รศ.ดร.วรรณธรรม กาญจนสุวรรณ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวทางสถานีวิทยุชุมชน”ปกป้องสถาบัน”คลื่นFM 90.25MHz ถึงสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดภาคใต้ที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ว่าความรุนแรงนั้นยังคงมีอยู่ ซึ่งจากช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้ทุ่มเทมากและเฝ้าระวังกันอย่างเต็มที่ แต่ก็คงจะอยู่ในช่วงของความอ่อนหล้าบ้าง จากที่คอยเฝ้าดูแลพี่น้องประชาชนให้อยู่ในความปลอดภัย ความสงบสุข มาระยะหนึ่ง ซึ่งทางผู้ไม่หวังดีก็จะฉวยโอกาสช่วงทีเผลอ ขณะเดียวกันก็อยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านสำคัญด้านยุทธศาสตร์
ณ วันนนี้ปัญหาภาคใต้มี 2 ส่วน คือเรื่องของการพัฒนาเพื่อยกระดับรายได้ของประชาชนให้ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และอีกส่วนนึ่งคือเรื่องของความมั่นคง ซึ่งทั้ง2ส่วนนี้ต้องไปคู่กัน และ 1 ปีที่ผ่านมายุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาของรัฐบาลได้ดำเนินการไปมาก ซึ่งพบว่ารายได้ของประชาชนที่ยากจนในพื้นที่ภาคใต้ดีขึ้น มีการนำไปสู่การสร้างอาชีพ และพอใจกับรัฐบาลที่ได้นำแนวทางการพัฒนามาใช้ และเป็นแผนพัฒนาที่มีความต่อเนื่องถึงปีนี้ด้วย
แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีปัญหาทางอุทกภัยกันบ้าง ทางรัฐบาลก็เข้าไปเยียวยา และแก้ปัญหาเรื่องต่างๆในเชิงพัฒนาค่อนข้างจะได้ผลซึ่งถือว่าสอบผ่าน
แต่ด้านความมั่นคงจะมีกลุ่มคนที่มีอยู่จริงที่ต้องการจะให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว พยายามที่จะสร้างให้เห็นว่าแนวคิดในเรื่องของการแบ่งแยกดินแดน ยังคงมีอยู่ ซึ่งตรงนี้เราก็ต้องน้อมรับกลับมาเพื่อตั้งหลักและปรับกลยุทธ์ต่อไป
“ยุทธศาสตร์ที่ผ่านมาเราได้ใจประชาชนเป็นจำนวนมาก และทางกองทัพก็ปฏิบัติการได้ดี ไม่ว่าจะช่วงปีใหม่ หรือช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆ แต่ขณะเดียวกันของผู้ที่ไม่หวังดี เป็นแผนการที่พยายามจะช่วงชิง ทำลายบรรยากาศ หรือดิสเครดิตกับทางรัฐบาลเพราะว่าช่วงนี้เป็นปีที่กำลังจะมีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นใหม่ เช่นการจัดการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้(ศอ.บต.)”รศ.ดร.วรรณธรรม กล่าว
ปรับยุทธศาสตร์ใหม่ตั้งศอ.บต.ดับไฟใต้
รศ.ดร.วรรณธรรม กล่าวว่าศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้(ศอ.บต.) จะขึ้นตรงภายใต้การทำงานของนายกรัฐมนตรี และเป็นแนวทางของการใช้พระราชบัญญัติใหม่ หากนำมาใช้ได้จริงก็เชื่อว่าจะสามารถช่วยดับไฟใต้ได้อย่างมาก แต่ฝ่ายตรงข้ามก็พยายามที่จะทำทุกวิถึทางเพื่อไม่ให้เกิดขึ้น ถือว่าเป็นการช่วงชิงกันอยู่และเป้าหมายของฝ่ายตรงข้ามก็คือทหาร
ต้องยอมรับว่ากลุ่มทหารที่เข้าไปปฎิบัติหน้าที่ก็ถูกการกระทำเช่นนี้ เพราะสามารถที่จะเข้าถึงประชาชนได้ดีมีความไว้เนื้อเชื่อใจกันในระดับหนึ่ง และพยายามยั่วยุที่จะทำให้เกิดความรุนแรงแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน ซึ่งทางทหารก็ไม่มีแนวคิดนี้ใช้ตอบโต้อยู่แล้ว แต่ขณะเดียวกันก็จะต้องดำเนินการเอาผิดด้านกฏหมายกับผู้ที่ไม่หวังดีมาลงโทษให้ได้ ซึ่งกระบวนการยุติธรรมก็ต้องเดินหน้าต่อไป
ฉะนั้นรัฐบาลจะต้องหนักแน่นในแนวทางการพัฒนาแผนยุทธ์ศาสตร์ต่อไป โดยเฉพาะแนวทางความคิดด้านสังคมวิทยา จิตวิทยา เชิงวัฒนธรรม ให้มากขึ้น เพราะกลุ่มที่ไม่หวังดีก็ต่างทำงานเป็นขั้นเป็นตอน ตั้งองค์กร มีระดับแกนนำเปิดตัวเดินอยู่ในหมู่บ้าน ในที่สาธารณะ ดังนั้นประชาชนก็ต้องช่วยกันดูแลเพื่อไม่ให้กระทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องและช่วยกันที่จะดับไฟใต้ให้ได้
“ต้องหนักแน่นว่าการสูญเสียครั้งนี้จะต้องไม่คิดเป็นอื่น แต่เป็นผู้ที่ไม่หวังดีจริงๆ ไม่ใช่เป็นการสร้างสถานการณ์ และต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตามากขึ้น”
ตอนนี้รัฐาลได้ประกาศนโยบายยกเลิกพระราชกำหนดฉุกเฉินขยายออกไปอีกหลายอำเภอในจังหวัดภาคใต้ ล่าสุดอำเภอแม่ลาน ซึ่งบรรยากาศความสงบสงบสุขก็กลับคืนมา และมีแนวทางจะขยายอีกหลายพื้นที่เช่น เบตง จาบัง เพื่อให้แต่ละพื้นที่แต่ละจังหวัดเกิดสันติสุขอย่างแท้จริง