รูปภาพ : ผู้ประท้วงขับไล่รัฐบาลประธานาธิบดีฮอสนี่ มูบารักของอิยิปต์กำลังปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจล ณ เมืองท่าซูเอส วิกฤตการเมืองอิยิปต์มีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากราคาอาหารที่แพงหนักและการว่างงานเรื้อรังในหมู่วัยรุ่น
ที่มา : Reuters
ราคาของสินค้าเกษตรยังคงพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยราคาน้ำตาลพุ่งทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 30 ปี เหตุเนื่องมาจากสภาพอากาศโลกยังคงส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการเพาะปลูกทั่วโลก
บรรดานักค้าโภคภัณฑ์อาหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรในหลายๆประเทศต่างเชื่อกันมากขึ้ันว่า ผลกระทบที่เลวร้ายที่สุดของการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อด้านสินค้าเกษตรในตอนนี้ยังคงรู้สึกได้ในตอนนี้ ทั้งในแง่ของการพุ่งขึ้นอีกของราคาในอนาคตและโอกาสของการเกิดจลาจลเพิ่มเติม
นายริค เดเวเรล นักเศรษฐศษสตร์สินค้าโภคภัณฑ์จากธนาคารเครดิตสวิสในกรุงลอนดอนให้ความเห็นกับไฟแนนเชียลไทม์ว่า แม้ราคาจะเพิ่มขึ้นมามากในช่วงปีที่ผ่านมา เขาคาดว่า ราคาสินค้าเกษตร “จะยังคงพุ่งขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงกลางปี 2011″
“ขณะที่ฉากทัศน์กลางของเรานั้นสร้างขึ้นโดยมองว่าราคาข้าวโพดและถั่วต่างๆจะวิ่งไปถึงจุดสูงสุดในระดับเดียวกับช่วงปี 2008 การเกิดการช็อคในฝั่งผลผลิตเพิ่มเติมจะทำให้ราคากระชากขึ้นไปได้อีก
การถีบตัวสูงขึ้นของราคาขายส่งของอาหารกำลังค่อยๆซึมลึกลงสู่ราคาในตลาดขายปลีกทั้งในประเทศยากจนและประเทศร่ำรวย ซึ่งเร่งให้แรงกดดันของเงินเฟ้อพุ่งมากกว่าเดิมและจุดชนวนให้เกิดการขยายวงของการจลาจลเพราะอาหารในหลายๆประเทศเช่น แอลจีเรีย และ โมแซมบิก
แต่ด้านของเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับด้านอาหารของสหประชาชาติกลับวิตกว่า อาจเกิดความรุนแรงมากขึ้นเนื่องจากบรรดารัฐบาลและบริษัทต่างๆจะผลักภาระของราคาอาหารที่กระชากขึ้นไปกว่า 110% หรือมากกว่าเท่าตัวไปสู่ผู้บริโภค
พายุไซโคลนยาซี่ซึ่งมีความเร็วลมที่ศูนย์กลางกว่า 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อผลผลิตอ้อยในออสเตรเลีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก ราคาน้ำตาลดิบซื้อขายที่นิวยอร์กถีบตัวสูงกว่าระดับ 35 เซ็นต์สหรัฐฯต่อปอนด์เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1980 ราคาน้ำตาลพุ่งทุบสถิติถึง 36.08 เซ็นต์ในช่วงของการซื้อขายระหว่างวัน พุ่งขึ้นวันดียวกว่า 6.2%
นายโธมัส คูจาว่า จากบริษัทซัคเดนซึ่งเป็ฯโบรกเกอร์ในกรุงลอนดอนกล่าวกับไฟแนนเชียลไทม์ว่า “อย่างที่กลัวกัน สภาพอากาศในออสเตรเลียกำลังเพิ่มความตึงเครียดสู่ตลาดโภคภัณฑ์กันทั่วหน้าด้วยความเสียหายที่เพิ่มขึ้นต่อผลผลิตอ้อย”
ข้าวสาลี ข้าวโพด และถั่วเหลืองทั้งหมดต่างๆทุบสถิติสูงสุดในรอบ 30 เดือน เนื่องจากบรรดานักค้าโภคภัณฑ์ต่างกังวลว่า สภาพอากาศแห้งในอาร์เจนติน่าซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวโพดใหญ่อันดับ 2 ของโลกและภาวะอาศที่เย็นจัดในสหรัฐฯซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่ที่สุดของโลกอาจส่งผลกระทบหนักต่อสภาพการเพาะปลูก ส่งผลให้ตลาดเผชิญการตึงตัวของปริมาณผลผลิตต่อเนื่องในปีนี้
ด้านนายโรเจอร์ แจนสัน หัวหน้าฝ่ายเมล็ดพืชและพืชน้ำมันประจำทวีปยุโรปของบริษัทคาร์กิลซึ่งเป็นบริษัทค้าสินค้าเกษตรรายใหญ่ที่สุดของโลกกล่าวในที่ประชุมโภคภัณฑ์จัดโดยสหประชาชาติว่า สต็อกข้าวโพดและถั่วเหลืองในสหรัฐฯ ซึ่งใช้เป็นตัวแทนสต็อกของโลก อยู่ในระดับที่ “ต่ำอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน”
ราคาข้าวสาลีซื้อขายในปารีสซึ่งใช้เป็นราคาอ้างอิงของยุโรปพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 269.75 ยูโรต่อตัน สูงที่สุดนับแต่เดือนมีนาคม 2008 และบรรดานักค้าโภคภัณฑ์ต่างกล่าวว่า ราคาข้าวสาลีอาจพุ่งไปถึง 300 ยูโรต่อตัน ทะลุระดับสูงสุดเดิมที่มำไว้ช่วงวิกฤตอาหารปี 2007-2008
ราคาข้าวโพดซื้อขายในตลาดชิคาโก้พุ่งทำสถิติสูงสุดระหว่างวันที่ 6.74 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบูเชล สูงสุดตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 ขณะที่ถั่วเหลืองวิ่งมาอยู่ที่ 14.52 ดอลลาร์ต่อบูเชล
ที่มา Financial Times
แปลและเรียบเรียงโดย เบ๊นซ์ สุดตา ฝ่ายข่าวเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศ Mtoday