จำลองยันกลุ่มพธม.จะชุมนุมจนกว่าบรรลุเป้าหมาย แย้มไม่ปิดประตูการเคลื่อนไหวกดดันไปยังสถานที่อื่น ระบุขอให้เลิกพูดเรื่องเจรจาเพราะเลยเวลาแล้ว
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) กล่าวว่า ผลการประชุมของคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทยที่กลุ่ม พธม.ตั้งขึ้น ได้มีสรุปผลการชุมนุมที่ผ่านมาว่า การปักหลักชุมนุมยืดเยื้อเพื่อกดดันรัฐบาลเป็นเรื่องจำเป็นต้องทำต่อไป จนกว่ารัฐบาลจะออกมาทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดิน โดยการชุมนุมที่ผ่านมาสร้างความกดดันให้รัฐบาล กระทรวงการต่างประเทศและทหาร แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย
ส่วนการเคลื่อนไหวไปกดดันยังสถานที่อื่น กลุ่มพธม.ไม่ได้ปิดประตูที่จะเคลื่อนไหว โดยจะมีการประเมินตามสถานการณ์ต่อไป ขณะที่การเจรจาที่มีหลายฝ่ายพยายามเสนอตั้งเป็นคนกลางก็ขอให้เลิกพูดเรื่องนี้ เนื่องจากเวลาล่วงเลยมามากแล้ว โดยที่รัฐบาลยังล้มเหลวมาตลอดเวลา ดังนั้นขอให้ทุกฝ่ายเลิกความพยายามในเรื่องดังกล่าว
พล.ต.จำลอง ยังกล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ยูเนสโกมีแนวโน้มที่จะเลื่อนการประชุมพิจารณาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารออกไปว่า ในความเป็นจริงปราสาทพระวิหารได้จดทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้ว แต่ยังไม่สมบูรณ์ เพราะยังไม่ได้รับการรับรองแผนบริหารจัดการพื้นที่โดยรอบ ที่รุกล้ำดินแดนของไทย
ขณะเดียวกันที่ผ่านมาทางรัฐบาลไทยไม่เคยมีท่าทีในการคัดค้านการจดทะเบียนเลย มีแต่ภาคประชาชนที่ออกมาเรียกร้องคัดค้านเคลื่อนไหวมากว่า 2 ปี จึงทำให้ผู้แทนยูเนสโกให้ความสำคัญของการเคลื่อนไหวจึงไม่ได้นำเข้าพิจารณาขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกนับเป็นความสำเร็จของภาคประชาชน
สำหรับบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพธม. ยังคงเป็นไปตามปกติ โดย บนเวทียังคงมีการปราศรัยที่เน้นเนื้อหาโจมตีการบริหารประเทศของรัฐบาลที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้ในหลายๆด้าน ขณะที่การรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงกระจายกำลังดูแลพื้นที่มีการสลับเปลี่ยนกำลังดูแลรักษาความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา
ม.ล.วัลวิภา จรูญโรจน์ แกนนำเครือข่าย คนไทยหัวใจรักชาติ กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้( 28 กพ.)ตนและนายฌาคส์ ตรูน ผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาค กทม.ของสำนักงานคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศจะเดินทางไปเยี่ยมนายวีระ สมความคิด และ นางราตรี พิพัฒนาไพบูลย์ ที่เรือนจำกลางเปรซอร์ 1ในกรุงพนมเปญ เพื่อให้ทันกับการยื่นคำร้องอุทธรณ์ต่อศาลกัมพูชา โดยก่อนหน้านื้ทางองค์กรกาชาดสากลประจำประเทศไทยได้ประสานงานไปยังองค์กรกาชาดสากลประจำประเทศกัมพูชาเพื่อขอเข้าเยี่ยมบุคคลทั้งสอง ซึ่งได้รับคำตอบจากกัมพูชาให้เข้าเยี่ยมได้
วีระ
ทั้งนี้ทางเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติไม่เชื่อว่านายวีระและนางราตรีจะเซ็นชื่อเพื่อยื่นเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษแล้ว เนื่องจากขณะนี้ทางญาติและครอบครัวนายวีระต่างไม่มีใครยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง จึงเชื่อว่าเป็นการปล่อยข่าวของฝ่ายการเมืองหรือนายวีระอาจถูกกดดันจากรัฐบาลที่ต้องการดิสเครติสเครือข่ายฯเนื่องจากองค์กรกาชาดสากลได้เข้ามาช่วยประสาน เพราะที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือบุคคลทั้งสองเท่าที่ควร
“เราขอเข้าเยี่ยมนายวีระและนางราตรีมาตลอดแต่ทางกัมพูชาปฎิเสธ โดยอ้างว่า กำลังมีปัญหาการสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชาที่ชายแดนเขาพระวิหาร และบอกว่านายฮอร์นัมฮง รัฐมนตรีต่างประเทศไม่อยู่ 2 สัปดาห์ ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการปิดกั้นสิทธิผู้ต้องหา เราจึงต้องใช้ช่องทางอื่น”ม.ล.วัลวิภา กล่าว
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1260 ครั้ง