รูปภาพ : นายเหลียง กวงเลี่ย รัฐมนตรีกลาโหมจีน
ที่มา : China Daily
การสร้างแสนยานุภาพทางทหารของจีนต้องเดินหน้าไปพร้อมกับเศรษฐกิจที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วและอำนาจที่เพิ่มขึ้นของขาติ นายเหลียง กวงเลี่ย (Liang Guanglie) รัฐมนตรีว่ากระทรวงกลาโหมของจีนระบุ
ในการให้สัมภาษณ์สื่อจีนเมื่อไม่นานมานี้ นายเหลียงยังได้กล่าวอีกว่า กำลังทางทหารของจีนควรที่จะพึ่งพาตัวองเท่านั้นไม่ใช่คนอื่น เพื่อเป็นหลักประกันถึงการสร้างความทันสมัย (Modernization) และการพัฒนาอุปกรณ์ต่างๆ
“ในอีก 5 ปีข้างหน้า เศรษฐกิจและสังคมของเราจะพัฒนารวดเร็วกว่าเดิม ซึ่งจะเพิ่มอำนาจทั้งมวลของชาติ (Comprehensive National Power) การพัฒนาในด้านต่างๆเหล่านี้จะช่วยสร้างฐานทางยุทธปัจจัยที่มั่นคงกว่าเดิมให้กับการป้องกันประเทศและการสร้างแสนยานุภาพทางทหารของเรา” นายเหลียงกล่าวที่ศูนย์บัญชาการใหญ่ของกองทัพจีนในกรุงปักกิ่ง
“เราจะฉวยโอกาสนี้และจะเร่งการสร้างความทันสมัยให้กับกองทัพตามแผนที่วางไว้ก่อนหน้านี้แล้ว” เขากล่าว
พรคคอมมิวนิสต์จีนได้ทำการอภิปรายแผนพัฒนา 5 ปีฉบับที่ 12 (2011-2015) ซึ่งรวมถึงพิมพ์เขียวในการเสริมแสนยานุภาพทางทหาร และทางพรรคก็ยื่นแผนนี้เพื่อรอให้กับสภาประชาชนแห่งชาติ (National People’s Congress) อนุมัติในปี 2011
“หากปราศจากกองทัพที่มีกำลังพลมากกว่า 2 ล้านคน … ประเทศจีนจะกลายเป็นประเทศที่อ่อนแอทันที แง่มุมสำคัญของอำนาจที่แข็งแกร่งของประเทศสำหรับจีน ผมคิดว่า คือ กำลังทหารที่แข็งแกร่ง” นายเหลียงกล่าว
แม้ว่าจีนจะมีอำนาจแห่งชาติและอิทธิพลระดับโลกที่สูงขึ้น สถานการณ์ระหว่างประเทศยังคงซับซ้อนขณะที่มีปัจจัยที่ไม่แน่นอนมากขึ้นๆแผ่ปกคลุมความมั่นคงของจีน นายเหลียงตั้งข้อสังเกต
เมื่อให้วิจารณ์ถึงสถานการณ์ความมั่นคงของโลก นายเหลีัยงกล่าวว่า สงคราม “ซึ่งเกี่ยวพันทั้งประเทศ” เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในตอนนี้ แต่มีความเป็นไปได้ที่เหตุร้ายหรืออุบัติเหตุบางอย่างอาจจุดชนวนความขัดแย้งในระดับภูมิภาคได้
“เพื่อยกระดับอำนาจแห่งชาติทั้งมวลของเรา (เราต้องแน่ใจว่า) ผลประโยชน์หลักของเราจะต้องไม่ถูกขัดขวาง เราต้องนำอธิปไตยและความมั่นคงของชาติไปไว้ในลำดับความสูงสุด ซึ่งนั่นเป็นความเข้าใจร่วมกันของทั้งพรรคและประชาชนทั้งหมด”
เมื่อมองย้อนไปในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา นายเหลียงมองช่วงนั้นว่า เป็นหนึ่งในช่วงที่มีการพัฒนาที่รวดเร็วที่สุดสำหรับกองทัพจีนซึ่งส่งผลให้เกิด “ความสำเร็จยิ่งใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์”
นายเหลียงกล่าวว่า ตัวอย่างหนึ่งของงความสำเร็จนี้คือ บรรดาเหล่าทหารหนุ่มทั้งระดับผู้บังคับบัญชาและกำลังพลซึ่งเกิดในช่วงทศวรรษที่ 1980-1990 ต่าง “ปราศจากความกลัว” และ มีบทบาทสำคัญในความพยายามบรรเทาภัยพิบัติจากทั้งแผ่นดินไหวและน้ำท่วม แม้ว่าทหารหาญเหล่านี้จะเป็นลูกเพียงคนเดียวของครอบครัว นั่นสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณของกองทัพปลดแอกประชาชน (People’s Liberation Army หรือ PLA) เขากล่าว
“กองทัพมาจากประชาชนและทำหน้าที่ช่วยประชาชน มันเป็นหน้าที่ของพวกเขาในการช่วยเหลือเมื่อประเทศเผชิญภัยพิบัติ”
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมายังแสดงให้เห็นว่า กองทัพทำหน้าที่สนับสนุนในเหตุการณ์ใหญ่ต่างๆซึ่งรวมถึงการบรรเทาภัยพิบัติด้วย นายเหลียงตั้งข้อสังเกต
“มันเป็นเรื่องที่เห็นได้ยากมาก (สำหรับกองทัพ) ที่จะเข้าไปข้องแวะในภารกิจที่หลากหลายและซ้ำซากเหล่านั้นซึ่งต้องการกำลังคนจำนวนมากในช่วงเวลาที่สั้นมากเช่นนั้น”
นอกจากนั้นกองทัพยังมีการเตรียมพร้อมที่ดีขึ้นเพื่อรับมือกับความขัดแย้งต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้ ทั้งจากการที่มีขั้นตอนในการฝึกไปจนถึงอุปกรณ์และระบบลอจิสติกส์ จากการระบุของนายเหลียง
ศักยภาพของกองทัพปลดแอกฯในการต่อสู้กับสงครามสมัยใหม่ก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญด้วยและจำนวนของกำลังพลที่มีคุณภาพสูงก็กำลังเติบโตขึ้น โดยเฉพาะกำลังพลสำหรับปฏิบัติการที่ต้องใช้ความรู้ในการใช้เทคโนโลยีเฉพาะด้าน นายเหลียงกล่าว
อย่างไรก็ตาม “ระดับของความทันสมัยของกองทัพจีนยังคงล้าหลังห่างไกลจากประเทศพัฒนาแล้วมาก” นายเหลียงกล่าวเสริม
“เราจะยืนอยู่บนขาของเราเองเพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาอุปกรณ์ของเราเอง การสร้างความทันสมัยของกองทัพจีนไม่สามารถพึ่งพาคนอื่นได้ และซื้อไม่ได้ด้วย”
เขากล่าวอีกว่า จีนได้มีความก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญในด้านการแลกเปลี่ยนทางการทหารระหว่างประเทศและได้จัดตั้งกลไกการแลกเปลี่ยนกับชาติต่างๆมากกว่า 150 ประเทศ และกลไกในการหารือและสนทนาด้านการทหารและความมั่นคง (Defense and Military Dialogue) กับประเทศต่างๆกว่า 22 ประเทศด้วย
ที่มา China Daily
แปลและเรียบเรียงโดย เบ๊นซ์ สุดตา ฝ่ายข่าวเศรษฐกิจและธุรกิจระหว่างประเทศ Mtoday