบังก่อนเข้าไปชาร์จจับกุมตัวนายอมรกับ น.ส.ปวีณาเอาไว้ได้ แต่ก็ใช้เวลานานเกินกว่า 3 นาที จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันตรวจค้นภายในห้องพัก แต่ก็ไม่พบยาเสพติด อุปกรณ์การเสพ หรือสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ แต่อย่างใด มีเพียงสมุดรายงานตัวผู้ถูกจับกุมคดียาเสพติดของนายอมรเพียง 1 เล่มเท่านั้น
จากการสอบสวนนายอมรให้การว่า คบหาอยู่กินกับ น.ส.ปวีณา ซึ่งเป็นพริตตี้และรับงานถ่ายแบบนู้ดให้นิตยสารแนวปลุกใจเสือป่ามีรายได้เดือนละนับแสนบาทมานานแล้ว โดยก่อนหน้านี้ตนเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วัดพระยาไกร จับกุมข้อหาครอบครองยาเคตามีนภายในผับชื่อดังแห่งหนึ่ง ตอนนี้ยังต้องไปรายงานตัวต่อศาลเป็นระยะ ส่วนเรื่องยาเสพติดไม่ได้ข้องเกี่ยวมานานแล้ว เพราะปัจจุบันตนเป็นพนักงานบริษัทขายเครื่องมือแพทย์ ที่มีความมั่นคงพอสมควรแล้ว
ด้าน พ.ต.อ.จีรศักดิ์กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของนายอมรมากนัก เนื่องจากสายลับยืนยันข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่าเจ้าตัวมีส่วนพัวพันกับธุรกิจมืดอย่างแน่นอน นอกจากนี้ นายอมรยังมีชื่ออยู่ในบัญชีดำของหน่วยงานอื่นๆ ต้องการตัวอยู่เช่นกันด้วย ไม่ได้อยู่ในบัญชีดำของ บก.น.8 เพียงแห่งเดียว ทั้งนี้ห้องพักของนายอมรนั้นใช้กลอนประตูและระบบรักษาความปลอดภัยค่อนข้างแน่นหนาพอสมควร ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาในการบุกเข้าตรวจค้นมากไปหน่อย หากในห้องมียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ก็จะสามารถทิ้งลงโถส้วมหรือโยน ทิ้งด้านหลังระเบียงที่เป็นป่ารกได้ โดยหลังจากนี้จะนำตัวนายอมรกับ น.สปวีณาไปสอบปากคำที่ สน.บุคคโลอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อทำประวัติเก็บข้อมูลสำคัญเอาไว้ใช้ในการปราบปรามยาเสพติด
บกน.7 กวาดล้างยาเสพติด
ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 06.00 น.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผบก.น.7 พ.ต.อ.พจน์ บุญมาภาคย์ รอง ผบก.น.7 พ.ต.อ.พิรพล อัจกลับ ผกก.สส.บก.น.7 นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนกก.สส.บก.น.7 ออกระดมกวาดล้างจับกุมยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายในพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวนกว่า 200 ราย พร้อมของกลางอาวุธมีดดาบ 5 เล่ม ยาบ้า ยาไอซ์ และอุปกรณ์การเสพอีกจำนวนหนึ่ง
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 2502 ครั้ง