“เพื่อไทย” ยัน “มิ่งขวัญ” นำอภิปรายไม่ไว้วางใจและเสนอชื่อเป็นนายกฯท้ายญัตติ ย้ำ เอารธน.40 ไม่สังฆกรรมแก้รธน. เพราะ ไม่ต้องการเป็นเครื่องมือพรรคร่วมต่อรองผลประโยชน์กับปชป.
นายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สำหรับเรื่องผู้นำการอภิปรายไม่ไว้วางใจและคนถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีท้ายญัตติขอเปิดไม่ไว้วางใจนั้น ชัดเจนแล้วว่าคือนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน เพราะทุกอย่างจบแล้วหลังจากกลุ่มส.ส.ที่สนับสนุนนายมิ่งขวัญ กลับจากาการไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่เมืองดูไบ และที่ผ่านมาก็ไม่ใครออกมาคัดค้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน และประธานส.ส. ที่ได้ทำหน้าที่มา 2 ครั้ง ก็เปิดทางให้ไม่ได้ออกมาคัดค้านอะไร จากนี้ก็คงไม่ต้องมีมติของพรรคในเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ ก็รอเพียงว่าจะมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อไหร่เท่านั้น ถึงตอนนั้นนายมิ่งขวัญ ก็คงจะได้เปิดตัวแสดงวิสัยทัศน์ต่อสาธารณะชน ซึ่งตอนนี้ทราบว่านายมิ่งขวัญ กำลังเตรียมข้อมูลหลักฐานในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ รวมทั้งการทำนโยบายต่างๆ ซึ่งมีทีมงานทั้งที่เป็นส.ส. และทีมงานที่เป็นคนนอก
เมื่อถามว่ามีความพยายามของคนในพรรคที่จะแยกคนตระกูลชินวัตรออกจากพรรคเพื่อให้ได้เสียงจากคนกลางๆ นายสุรสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้บอกได้เลยว่าแยกตระกูลชินวัตรไม่ออกแน่นอน แม้ว่าจะมีใครบอกว่าจะแยกให้ออกก็ตาม พรรคเพื่อไทยกับตระกูลชินวัตร ก็เหมือนพรรคชาติไทยพัฒนากับนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค และอดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ซึ่งอย่างไรก็แยกกันไม่ออก พรรคเพื่อไทยเองก็มีจุดขายอยู่ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ความสำเร็จต่างๆที่ผ่านมา ไม่มีชินวัตรพวกเราก็อยู่ไม่ได้เพราะไม่มีอะไรเป็นจุดขาย ส่วนคนตระกูลชินวัตร เช่น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคนั้น ตนคิดว่ายังไม่ถึงเวลา คงไม่นำเข้ามาตอนนี้ให้ถูกตัดสิทธิ์การเมือง จะเป็นผลเสียมากกว่าได้
นายสุรสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเราคงไม่มีมติที่ชัดเจนในเรื่องนี้ ก็เป็นสิ่งที่เราจะรอดูพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ว่าจะสรุปตกลงกันอย่างไร พรรคร่วมต้องการส.ส. 400 เขต กับบัญชีรายชื่อ 100 คน จริงไม่ หรือเป็นเพียงการต่อรองผลประโยชน์กับพรรคประชาธิปัตย์ หากพรรคเพื่อไทยไปมีมติสนับสนุนเราก็จะกลายเป็นเครื่องมือให้พรรคร่วม เรายังมีเวลาคิดอีกไม่ต้องออกอาการมาก เมื่อถึงเวลาโหวตวินาทีสุดท้ายก็ยังมีเวลาตัดสินใจ ดูว่าถึงตองนั้นท่าทีของพรรคร่วมยังเป็นเหมือนเดิมหรือไม่
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า พรรคเพื่อไทยยังยึดมั่นแนวทางที่จะไม่ร่วมสังฆกรรมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะมองว่าเป็นการขุดบ่อล่อปลาที่จะดึงให้พรรคเพื่อไทยลงไปร่วม เราขอยืนยันแนวทางเดิมที่จะยึดรัฐธรรมนูญปี 40 เป็นหลัก และไม่ว่าอย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยมองว่ากรณีนี้เป็นการเล่นละครฉากใหญ่ ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งน่ากังวลว่าพรรคร่วมรัฐบาลกำลังจะถูกแหกตา จนขี้ตาเกรอะกรัง มองอะไรมัวๆ ถูกพรรคประชาธิปัตย์จูงไปทางไหนก็ไป ตนจึงอยากจะเอายาหยอดตาไปมอบให้ เพื่อจะได้เห็นอะไรชัดขึ้นกว่านี้ อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นสูตร 375 ต่อ 125 หรือ 400 ต่อ 100 พรรคเพื่อไทยไม่เกี่ยงอยู่แล้ว ดังนั้นพรรคร่วมรัฐบาลอย่ามาดึงเอาพรรคเพื่อไทยไปเกี่ยว เพราะเมื่อทั้ง 2 ฝ่ายตีกัน เราก็ไม่มีประโยขน์อะไรที่จะกระโดดเข้าไปยุ่ง ขอให้ตีกันจนน่วมไปทั้งตัวก่อน และเราก็มีจุดยืนเดิมที่จะยึดรัฐธรรมนูญปี 40 เป็นหลัก
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1188 ครั้ง