วันที่ 18 มกราคม เวลา 07.30 น. ที่ศาลอุทธณ์ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ได้มีการนัดพิจารณาขอประกันตัว 5คนไทย โดยคนไทยทั้ง5 คนเดินทางมาถึงศาลอุทธรณ์ โดยนาย นายวีระ สมความคิด แกนนำเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ ตอบคำถามผู้สื่อข่าว สั้นๆ ขณะเดินทางเข้าไปฟังการพิจารณาการขอประกันว่า “”ไม่รู้ว่า เขาจะให้ประกันตัวหรือเปล่า” ผมสู้เต็มที่ครับ เพราะว่าผมอยู่บนผืนแผ่นดินไทยครับ เขาพยายามจะยัดข้อหาจารกรรมผม”
ขณะที่มีการคาดการกันว่า 5 คนไทยจะได้รับการประกันตัว
นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ นายสุนทร รักษ์รงค์ ผู้ประสานงานเครือข่ายฯ ได้ร่วมกันแถลงข่าวว่า ที่ประชุมมีมติว่า ในเมื่อไม่สามารถพึ่งฝ่ายบริหารช่วยเหลือ 7 คนไทยจากกัมพูชาได้ จึงประกาศเชิญชวนประชาชนทุกหมู่เหล่าเดินทางไปยื่นถวายฏีกาแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ สำนักพระราชวัง โดยจะรวมตัวพร้อมกันที่ประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล และเคลื่อนขบวนเธรรมยาตราพร้อมกันในเวลา 09.59 น. ส่วนที่ก่อนหน้านี้เครือข่ายมีมติ จะจัดกองคาราวานรถกระจายเสียง 30 คัน กระจายไปทั่วกรุงเทพเชิญชวนประชาชนมาร่วมชุมนุม แต่เนื่องจากเห็นว่าอาจสร้างปัญหาการจราจรติดขัดเป็นหย่อมๆทั่วกรุงเทพ จึงมีมติยกเลิก
นายไชยวัฒน์ แถลงว่า เครือข่ายมีมติว่า กรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีออกมาให้สัมภาษณ์ว่าการถวายฏีกาของเครือข่ายไม่เหมาะสม แต่กลับให้สัมภาษณ์ว่าจะทำเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษจากกษัตริย์กัมพูชา พฤติกรรมของนายสุเทพตามบรรพบุรุษเรียกว่า ข้าสองเจ้า บ่าวสองนาย และการเป็นนักการเมืองมายับยั้งประชาชนที่ไม่สามารถพึ่งพิงฝ่ายบริหารขอถวายฏีกา ถือว่านายสุเทพก้าวล่วงพระราชอำนาจหรือไม่ การกระทำของนายสุเทพเข้าข่ายหมิ่นสถาบัน
นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า ได้เชิญชวนประชาชนทุกกลุ่มทุกสี ไม่ว่าเสื้อแดงก็มาร่วมได้ เมื่อวานนี้ได้มีการพบกับ ร.อ.พิสิทธิ์ พิพุฒ แกนนำกลุ่มเส้นทางสีแดง ก็ได้บอกว่า ถ้าเป็นเรื่องเรียกร้องอะไรที่เกี่ยวกับสีแดง พร้อมมาชุมนุม จะให้ตนเองไปกราบที่ไหนก็ยินดีให้มาร่วมชุมนุมเพื่อปกป้องแผ่นดิน หลังจากปกป้องแผ่นดินเรียบร้อยแล้ว เรื่องที่มีความเห็นต่างกันทางการเมืองก็ค่อยว่ากันไป
นายสุนทร กล่าวว่า ได้หารือกับ พล.ต.วิชัย สังขประไพ ผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 กรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการปิดการจราจรบริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ์ไปถึงแยกมิสกวัน แล้ว โดยจะขอขยายพื้นที่ในวันที่ 17-18 ม.ค.เพื่อเตรียมรองรับมวลชนที่จะมาสมทบในการเดินขบวน อีกทั้งถ้ามีรถผ่านไปผ่านมาก็จะไม่ได้รับความปลอดภัย และไม่ทราบว่าจะมีเหตุระเบิดอะไรหรือไม่ แต่เครือข่ายหารือกันว่าอาจมีการเปิดจราจรในชั่วโมงเร่งด่วน เวลา 08.00-10.00 น. และช่วงเย็นหลังโรงเรียนเลิก อย่างไรก็ตามหลังวันที่ 18 ม.ค.จะมีการหารือกันอีกครั้งว่าจะมีมติปิดถนนต่อหรือไม่
“ต้องขอโทษประชาชน และขอความเห็นใจด้วย แต่เครื่อข่ายมีความจำเป็น การปิดจราจร อีกไม่กี่วันถนนก็โล่งได้ แต่กับการเสียดินแดนไม่สามารถทวงคืนได้ “ นายสุนทร กล่าว
สำหรับบรรยากาศการชุมนุมที่บริเวณหน้าทำเนียบฯ ปรากฎว่า เครือข่ายได้มีการสร้างเวทีขนาดใหญ่ขวางสะพานชมัยมรุเชษฐ์ พร้อมกับมีการนำรั้วเหล็กปิดถนนตั้งแต่สะพานชมัยมรุเชษฐ์ และบริเวณแยกมิกสักวัน ทำให้การจราจรบริเวณนั้นติดขัดอย่างหนัก โดยข้าราชการที่ทำงานสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจาริตแห่งชาติ และทำเนียบรัฐบาลต่างได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ขณะที่เครือข่ายซึ่งส่วนใหญ่มาจากกองทัพธรรม สันติอโศก ทยอยเดินทางมาแต่ยังคงมีมวลชนเบาบาง แต่ในส่วนของวัสดุ สิ่งก่อสร้าง กับหนาแน่นกว่ามวลชน โดยมีการตั้งเต้นท์ยาวเต็มถนน และตั้งโต๊ะล่ารายชื่อประชาชนเพื่อเตรียมถวายฏีกาในวันที่ 18 ม.ค.ด้วย
ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า การชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายฯ ที่ปิดถนนพิษณุโลกขณะนี้ ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างมาก แม้กลุ่มผู้ชุมนุมจะอ้างว่า เพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้อยากให้กลุ่มผู้ชุมนุมเปิดถนน โดยได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ชัญชาการตำรวจนครบาล เจรจาและทำความเข้าใจ
ส่วนการช่วยเหลือคนไทยอีก 5 คน ที่ยังถูกคุมขังในกัมพูชา ขณะนี้มีความคืบหน้าพอสมควร โดย นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ได้ชี้แจงและทำความเข้าใจในเวทีการประชุมต่าง ๆ ที่ได้มีโอกาสพบกับผู้นำกัมพูชา ส่วนการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในวันที่ 25 มกราคมนี้ เชื่อว่า ประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ไม่มีใครต้องการเห็นความวุ่นวายในบ้านเมือง แต่รัฐบาลคงไม่สามารถห้ามการชุมนุมได้
ล่าสุดทางแกนนำกลุ่มเครือข่ายประชาชนคนไทยหัวใจรักชาติ มีติยกเลิกภารกิจเคลื่อนขบวนการไปรอบกรุงเทพฯ เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนมาร่วมถวายฎีกาเพราะเกรงว่าจะกระทบกับปัญหาการจราจร
ผู้ชุมนุมตั้งเวทีถาวรบนถ.พิษณุโลกข้างทำเนียบฯ
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 929 ครั้ง