ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าประธานไม่ควรที่จะลงมติใช่หรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็บอกนายเทอดพงษ์ว่าถ้าจะให้ยุติธรรมก็ให้เลื่อนการประชุมออกไปก่อนดีกว่า คือไปเป็นวันที่ 18 ม.ค. แต่เมื่อเป็นหลักของประธานที่ต้องการจะให้โหวตเมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา ก็ไม่ว่ากัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมสภาฯจะถือว่า ต้องยึดตามมติคณะกรรมาธิการฯหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ก็ไม่แน่อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ เพราะการพิจารณาตรงนี้ เป็นเพียงชั้นกรรมาธิการเท่านั้น ส่วนส.ส. และส.ว. เสียงส่วนใหญ่จะเอาอย่างไรก็ต้องไปดูกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายเทอดพงษ์ใช้สิทธิ์ประธาน เป็นการแสดงให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ตอบรับข้อเสนอพรรคร่วมใช่หรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นการตัดสินใจของท่านเราไม่ว่ากัน เพราะตามหลักแล้วประธานตัดสินใจได้ จะไปลงให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนที่จะมีการลงมติในวาระ 2-3 ควรที่จะมีการหารือกันก่อนหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า พรรคร่วมไม่ต้องหารือเพราะเห็นตรงกันหมดแล้ว ก็ยังยึด 400 ต่อ 100 เสียงอยู่ ส่วนการพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยเรื่องการขอเสียงสนัยสนุนนั้น ยังไม่มีการคุยกัน แล้วแต่ว่า ส.ส.จะเห็นว่าควรจะเป็น 400 ต่อ 100 หรือ 375 ต่อ 125 เสียง อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าเสียงส่วนใหญ่ของส.ส.เห็นด้วยกับสูตร 400 ต่อ 100 เพราะจะต้องตัดส.ส.ออกเป็นจำนวนมาก และเมื่อฟังดูแล้วไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องให้มีส.ส.สัดส่วน 125 เสียง หรือชักจูงให้คิดว่าถูกต้อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผจก.รัฐบาลมั่นใจว่า 375 เสียง น่าจะผ่านการพิจารณาของสภาฯ หมายความว่ามั่นใจว่าจะล็อบบี้พรรคร่วมรัฐบาลได้ใช่หรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สุดแล้วแต่ซึ่งตนไม่ว่าอะไรเพราะเป็นประชาธิปไตย และเสียงข้างมากในสภาฯเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่า จำนวนเสียง 375 ต่อ 125 จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ได้เปรียบในการเลือกตั้งและมีเสียงมาเป็นอันดับหนึ่งหรือไม่ พล.ต.พล.ต. สนั่น กล่าวว่า ตนไม่ได้คิดอย่างนั้นแต่คิดว่า ถ้าเขตเล็กก็ควรที่จะมีการทำให้ทั่วถึง อย่าไปคิดว่าเท่ากับสจ. , ส.ท. ถ้าคิดอย่างนั้นก็เป็นเขตใหญ่ไปเลย อย่าไปลดจำนวนส.ส. ตนไม่เห็นด้วย หากจะไปลดจำนวนส.ส.เขตแล้วไปเพิ่มในระบบสัดส่วน เพราะส.ส.ระบบสัดส่วนไม่ต้องลงพื้นที่ ทั้งนี้ถ้าชี้แจงเหตุผลมากกว่านี้ ว่าดีอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าเรื่องดังกล่าวเข้าสู่สภา และสูตร 375 ถูกคว่ำไป รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบอะไรหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า รัฐบาลไม่ต้องรับผิดชอบ เพราะเป็นเรื่องของสภาฯ ซึ่งร่างของสภาฯก็เสนอเข้าไป พรรคชาติไทยพัฒนาก็เสนอ และยังมีร่างของนพ.เหวง โตจิราการ เพราะฉะนั้นร่างใครก็เหมือนกันขึ้นอยู่กับสภาฯว่าจะมีมติอย่างไร
“ ไม่อย่างนั้นพรรคชาติไทยพัฒนาก็ต้องออกหมดเพราะไม่ผ่าน ทั้งนี้ในการพิจารณาในวาระ 2 – 3 ทางพรรคชาติไทยพัฒนา ก็ยังจะโหวตเอาแบบ 400 ต่อ 100 ตามที่พรรคเสนอ และมั่นใจด้วยว่าเสียงส่วนใหญ่จะเอาแบบนี้ เชื่อได้ว่านอนมา แบบไม่ต้องมีพระนำ” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลได้มีการนัดหารือในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ไม่ได้นัดมาที่ตน เพราะตนไม่ได้เป็นแกนนำตนเป็นเพียงคนตัวเล็กๆ เด็กๆอยู่ข้างหลัง ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลพรรคเล็กคงไม่ไปล็อบบี้พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้หันมาเอาแบบ 400 ต่อ 100 เพราะเมื่อพรรคประชาธิปัตย์ มีมติออกมาอย่างไรเขาก็ยืนยันตามนั้นอย่างเหนียวแน่น ไม่มีแหกคอก ทางพรรคชาติไทยพัฒนาคงไม่ไปวิงวอนใครทั้งนั้น ไปรอดูกันในสภาฯก็แล้วกัน
พล.ต.สนั่น กล่าวว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์ เห็นด้วยกับการเสนอของคณะกรรมการฯ ชุดของนายสมบัติ ธำรงค์ธัญวงศ์ นั้นก็เพราะนายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งให้กรรมการฯชุดดังกล่าว พิจารณาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1177 ครั้ง