รัฐบาลทั่วโลกเร่งกักตุนอาหาร หวั่นราคาพุ่งไม่เลิก

รูปภาพ : รถเก็บเกี่ยวกำลังเก็บเกี่ยวข้าวสาลีในไร่ที่รัสเซีย ปี 2011 ราคาข้าวสาลีพุ่งแตะจุดสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง สร้างความกังวลให้รัฐบาลทั่วโลก

ที่มา : Bloomberg

บรรดารัฐบาลของประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลายกำลังเร่งกักตุึนอาหารที่จำเป็นเพื่อควบคุมการแย่งกันซื้ออย่างตื่นตระหนก เงินเฟ้อ และป้องกันความไม่สงบที่อาจเกิดขึ้นได้ในประเทศ

แต่การเร่งกักตุนนั้นกลับทำให้ราคาสินค้าเกษตรพุ่งสูงขึ้นกว่าเดิมอีก ราคาข้าวสาลีซึ่งถือเป็นอาหารพื้นฐานที่สำคัญที่สุดในโลกพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีครึ่งเมื่อวานนี้ (พฤหัสบดีที่ 27 มกราคม 2011) หลังจากประเทศต่างๆไล่คั้งแต่แอลจีเรียไปจนถึงซาอุดิอาระเบียต่างประกันการจัดซื้อรอบพิเศษเพิ่มเติม

ราคาอาหารที่สูงได้กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดคลื่นของเหตุรุนแรงขึ้นไปทั่วประเทศต่างๆในแถบแอฟริกาเหนือและตะวันออกกลาง เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมในแอลจีเรีย บรรดาผู้ประท้วงวัยรุ่นต่างตะโกนว่า “เอาน้ำตาลมาให้เรา!” ราคาของน้ำตาลในตลาดค้าส่งนั้นพุ่งทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 30 ปี

ในช่วงต้นสัปดาห์ รัฐบาลแอลจีเรียได้สั่งซื้อข้าวสาลีจำนวน 800,000 ตัน ซึ่งมากกว่าปกติมาก และซาอุดิอาระเบียได้ประกาศว่า ทางการมีแผนเพื่อเพิ่มระดับข้าวสาลีในคลังสำรองอีกเท่าตัว

ด้านบังคลาเทศและอินโดนีเซียได้ร่วมวงการเร่งกักตุนด้วยเมื่อวานนี้ โดยทั้ง 2 ต่างวางคำสั่งซื้อพิเศษในการสั่งซื้อข้าว บรรดานักค้ากล่าวว่า รัฐบาลอินโดนีเซียซึ่งโดยปกติแล้วมักจะสั่งซื้อข้าวครั้งละ 200,000 ตัน คราวนี้สั่งซื้อมากกว่า 800,000 ตัน ด้านบังคลาเทศระบุว่าปีนี้ทางการจะสั่งซื้อข้าวเพิ่มขึ้นเท่าตัว

“หากว่าคุณดูราคาเฉลี่ยจากปี 2000-2006 ผมคิดว่าเราจะอยู่ในระดับที่สูงกว่าระดับนั้นซึ่งเราเคยสังเกตเห็นมาก่อน” นายเกรกอรี่ เพจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของคาร์กิล บริษัทค้าสินค้าเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในโลก ให้สัมภาษณ์กับไฟแนนเชียลไทม์ในวีดีโอการสัมภาษณ์ระหว่างเข้าร่วมประชุมสุดยอดเศรษฐกิจโลกหรือ World Economic Forum ที่เมืองดาวอส

นายเพจซึ่งกล่าวว่ารูปแบบของสภาพอากาศจะเป็นตัวกำหนดว่าราคาจะไปถึงจุดสูงสุดตอนไหน หวังว่า ราคาของสินค้าเกษตรหลายๆตัวจะไม่ทะลุระดับในปี 2007-2008 หากว่าสภาพอากาศเอื้ออำนวย

“ชัดเจนเลยว่าที่ระดับราคานี้ เกษตรกรทั่วโลกกำลังได้รับสัญญาณราคาเพื่อออกไปลุยและเร่งเพาะปลูก” เขากล่าว

ในระยะสั้นแนวโน้มน่าจะเป็นการเพิ่มขึ้นของพื้นที่เพาะปลูกซึ่งจะมีการปลูกพืช 2 ประเภทต่อปี และจะเป็นการเพิ่มผลิตภาพของการทำไร่ในประเทศกำลังพัฒนาสำหรับในระยะยาวกว่านั้น

แต่คาร์กิลเชื่อว่า ราคาสินค้าเกษตรน่าจะยังผันผวนมากเพราะแนวโน้มของราคาที่สูงขึ้นจะกระตุ้นให้เกิดความต้องการที่เพิ่มขึ้นในระยะสั้นและการเร่งสร้างสต็อก ส่งผลให้ราคาเหวี่ยงแรงกว่าเดิม และความผันผวนในด้านปริมาณผลผลิตทั้งจากสภาพอากาศที่แย่หรือจากการที่ประเทศต่างๆออกมาตรการห้ามการส่งออกสามารถนำไปสู่ภาวะที่ราคาสูงสุดกู่ได้เป็นการชั่วคราว

ที่มา Financial Times

แปลและเรียบเรียงโดย เบ๊นซ์ สุดตา ฝ่ายข่าวเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศ Mtoday