รัฐบาลไทยแถลงส่งหนังสือแจงยูเอ็นเหตุปะทะกัมพูชาแล้วยืนยันฝ่ายตรงข้ามเริ่มก่อน ลั่นไม่ยกปัญหาขึ้นเวทีนานาชาติขอแก้ไขระดับทวิภาคีเท่านั้น พร้อมเชิญทูต16 ประเทศถูกละเมิดอธิปไตย
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รักษาการโฆษกรัฐบาล พร้อมด้วยพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบกและนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกันแถลงข่าวทาทีของรัฐบาลไทย ต่อกรณีสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่มีการปะทะกันของทหารทั้งสองฝ่าย กระทั่งนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาติส่งกองกำลังเข้ามาประจำการพื้นที่พิพาท
นายปณิธาน กล่าวว่า รัฐบาลสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการปกป้องอธิปไตยอย่างเต็มที่เราะไทยโดนฝ่ายกัมพูชาโจมตีก่อน มีการโต้ตอบกลับไปอย่างสมเหตุผลพร้อมขอสงวนสิทธิในแก้ปัญหาแบบทวิภาคี เหตุปะทะเป็นผลสืบเนื่องกัมพูชายกระดับไปสู่นานาชาติ เพื่อให้นำประเทศอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง ขณะนี้รัฐบาล สั่งให้มีการตั้งจุดประสานงานด้านการข่าว 2 จุด โดยมีพ.อ.สรรเสริญ รับหน้าที่ประสานงานด้านการข่าว ผ่านทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5
ขณะที่นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รับหน้าที่ประสานสื่อมวลชนในการให้ข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล เพื่อเป็นหลักในการนำเสนอข่าวให้ถูกต้อง
ด้าน พ.อ.สรรเสริญ ยืนยันว่าไทยไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อนจะพยายามเปิดเจรจาก็ไม่ได้เพราะฝ่ายกัมพูชาจะเอาไปบิดเบือน ผู้บาดเจ็บวันแรก 12นาย และวันต่อมา 25นาย ทหารเสียชีวิต1นาย พลเรือนเสียชีวิต 1ราย ได้ส่งชุดปฏิบติการเข้าดูแลประชาชนตามสถานการณ์ ให้มากเท่าที่จะทำได้
นายชวนนท์ กล่าวว่า เย็นวันนี้จะเชิญทูต16ประเทศชี้แจงกรณีไทยถูกละเมิดอธิปไตย โดยนายกษิต ภิรมย์ จะพูดคุยกับนายฮอร์ นัม ฮง รมว.ต่างประเทศของกัมพูชา ประชุมเจบีซีสิ้นเดือนนี้ หรือสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์
นอกจากนี้ กระทรวงต่างประเทศได้ส่งหนังสือไปยังสหประชาชาติแล้วโดยระบุว่า กัมพูชารุกล้ำและแจ้งยูเนสโกค้านการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารในปีนี้ และไม่ทำตามมติหยุดยิงและหวังขยายผลสู่เวทีนานาชาติ
อีกด้านหนึ่ง สำนักข่าวซินหัว ของทางการจีน รายงานว่า นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของกัมพูชา กล่าวในพิธีสำเร็จการศึกษาของมหาวิทยาลัยในกรุงพนมเปญ ระบุว่า ประเทศของเขาจะไม่ยอมถอดธงชาติที่โบกสะบัดอยู่เหนือซุ้มประตูวัดแก้วศิขาคีรีสวาระ ในบริเวณปราสาทพระวิหารอย่างเด็ดขาด เพราะเป็นดินแดนของกัมพูชา
“กัมพูชาจะหาทางแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างสองชาติ ผ่านแนวทางทางการการทูต หรือไม่ก็ทางทหาร” เขา กล่าวและระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเรียกว่าเป็นความขัดแย้งด้วยอาวุธขนาดใหญ่ หรือ เป็นสงครามชายแดนขนาดย่อมก็ได้แต่เป้าหมายของทางฝ่ายไทยนั้นชัดเจนอย่างยิ่งว่า ต้องการยึดครองพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร ที่อยู่ใกล้กับปราสาทพระวิหารที่ไทยอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของ
ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่ในพื้นที่ อ้างว่า การปะทะกันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับตัวปราสาทพระวิหาร ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นมรดกโลก บริเวณชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ยังไม่เคยถูกปักปันเขตแดนอย่างสมบูรณ์ และประเด็นปราสาทพระวิหารก็ยืดเยื้อมาตั้งแต่อดีต
ปราสาทพระวิหาร ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ปี 2551 หรือเพียง 1 สัปดาห์ หลังจากได้รับการเสนอชื่อ ขณะที่ความขัดแย้งเรื่องดินแดนโดยรอบนั้นเป็นผลมาจากไทยอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร ทำให้เกิดการสร้างเสริมกำลังทหารตลอดแนวพรมแดน และเกิดการปะทะกันหลายครั้ง นำมาซึ่งความสูญเสียชีวิตทหารของทั้งสองฝ่าย
เวลา 15.10น.พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ,นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รักษาการโฆษกรัฐบาล, และนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตัวแทนฝ่ายต่างประเทศ
นายปณิธานแถลงว่าเสียใจกับผู้สูญเสีย ยืนยันสนับสนุนเจ้าหน้าที่เต็มที่เพื่อปกป้องอธิปไตย ย้ำประเทศไทยโดนโจมตีและโต้ตอบสมเหตุผลไปยังพื้นที่ใช้อาวุธสงคราม รัฐบาลไทยยืนยันกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ขอบคุณมิตรประเทศและยูเอ็นเชื่อมั่น แม้โดนโจมตี จะดำเนินการทางการทูตต่อไป และสงวนสิทธิแก้ปัญหาแบบทวิภาคี
นายปณิธานกล่าวด้วยว่า เหตุปะทะเป็นผลสืบเนื่องกัมพูชายกระดับไปสู่นานาชาติ เพื่อให้นำประเทศอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องแก้ไขข้อพิพาท
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ปะทะอีก สิ่งที่กองทัพบกยึดกฎกติกา ยืนยันเราไม่เป็นฝ่ายเริ่มก่อน จะพยายามเปิดเจรจา ก็ไม่ได้ เพราะทางฝ่ายเขมรจะเอาไปบิดเบือน ผู้บาดเจ็บวันแรก 12นาย และวันต่อมา 25นาย ทหารเสียชีวิต1นาย พลเรือนเสียชีวิต 1ราย โดยได้ส่งชุดปฏิบติการเข้าดูแลปชช.ตามสถานการณ์ ให้มากเท่าที่จะทำได้
ทางด้าน นายชวนนท์ กล่าวว่า เย็นวันนี้ จะได้เชิญ ทูต16ประเทศชี้แจงกรณีประเทศไทยถูกละเมิดอธิปไตย โดยตอบโต้เท่าที่จำเป็น และไม่โจมตีพลเรือน โดยนายกษิต ภิรมย์ จะพูดคุยกับนายฮอร์ นัม ฮง รมว.ต่างประเทศของกัมพูชา ประชุมเจบีซีสิ้นเดือนนี้ หรือสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์
นายชวนนท์บอกว่า ทางกระทรวงต่างประเทศ โดยส่งหนังสือไปยังยูเอ็นแล้ว โดยระบุว่า กัมพูชารุกล้ำและแจ้งยูเนสโกค้านการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารในปีนี้
และกต.ส่งจม.ไปคณะมนตรีฯว่าไทยโดนกัมพูชารุกล้ำ เหตุเช้าวันนี้ยิ่งชัด ว่ากัมพูชาเริ่มก่อน โดยไม่ทำตามมติหยุดยิงและหวังขยายผลสู่เวทีนานาชาติรัฐบาลแถลงเหตุปะทะเขมรเริ่มก่อน
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1187 ครั้ง