ประชาชนในเมืองจูบา เมืองเอกของซูดานใต้ ออกมาชุมนุมตามท้องถนน โบกธงชาติและโห่ร้องเต้นรำด้วยความยินดี หลังคณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศเมื่อวานถึงผลคะแนนการลงประชามติระหว่าง 9-15 มกราคมว่า ผู้มีสิทธิออกเสียงร้อยละ 98.8 สนับสนุนการแยกซูดานใต้ออกจากซูดานเหนือ
ที่ผ่านมา ซูดานใต้ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เป็นชาวคริสต์และมีพื้นที่อุดมสมบูรณ์ กับซูดานเหนือที่ประชาชนส่วนใหญ่เป็นมุสลิมและพื้นที่แห้งแล้งเป็นทะเลทราย เคยสู้รบกันมานาน 20 ปีทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ล้านคน ก่อนจะทำข้อตกลงสันติภาพกันได้ในปี 2548 และให้อำนาจซูดานใต้ในการปกครองตนเอง และจากผลการลงประชามติครั้งนี้จะปูทางให้ซูดานใต้ประกาศสถาปนาเป็นประเทศเอกราชในวันที่ 9 กรกฎาคมปีนี้และจะเป็นสมาชิกใหม่ล่าสุดลำดับที่ 193 ของโลก
นายแกเบรียล ชางซอน ชาง รัฐมนตรีมรดกและวัฒนธรรมของซูดานใต้ บอกว่า ขณะนี้กำลังมีการพิจารณาจัดทำสัญลักษณ์ประจำชาติ เช่น ธงเพลงชาติ สกุลเงิน ตลอดจนเหรียญเกียรติยศต่างๆ แต่ความท้าทายสำคัญในขณะนี้ คือ การเริ่มวางรากฐานสำหรับประเทศเกิดใหม่ ที่จะต้องมีการเจรจาเกี่ยวกับฝ่ายซูดานเหนือ เรื่อง สิทธิพลเมือง ผลประโยชน์จากน้ำมัน การปักปันเขตแดน สกุลเงิน ระบบธนาคาร ทรัพย์สินและหนี้สินต่างๆ
ด้านประธานาธิบดีโอมาร์ อัล-บาเชียร์ของซูดาน แถลงข่าวเมื่อวานพร้อมกับประธานาธิบดีซัลวาร์ เคียร์ ของซูดานใต้ และบอกว่าเขายอมรับผลการลงประชามติ และอยากเป็นคนแรกที่ได้แสดงความยินดีกับการสถาปนาประเทศใหม่ของซูดานใต้
ขณะเดียวกันโฆษกสหประชาชาติ แถลงว่า นายบัน คี-มุน เลขาธิการสหประชาชาติ รู้สึกยินดีกับผลการลงประชาชาติ และแสดงความชื่นชมแก่ทุกฝ่ายที่ทำให้เกิดข้อตกลงยุติสงครามและการจัดการลงประชามติ รวมทั้งเรียกร้องให้นานาชาติให้การช่วยเหลือซูดานในการสร้างเสถียรภาพและพัฒนาประเทศ
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1607 ครั้ง