รูปภาพ : สาขาของธนาคาร Unicredit ในกรุงโรม โดยธนาคารนี้เป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลีและใหญ่เป็นอันดับต้นๆของยุโรป ธนาคาร Unicredit ถือเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่มีอยู่ทั่วโลกของกองทุน LIA ของลิเบียที่ทำหน้าที่บริหารรายได้มหาศาลจากการค้าน้ำมันในแต่ละปี
ที่มา : Bloomberg
ผู้มีถิ่นฐานในประเทศลิเบียซึ่งบางส่วนอยู่ในบัญชีรายชื่อผู้ถูกอายัดทรัพย์ตามมติของสหประชาชาติ มีเงินฝากในบัญชีธนาคารต่างประเทศกว่า 62,100 ล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2010 จากข้อมูลของธนาคารเพื่อการชำระเงินระหว่างประเทศหรือ BIS (Bank for International Settlements)
เงินฝากส่วนมากมาจากธนาคารในประเทศลิเบียเองซึ่งรวมถึงสาขาของธนาคารลิเบียในต่างประเทศ ขณะที่อีก 8,200 ล้านดอลลาร์มาจากผู้มีพิ่นฐานในลิเบียที่มิใช่ธนาคาร จากข้อมูลสถิติการธนาคารรายไตรมาส (Quarterly Banking Statistics) ของ BIS ซึ่งออกรายงานฉบับนี้ครั้งล่าสุดเมื่อ 28 มกราคมที่ผ่านมา
ขณะที่เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สหภาพยุโรปได้บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตารการส่งออกอาวุธและมาตรการคว่ำบาตรอื่นๆรวมถึงการอายัดทรัพย์ทรัพย์สิน และทางการสหรัฐฯได้กล่าวว่า รัฐบาลได้อายัดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 30,000 ล้านดอลลาร์ของลิเบีย ซึ่งกระทรวงการคลังสหรัฐฯเรียกการอายัดครั้งนี้ว่ามีมูลค่า “สูงที่สุดนับแต่เคยทำมา” รัฐบาลแคนาดา สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร และออสเตรียก็ได้ร่วมกันทำการอายัดทรัพย์สินของพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี่ ผู้นำลิเบียและพรรคพวกด้วย
สถิติจาก BIS อยู่บนพื้นฐานของรายงานจาก 43 ประเทศซึ่งรวมถึงประเทศพัฒนาแล้วส่วนใหญ่และศูนย์กลางการเงินออฟชอร์เช่น หมู่เกาะเคย์แมนด์, the Netherlands Antilles และ หมู่เกาะในช่องแคบอังกฤษ (British Channel Islands) ตัวเลขจาก BIS นี้ไม่ได้ครอบคลุมถึงการลงทุนโดยตรงในสินทรัพย์ต่างประเทศของชาวลิเบียเอง
ขณะที่เมื่อใช้ตัวชี้วัดที่กว้างกว่าของไอเอ็มเอฟจะพบว่า สินทรัพย์ในต่างประเทศที่ถือครองโดยชาวลิเบียอยู่ที่ 152,400 ล้านดอลลาร์ (ประมาณครึ่งหนึ่งของขนาดเศรษฐกิจประเทศไทย) ณ สิ้นปี 2010 โดยตัวชี้วัดของไอเอ็มเอฟนี้ได้นับเอาทุนสำรองทางการของธนาคารกลางลิเบียและการลงทุนอื่นๆซึ่งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติที่ชื่อ Libya Investment Authority (LIA) รวมอยู่ด้วย ตัวเลขเบื้องต้นของไอเอ็มเอฟระบุ
Libya Investment Authority
กองทุน LIA ของประเทศลิเบียถือหุ้นในบริษัท UniCredit SpA ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี, บริษัท เพียร์สัน จำกัด (มหาชน) ของอังกฤษซึ่งเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์อย่าง Financial Times และบริษัท Finmecanica SpA โดยในวันที่ 28 กุมภาพันธ์เช่นกัน บริษัทเพียร์สันได้ทำการอายัดหุ้นที่ถือโดยกองทุนลิเบียเอาไว้โดยทำการระงับการซื้อขายหุ้นและการจ่ายเงินปันผลในส่วนที่ถือโดยกองทุนนี้ นางมาร์โจรี่ สการ์ดิโน่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเพียร์สันออกมากล่าวว่า เธอรู้สึก “ไม่สบายใจกับการถือครองหุ้น (โดยลิเบีย)” เมื่อวานนี้
กัดดาฟี่ได้ “สูญเสียความชอบธรรมในการปกครองและนี่คือเวลาที่เขาต้องไปโดยปราศจากความรุนแรงหรือการเหนี่ยวรั้งมากไปกว่านี้” นางฮิลลารี่ คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯกล่าวเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาหลังจากการประชุมกับรัฐมนตรีต่างประเทศจากสหภาพยุโรปและรัสเซียในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐฯกล่าวว่า ทีมช่วยเหลือผู้อพยพได้ถูกส่งไปยังชายแดนลิเบียแล้ว ขณะที่กองทัพเรือและกองทัพอากาศสหรัฐฯของสหรัฐฯในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกำลังอยู่ในระหว่างเคลื่อนพล
ที่มา Bloomberg
แปลและเรียบเรียงโดย เบ๊นซ์ สุดตา ฝ่ายข่าวเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศ Mtoday