ประเทศซาอุดิอาระเบียต้องเพิ่มสำรองยุทธศาสตร์อาหารเพื่อเป็นกันชนป้องกันการพุ่งขึ้นของราคาโภคภัณฑ์พื้นฐานทั่วโลก ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ระดับสูงหอการค้ากล่าววานนี้ (9 มกราคม 2011)
เช่นเดียวกับชาติอาหรับอื่นๆ ซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของกลุ่มโอเปกได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการพุ่งขึ้นของราคาอาหารในปี 2008 ส่งผลให้ยอดการนำเข้าพุ่งขึ้นอย่างมาก และนับแต่นั้นมา ซาอุดิอาระเบียก็เริ่มมองหาการเช่าและซื้อที่ดินเพาะปลูกในประเทศกำลังพัฒนาเพื่อยกระดับความมั่นคงทางอาหาร
องค์การอาหารและการเกษตรโลกหรือเอฟเอโอได้ออกมากล่าวก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมว่า ราคาอาหารโดยรวมพุ่งทำจุดสูงสุดใหม่เมื่อเดือนธันวาคม สูงกว่าช่วงวิกฤตปี 2008 เมื่อเกิดเหตุจลาจลปะทุขึ้นในหลายประเทศไปไกลถึงประเทศอิยิปต์ แคมเมรูน และเฮติ
ในฐานะเครื่องมือเพื่อช่วยแก้ปัญหาราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้น ซาอุดิอาระเบียควรเพิ่มสำรองอาหารจำนวน 9 ประเภทด้วยกันเช่น ข้าวสาลี ถั่วเหลือง น้ำตาล ข้าวบาร์เลย์ น้ำมันต่างๆ และข้าว นายซาอัด อัลคาริฟ หัวหน้าคณะกรรมการความมั่นคงทางอาหารของหอการค้าและอุตสาหกรรมนครริยาดระบุ
“คลังยุทธศาสตร์เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อจัดเก็บอาหารและต่อสู้กับความผันผวนของราคา” นายอัลคาริฟกล่าวกับผู้สื่อข่าว โดยเสริมว่า ภาวะแล้งในละตินอเมริกากำลังเป็นตัวเร่งให้ราคาพุ่งขึ้น
อาร์เจนติน่าและบราซิลเป็นหนึ่งในบรรดา 9 ประเทศซึ่งซาอุดิอาระเบียต้องนำเข้าเมล็ดพืช เขากล่าว
รัฐบาลได้มอบหมายให้มีการศึกษาการจัดตั้งสำรองยุทธศาสตร์ดังกล่าวและทางหอการค้าต้องการให้เรื่องนี้เดินหน้าทันทีและต้องการให้รวมภาคเอกชนให้มีส่วนร่วมด้วย
“เรากำลังกระตุ้นรัฐบาล เราพยายามที่จะกระตุ้นพวกเขา” นายอัลคาริฟกล่าว
สำรองยุทธศาสตร์ควรกักเก็บอาหารได้เป็นอย่างน้อย 6 เดือนหรือนานกว่านั้น นายคาลิด อัลระวิส (Khalid Al-Rwis) หัวหน้าภาควิชาเศรษฐศาสตร์การเกษตรจากมหาวิทยาลัยกษัตริย์ซาอุด (King Saud University) ในริยาดกล่าว
เขากล่าวอีกว่า ซาอุดิอาระเบียต้องการข้าวสาลีจำนวน 3 ล้านตันและข้าวอีก 1.2 ล้านตันภายในปี 2015 โดยอ้างถึงงานศึกษาชิ้นล่าสุดของวิทยาลัยของเขา
เพื่อที่จะรักษาทรัพยากรน้ำเอาไว้ ซาอุดิอาระเบียได้ล้มเลิกแผนการเพาะปลูกข้าวสาลีที่ทำมานานกว่า 30 ปีและได้ลดจำนวนข้าวสาลีที่ทางการซื้อจากชาวนาท้องถิ่นเป็นจำนวน 12.5% ต่อปีนับแต่ปี 2008
ในปี 2009 ซาอุดิอาระเบียได้จัดตั้งบริษัทภายใต้เงินทุนเริ่มต้น 3,000 ล้านริยัลเพื่อลงทุนในที่ดินเพาะปลูกในต่างประเทศ
ที่มา ข่าว Real Time จากโปรแกรม Reuters 3000 Xtra
ไอดีข่าว nLDE70803B
แปลและเรียบเรียงโดย เบ๊นซ์ สุดตา ฝ่ายข่าวเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศ Mtoday