“สุรเชษฐ์ ชัยโกศล” ส.ส.กรุงเก่าเจ้าของพฤติกรรมแจกกล้วยกลางสภา ทำตัวกร่าง เป็นหัวโจกขับฮาเล่ย์พาสมุนเสื้อแดงลุยด่านวังน้อย ทำไม่พอใจเจ้าหน้าที่ตั้งด่าน อ้างทำรถติด ท้าตีท้าต๋อย ก่อนไปยังทำนิสัยถ่อย เบิ้ลเครื่องมอไซต์เย้ยอีก
บรรยากาศการเดินทางเข้ากรุงเทพของกลุ่มคนเสื้อแดง สายอีสาน บริเวณอ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยาว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้ตั้งจุดตรวจร่วม (กอ.ร่วม ว.43 ความมั่นคง) เพื่อตรวจค้นอาวุธและวัตถุต้องสงสัยจากยานพาหนะของผู้ชุมนุม โดยเจ้าหน้าที่ซึ่งอยู่ประจำจุดตรวจดังกล่าวนั้น ไม่ได้ติดอาวุธมีเพียงโล่เท่านั้น
ทั้งนี้ ก่อนที่ขบวนรถของกลุ่มคนเสื้อแดง อาทิ รถประจำทาง รถตู้ รถปิกอัพ และรถยนต์ส่วนบุคคล ซึ่งมีความยาวหลายกิโลเมตรจะเคลื่อนตัวผ่านจุดตรวจนั้น นายขจรชัย วัฒนาประยูร นายอำเภอวังน้อย ได้เดินทางเข้าไปเจรจากับนายสุพร อัตถาวงศ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงสายอีสาน เพื่อร้องขอไม่ให้นำรถเข้ามาเพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหาการจราจร แต่ให้ใช้บริการรถประจำทางที่เจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้ให้แทน แต่นายสุพร ได้ปฏิเสธข้อเสนอ โดยระบุว่า จำนวนรถของกลุ่มคนเสื้อแดงมีจำนวนมากจึงไม่อาจใช้บริการรถของเจ้าหน้าที่ได้
กระทั่งเวลา 10.20น. ขบวนรถของกลุ่มคนเสื้อแดง นำโดยขบวน “ชักธงรบ อุบลราชธานี” เริ่มเคลื่อนตัวผ่านจุดตรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ได้สกัดขัดขวางการเคลื่อนแต่อย่างใด เพียงแต่ขอความร่วมมือในการตรวจค้นอาวุธ วัตถุต้องสงสัย และให้แสดงบัตรประชาชน ทั้งนี้กลุ่มคนเสื้อแดงก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
จากนั้นเวลาประมาณ 11.00น. รถบรรทุกติดเครื่องขยายเสียงของนายสุพรก็ได้เคลื่อนที่จุดตรวจ โดยนายสุพรได้ประกาศผ่านเครื่องเสียงไปยังกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ขอร้องให้มวลชนที่นำรถมาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยตนยืนยันว่าจะเคลื่อนขบวนอย่างสันติ
เวลาประมาณ 11.20น. นายสุรเชษฐ์ ชัยโกศล ส.ส.อยุธยา พรรคเพื่อไทย ผู้เคยสร้างวีรกรรมแจกกล้วยในสภาฯ สวมแว่นตาดำสวมเสื้อสีแดงแขนยาวนุ่งกางเกงยีนต์ ขี่รถฮาเล่ย์เดวิดสัน สีขาว มายังจุดตรวจร่วมพร้อมกับมวลชนจำนวนหนึ่ง เมื่อมาถึงนายสุรเชษฐ์ได้แสดงตัวเบิ้ลเครื่องยนต์ซ้ำๆ หลายครั้ง จากนั้นได้ลงจากรถมาทักทายกับขบวนรถกลุ่มคนเสื้อแดงเกือบทุกคันที่ขับผ่าน ปลุกเร้าผ่านโทรโข่งขนาดเล็กต่อมวลชนอยู่ตลอดเวลา ขณะที่กลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงและชาวบ้านที่อยู่ในละแวกดังกล่าวยืนดูด้วยความสงสัย ทำให้นายสุรเชษฐ์แสดงตัวอย่างเสียงดังว่า “ผมสุรเชษฐ์ ส.ส.อยุธยา พรรคเพื่อไทยครับ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะที่พ.ต.ท.ประสงค์ เทพรักษ์ สารวัตรใหญ่ สภ.อ.อินทร พระอินทรราชา ปฏิบัติหน้าที่ตรวจค้นขบวนรถคนเสื้อแดงตามปกติ กลับสร้างความไม่พอใจให้กับนายสุรเชษฐ์ ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียง เป็นผลให้นายสุรเชษฐ์เดินปรี่เข้ามาชี้หน้าด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวใบหน้าแดงกร่ำพร้อมกับถือโทรโข่งขนาดเล็ก ต่อว่า พ.ต.ท.ประสงค์ ด้วยถ้อยคำรุนแรงหยาบคายกล่าวหาตำรวจตรวจซ้ำซากหลายครั้ง ทำให้รถติด และยังได้แสดงความเถื่อนต่อไปอีกว่า “มึงถอดเสื้อมาต่อยกับกูไหม” เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความประหลาดใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่รวมทั้งกลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วน ทำให้ทีมงานของนายสุรเชษฐ์ต้องเข้ามาระงับเหตุการณ์และกันตัวนายสุรเชษฐ์ออกไป โดยนายสุรเชษฐ์ก็ยังตะโกนด่าเจ้าหน้าที่ด้วยถ้อยคำที่หยาบคายต่อไป ส่วนพ.ต.ท.ประสงค์ ก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตามปกติ และได้กล่าวถึงกรณีนี้เพียงสั้นๆ ว่า “ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ ผมก็ปฏิบัติตามหน้าที่”
ภายหลังเกิดเหตุไม่นานนัก นายสุเชษฐ์ พร้อมพรรคพวก ได้ขี่รถออกจากจุดเกิดเหตุ และยังได้เบิ้ลเครื่องยนต์เสียงดังอีกหลายๆ ครั้ง พร้อมกับหัวเราะชอบใจอย่างไม่สะทกสะท้าน ส่วนกลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วนที่เดินทางมาก็ยังคงสนับสนุนในการกระทำของ ส.ส.อยุธยา ผู้นี้อีกด้วย
บรรยากาศการเดินทางเข้ากรุงเทพของกลุ่มคนเสื้อแดง สายอีสาน บริเวณอ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยาว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้ตั้งจุดตรวจร่วม (กอ.ร่วม ว.43 ความมั่นคง) เพื่อตรวจค้นอาวุธและวัตถุต้องสงสัยจากยานพาหนะของผู้ชุมนุม โดยเจ้าหน้าที่ซึ่งอยู่ประจำจุดตรวจดังกล่าวนั้น ไม่ได้ติดอาวุธมีเพียงโล่เท่านั้น
ทั้งนี้ ก่อนที่ขบวนรถของกลุ่มคนเสื้อแดง อาทิ รถประจำทาง รถตู้ รถปิกอัพ และรถยนต์ส่วนบุคคล ซึ่งมีความยาวหลายกิโลเมตรจะเคลื่อนตัวผ่านจุดตรวจนั้น นายขจรชัย วัฒนาประยูร นายอำเภอวังน้อย ได้เดินทางเข้าไปเจรจากับนายสุพร อัตถาวงศ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงสายอีสาน เพื่อร้องขอไม่ให้นำรถเข้ามาเพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหาการจราจร แต่ให้ใช้บริการรถประจำทางที่เจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้ให้แทน แต่นายสุพร ได้ปฏิเสธข้อเสนอ โดยระบุว่า จำนวนรถของกลุ่มคนเสื้อแดงมีจำนวนมากจึงไม่อาจใช้บริการรถของเจ้าหน้าที่ได้
กระทั่งเวลา 10.20น. ขบวนรถของกลุ่มคนเสื้อแดง นำโดยขบวน “ชักธงรบ อุบลราชธานี” เริ่มเคลื่อนตัวผ่านจุดตรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ได้สกัดขัดขวางการเคลื่อนแต่อย่างใด เพียงแต่ขอความร่วมมือในการตรวจค้นอาวุธ วัตถุต้องสงสัย และให้แสดงบัตรประชาชน ทั้งนี้กลุ่มคนเสื้อแดงก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
จากนั้นเวลาประมาณ 11.00น. รถบรรทุกติดเครื่องขยายเสียงของนายสุพรก็ได้เคลื่อนที่จุดตรวจ โดยนายสุพรได้ประกาศผ่านเครื่องเสียงไปยังกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ขอร้องให้มวลชนที่นำรถมาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยตนยืนยันว่าจะเคลื่อนขบวนอย่างสันติ
เวลาประมาณ 11.20น. นายสุรเชษฐ์ ชัยโกศล ส.ส.อยุธยา พรรคเพื่อไทย ผู้เคยสร้างวีรกรรมแจกกล้วยในสภาฯ สวมแว่นตาดำสวมเสื้อสีแดงแขนยาวนุ่งกางเกงยีนต์ ขี่รถฮาเล่ย์เดวิดสัน สีขาว มายังจุดตรวจร่วมพร้อมกับมวลชนจำนวนหนึ่ง เมื่อมาถึงนายสุรเชษฐ์ได้แสดงตัวเบิ้ลเครื่องยนต์ซ้ำๆ หลายครั้ง จากนั้นได้ลงจากรถมาทักทายกับขบวนรถกลุ่มคนเสื้อแดงเกือบทุกคันที่ขับผ่าน ปลุกเร้าผ่านโทรโข่งขนาดเล็กต่อมวลชนอยู่ตลอดเวลา ขณะที่กลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงและชาวบ้านที่อยู่ในละแวกดังกล่าวยืนดูด้วยความสงสัย ทำให้นายสุรเชษฐ์แสดงตัวอย่างเสียงดังว่า “ผมสุรเชษฐ์ ส.ส.อยุธยา พรรคเพื่อไทยครับ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะที่พ.ต.ท.ประสงค์ เทพรักษ์ สารวัตรใหญ่ สภ.อ.อินทร พระอินทรราชา ปฏิบัติหน้าที่ตรวจค้นขบวนรถคนเสื้อแดงตามปกติ กลับสร้างความไม่พอใจให้กับนายสุรเชษฐ์ ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียง เป็นผลให้นายสุรเชษฐ์เดินปรี่เข้ามาชี้หน้าด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวใบหน้าแดงกร่ำพร้อมกับถือโทรโข่งขนาดเล็ก ต่อว่า พ.ต.ท.ประสงค์ ด้วยถ้อยคำรุนแรงหยาบคายกล่าวหาตำรวจตรวจซ้ำซากหลายครั้ง ทำให้รถติด และยังได้แสดงความเถื่อนต่อไปอีกว่า “มึงถอดเสื้อมาต่อยกับกูไหม” เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความประหลาดใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่รวมทั้งกลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วน ทำให้ทีมงานของนายสุรเชษฐ์ต้องเข้ามาระงับเหตุการณ์และกันตัวนายสุรเชษฐ์ออกไป โดยนายสุรเชษฐ์ก็ยังตะโกนด่าเจ้าหน้าที่ด้วยถ้อยคำที่หยาบคายต่อไป ส่วนพ.ต.ท.ประสงค์ ก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตามปกติ และได้กล่าวถึงกรณีนี้เพียงสั้นๆ ว่า “ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ ผมก็ปฏิบัติตามหน้าที่”
ภายหลังเกิดเหตุไม่นานนัก นายสุเชษฐ์ พร้อมพรรคพวก ได้ขี่รถออกจากจุดเกิดเหตุ และยังได้เบิ้ลเครื่องยนต์เสียงดังอีกหลายๆ ครั้ง พร้อมกับหัวเราะชอบใจอย่างไม่สะทกสะท้าน ส่วนกลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วนที่เดินทางมาก็ยังคงสนับสนุนในการกระทำของ ส.ส.อยุธยา ผู้นี้อีกด้วย
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 2320 ครั้ง