นายแบงก์ใหญ่ชี้ดูไบเวิลด์ ไม่ควรยืดหนี้เกิน 8 ปี

“การขยายระยะ
เวลาการชำระหนี้จะเป็นผลดีกับทั้งเจ้าหนี้และดูไบเวิลด์เอง
แต่มันไม่ควรนานมากจนธนาคารเจ้าหนี้ไม่เห็นชอบกับเงื่อนไขนี้”
นายยูซิฟซึ่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอัลบาราการ แบงกิ้ง กรุ๊ป
บีเอสซีด้วยกล่าวระหว่างงานแถลงข่าวที่ดูไบ อายุของเงินกู้ไม่ควรถุกยืดไป
เกิน 8 ปี นายยูซิฟให้ความเห็นเพิ่มเติม

แหล่งข่าวจากนายธนาคาร 3 คนที่ใกล้ชิดเรื่องนี้เปิดเผยกับบลูมเบิร์
กว่า ดูไบเวิลด์จะร้องขอให้ธนาคารเจ้าหนี้อนุมัติแผนการชะลอการชำ
ระหนี้หลังจากบริษัทนำเสนอแผนการปรับโครงสร้างหนี้ในเดือนนี้

แหล่ง
ข่าวเดียวกันนี้ยังระบุว่า ธนาคารเจ้าหนี้อาจหลีกเลี่ยงการถูกแฮร์คัต
หรือลดจำนวนเงินที่จะได้รับชำระหนี้ลงได้
นอกจากนั้นรัฐบาลดุไบจะเข้ามาค้ำประกันด้วย

นายยูซิฟกล่าวอีกว่า บรรดาธนาคารในภูมิภาคมีฐานะทางการเงินที่มั่น
คงและไม่น่าจะมาถึงจุดที่ต้องมีการแฮร์คัตหนี้
“ผมต้องแน่ใจว่าผมไม่ได้แก้ปัญหาหนึ่งเพื่อไปสร้างปัญหาเพิ่มขึ้น
อีก” นายยูซิฟกล่าว

บทวิจัยล่าสุดของเจพีมอร์แกนระบุว่า
ดูไบเวิลด์อาจเสนอการแฮร์คัตหนี้จำนวน 20% ของเงินต้น
ขอยืดเวลาชำระหนี้ไปอีก 10 ปี และการค้ำประกันการชำระหนี้จากรัฐบาล

พักชำระหนี้

ดูไบเวิลด์ บริษัทลูกนาคีล พีเจเอสซี
และบริษัทลิมิตเลส พร็ิพเพอร์ตี้ แอลแอลซี ได้ทำการกู้เงินเพื่อนำมาลงทุนใน
โครงการพัฒนาอังสาหริมทรัพย์มากมายเช่น เกาะต้นปาล์มซึ่งบริษัทต้องดิ้นรน
อย่างมากในการหมุนเงินในช่วงวิกฤตการเงินที่ผ่านมา
ดุไบเวิลด์ได้ประกาศในปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วว่าจะขอเลื่อน
การชำระหนี้ไปจนถึงพฤษภาคมปี 2010 เป็นเหตุให้ราคาหุ้นในกลุ่มประเทศ
กำลังพัฒนาร่วงลงอย่างหนักในช่วงนั้น

นายยูซิฟกล่าวว่า กำไรโดยเฉลี่ยของธนาคารสัญชาติอาหรับทั้งหลายจะ
โตขึ้น 10-15% ในปีนี้ ขณะที่อัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อ
สินเชื่อรวมจะอยู่แถวๆ 8% เนื่องจากการผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้น
ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง

“หนี้ที่ไม่ก่อใ้หเกิดรายได้ควรต่ำกว่า 10% ถ้ามากกว่า่ 10%
จะถือเป็นเรื่องที่น่ากังวล อย่่างไรก็ตามเราต้องการเห็นมันต่ำกว่า
5%” นายยูซิฟกล่าว

บรรดาธนาคารในภูมิภาคต้องเผชิญกับหนี้ที่ไม่
ก่อให้เกิดรายได้ที่สูงขึ้นเนื่องมาจากการผิดนัดชำระหนี้ของ
บริษัทโฮลดิ้งขนาดใหญ่ที่ครอบครัวเศรษฐีซาอุฯเป็นเจ้าของเช่น
บริาษัทอาหมัด ฮามัด อัลโกไซบี้ แอนด์ บราเธอร์ส และ ซาอัด กรุ๊ป เป็นต้น
อีกทั้งปัจจัยจากการปรับโครงสร้างหนี้ของดูไบเวิลด์ก็ส่งผลลบต่องบ
ดุลของธนาคารทั้งหายด้วย Standard & Poor’s ออกมาระบุเมื่อวันที่ 8
มีนคามที่ผ่านมา หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้พุ่งจาก 2.7% ณ สิ้นปี
2008 มาอยู่ที่ 5.4% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2009
และทำท่าว่าจะเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่ไตรมาสข้างหน้า Standard &
Poor’s กล่าวเพิ่มเติม

ที่มา Bloomberg
http://www.bloomberg.com/apps/news?pid=20601104&sid=ahBeQbSgzVrQ