ทั้ง 3 ราย มีความผิดวินัยร้ายแรงตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิด กรณีความผิดวินัยร้ายแรงทุจริตต่อหน้าที่ขยายอายุราชการ ให้แก่ นายรังสรรค์ แสงสุข ซึ่งดร.สุเมธได้ส่งเรื่องถึงคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ตีความว่ามีอำนาจหรือไม่ และกฤษฎีกาตีความกลับมาว่าเป็นอำนาจของสกอ. ดังนั้น ดร.สุเมธ จึงมีคำสั่งดังกล่าว
นายไชยยศ กล่าวว่า ต่อจากนี้ สกอ.จะต้องส่งเรื่องไปยังสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง เพื่อรับทราบคำสั่ง และให้บุคคลทั้งสามออกจากตำแหน่งราชการ และให้ตั้งกรรมการเพื่อสรรหาอธิการบดีคนใหม่ต่อไป อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 ราย ยังมีสิทธิที่จะยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (กพอ.) ได้ภายใน 30 วัน
ด้านรศ.คิม กล่าวว่า ยังไม่ได้รับหนังสือจากสกอ. หลังจากที่ได้รับหนังสือแล้วก็ต้องขอดูในรายละเอียดก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ยืนยันว่าการดำเนินการต่ออายุราชการให้ รศ.รังสรรค์ ที่ผ่านมา ถูกต้องและดำเนินการก่อนที่จะมีระเบียบคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนอุดมศึกษา (กพอ.) เรื่องการต่ออายุราชการออกมา และเมื่อมีระเบียบดังกล่าวออกมาทีหลัง ก็ได้ดำเนินการโดยถอดถอนการต่ออายุราชการของรศ.รังสรรค์ เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบกพอ.ฉบับดังกล่าว ส่วนกรณีที่ยังเห็นว่า รศ.รังสรรค์ ยังมาทำงานในส่วนของฝ่ายบริหารนั้น เนื่องจาก รศ.รังสรรค์ สมัครเป็นลูกจ้าง ดังนั้น จึงแต่งตั้งให้มาทำงานฝ่ายบริหารต่อไป ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวหลายมหาวิทยาลัยก็ทำกัน