วันที่ 30 ธันวา นางลัดดาวัลย์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา แม่น้องแพวา ให้สัมภาษณ์รายการ”เช้าข่าวข้น” ทางโมเดิร์นไนน์ทีวีว่า “ฝากกราบขอโทษทุกๆคน ทุกๆครอบครัวที่สูญเสียและบาดเจ็บ เราไม่หลบไปไหนแน่ แต่ขอให้กระแสของอารมณ์ในสังคม คลี่คลายลงกว่านี้ก่อน ระหว่างนี้จะส่งป้าของเด็ก ไปเป็นตัวแทนกราบแสดงความเสียใจ ทั้งที่งานศพและที่โรงพยาบาล”
“ตอนนี้ครอบครัวเราทุกข์มาก ไม่มีใครได้นอนหลับเลยตั้งแต่เกิดเหตุ ช็อกและเสียใจอยู่แล้ว ที่ลูกสาวไปทำให้เกิดอุบัติเหตุคนตายถึง 8 คน มีคนเอาเบอร์โทรศัพท์ของเราไปลงในเฟสบุ๊ค เอารูปแพรวาไปลง มีโทรศัพท์ด่าทอเข้ามาตลอดทั้งคืน”
“และดิฉันกับสามี ต้องกราบขอโทษจริงๆ เราต้องย้ายแพรวาออกจาก รพ.วิภาวดี ไปอีก รพ.หนึ่ง และไปอีกที่หนึ่ง ตอนนี้อยู่รพ.ที่ 3 แล้วเพราะมีการขู่ทำร้ายร่างกายและขู่ฆ่า ทั้งจากโทรศัพท์และจากช่องทางอื่น รวมถึงบุกเข้าไปในห้องพัก ซึ่งเราเข้าใจในอารมณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมตอนนี้ ทาง รพ. ก็ขอให้เราย้ายออกไปด้วย ไม่ใช่เราตัดสินใจฝ่ายเดียว แต่ตอนนี้ลูกพักรักษาตัวในที่แห่งหนึ่ง ไม่ได้หนีไปต่างประเทศ เราหนีคดีได้ แต่เราหนีความผิดไม่ได้หรอกค่ะ”
“เหตุที่เกิด..ลูกสาวยอมรับว่าขับรถเร็ว! เพราะจะรีบเอารถไปคืนเพื่อน ไม่ใช่รถของเรา ดิฉันไม่เคยอนุญาตให้ลูกขับรถไปข้างนอกแบบนั้น (รายละเอียดคันไหนอยู่เลนไหน จะเป็นหน้าที่ของตำรวจ) พอชนแล้ว ลูกติดอยู่ในรถ พอเจ้าหน้าที่ช่วยออกมาได้ ในสภาพกระจกทิ่มแทงที่ก้น นั่งไม่ได้ ลูกจึงไปยืนพิงขอบถนน ตำรวจขอดูบัตร และการประกัน ลูกสาวผิดแน่ที่อายุ 16 ไม่มีบัตร แพรวารีบกดบีบี บอกเพื่อนว่ารถชนและถามเรื่องประกันของรถคันนี้ ไม่ใช่มัวเล่นบีบีตามที่บางท่านเข้าใจ”
“อยากให้ดูจากหลักฐานพยานทุกอย่าง น้องยอมรับว่าขับมาด้วยความเร็วสูง ตอนเกิดเหตุรถตู้กินเลนมาเลนในของลูกก็เลยยิงไฟสูงขอทาง พอรถตู้หลีกทาง เราก็เร่งสปีดเพื่อให้พ้น แต่รถตู้ก็เข้ามาในเลนของน้องอีก แต่หลบไม่ทันเลยพุ่งชน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอยากให้ตำรวจดูกล้องทุกกล้อง ถ้าน้องผิดจริง เราก็ยินดีให้น้องเข้ากระบวนการทุกอย่าง”
นางลัดดาวัลย์ กล่าวอีกว่า ตอนนี้อยากจะไปกราบทุกๆคน ไปแสดงความเสียใจ ไปเยี่ยม ตัวน้องเองก็เครียดบอกกับแม่ว่า “เอาชีวิตหนูไปเลยไหม ทำไมหนูไม่ตาย” ส่วนที่บอกว่าคุณพ่อแพรวาเป็นทหารก็ยอมรับว่าเคยเป็นทหาร ตอนนี้ก็เป็นทหารนอกราชการ ตั้งแต่อายุ39ปีเป็นข้าราชการบำนาญไม่มีอิทธิพลใดๆ “ผิดด้วยเหรอที่นามสกุลนี้” ตอนนี้รอรวบรวมหลักฐานทั้งหมดให้ชัดเจนก่อนจึงจะออกมาแถลง อยากให้ตำรวจตรวจสอบสภาพรถ กล้องทุกคนว่าผิดจริงไหม พูดไปเหมือนแก้ตัวแต่เราอยากให้มีการตรวจสอบ
ก่อนหนานี้ เวลา 04.15น. นางสาวจันจิรา ซิมกระโทก อายุ22ปี นศ.คณะสาธารณสุขศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ เหยื่ออุบัติเหตุรถตู้โทลล์เวย์ ที่บาดเจ็บสาหัสแล้วเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลวิภาวดี ล่าสุดเสียชีวิตแล้ว นับเป็นศพที่9 จากอุบัติเหตุในครั้งนี้ ขณะนี้ญาติติดต่อขอรับศพแล้ว
พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ความเห็น ถึงบุคคลในสังคมออนไลน์ ที่โพสต์ข้อความลงในอินเตอร์เน็ต ประนามเยาวชนผู้ขับขี่รถเก๋ง ที่เฉี่ยวชนรถตู้-โดยสาร บนทางด่วนดอนเมืองโทลย์เวย์ เป็นต้นเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุ มีผู้เสียชีวิตถึง 8 ศพและบาดเจ็บอีก 7 คนว่า ถ้าผู้ที่ถูกกล่าวหาหรือผู้เสียหาย เห็นว่า เป็นการกล่าวหาที่ไม่เป็นธรรมต่อตนเอง หรือทำให้เกิดความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง หรือกล่าวหาด้วยถ้อยคำที่ไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง มีสิทธิฟ้องร้องให้สอบสวนดำเนินคดี ผู้กระทำการดังกล่าวได้ตามกฎหมาย อีกทั้งคดีดังกล่าว ยังไม่ได้รับการตัดสินว่า ใครผิด ใครถูก อย่างไร ซึ่งตราบใดที่ยังไม่มีการตัดสินหรือแจ้งข้อหา ก็เท่ากับ ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
องค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกประกาศของ องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในเรื่องการเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ส่วนบุคคลชนรถตู้โดยสารสาย ต.118 (ฉบับที่1)ใจความว่า จากอุบัติหตุกรณีรถยนต์ส่วนบุคคลชนกับรถตู้โดยสารบนโทลล์เวย์เมื่อคืนวันที่ 27 ธันวาคม 2553 อันทำให้เกิดความสูญเสียของชาวประชาคมธรรมศาสตร์ ทางองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ขอแสดงความเสียใจและขอเป็นกำลังใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ
เพื่อให้เหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นอุทาหรณ์ครั้งสำคัญ ทางองค์การนักศึษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และกลุ่ม TU ACCIDENT WATCH ได้ตอบสนองต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้น โดยดำเนินการดังต่อไปนี้
1. องค์การนักศึกษาและสภานักศึกษาได้ดำเนินการจัดตั้งกลุ่มติดตามและเรียกร้องสิทธิอันรวมถึงการติดตามความคืบหน้าของรูปคดีตามกระบวนการยุติธรรมให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบทั้งที่สูญเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ เพื่อให้ได้รับการเยียวยาและให้ความเป็นธรรมกับผู้ได้รับผลกระทบ
2.กลุ่ม TU ACCIDENT WATCH จะดำเนินการระดมความคิดเห็นและนำเสนอแนวทางการป้องกันแก้ไขปัญหาไม่ให้เกิดเหตุการณ์อุบัติเหตุที่เกิดจากการคมนาคม รวมถึงสวัสดิภาพของผู้สัญจรด้วยยานพาหนะ โดยเริ่มต้นจากความปลอดภัยภายในมหาวิทยาลัยก่อน แล้วจึงขยายผลออกไปสู่ระดับสังคมภายนอกในภายหลัง โดยการจัดกิจกรรมต่างๆตามโอกาส
ดังนั้น จึงขอเชิญชวนชาวประชาคมธรรมศาสตร์ที่มีความห่วงใย ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือได้รับผลกระทบต่างๆตามที่กล่าวไปข้างต้น โดยติดต่อที่ องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชั้น3 อาคารกิจกรรมนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต หรือทางเว็บไซต์ www.rip8tu.tk หรือ อีเมล์ [email protected]
ขณะเดียวกัน สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ออกแถลงการณ์ (ฉบับที่๑) กรณีอุบัติเหตุบนดอนเมืองโทลล์เวย์ว่า จากกรณีการเกิดอุบัติเหตุรถเก๋งฮอนด้า รุ่นซีวิค ที่นางสาวอรชร หรือแพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา อายุ ๑๖ ปีเป็นคนขับ เฉี่ยวชนกับรถตู้ รับ-ส่งผู้โดยสาร ซึ่งมีนางนฤมล ปิตาทานัง(เสียชีวิต) เป็นพนักงานขับรถตู้บนทางยกระดับ ดอนเมืองโทลล์เวย์ทำให้ผู้โดยสารกระเด็นออกจากรถตกดอนเมืองโทลล์เวย์ เสียชีวิต๘คน
เราขอแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียบุคลากรคนสำคัญของประชาคมธรรมศาสตร์และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นทรัพยากรอันทรงคุณค่าต่อการพัฒนาประเทศชาติ สภานักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขอเรียกร้องต่อผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สื่อมวลชน ประชาคมธรรมศาสตร์ ประชาชนชาวไทย รวมถึงผู้กระทำความผิด ดังนี้
๑.ขอขอบพระคุณ ผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ได้อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุอย่างรวดเร็วและออกประกาศมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ปฏิรูประบบขนส่งมวลชนที่เกี่ยวข้อกับประชาคมธรรมศาสตร์เบื้องต้น ซึ่งได้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๓
๒.ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำคดีอย่างเป็นกลาง ด้วยความซื่อสัตย์ ยุติธรรมและพยายามหาตัวผู้กระทำความผิดมารับโทษ โดยไม่เกรงกลัวต่อ อำนาจใดๆอิทธิพลใดๆแม้ว่าเขาหรือเธอจะเป็นลูกใคร จะใช้นามสกุลใด และยิ่งใหญ่เพียงใด ทุกคนย่อมอยู่ภายใต้หลักกฎหมายเดียวกัน
๓.ขอเรียกร้องให้สื่อมวลชนทำข่าวอย่างเป็นกลางโดยไม่กลัวอำนาจครอบงำจากฝ่ายใดๆ เปิดโปงความจริงในกรณีดังกล่าวอย่างถึงที่สุด เพื่อเป็นการชี้ให้เห็นว่า แปดศพของประชาคมธรรมศาสตร์ที่สูญเสียไปไม่ตายเปล่า
๔.ขอเรียกร้องให้ประชาคมธรรมศาสตร์ รวมถึงพี่น้องชาวไทยทุกท่าน สังเกตการณ์และติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสื่อมวลชนอย่างใกล้ชิด กับกรณีที่เกิดขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้สังคมเห็นว่ามนุษย์เรามีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกัน เมื่อทำผิดย่อมรับผิดไม่อาจหลีกเลี่ยงข้อกล่าวหาไปได้
๕.ขอเรียกร้องให้ผู้กระทำความผิด สำนักในความผิด และออกมากล่าวขอโทษ รวมถึงแสดงความเสียใจต่อวิญญาณของผู้จากไป ทั้งยังต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างถึงที่สุดกับครอบครัวของผู้สูญเสีย
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1696 ครั้ง