แฉโรงงานตั้งยี่ปั๊วรับซื้อน้ำตาลไปขายชายแดน ต้นตอใหญ่ทำน้ำตาลหายจากตลาด

แฉโรงงานตั้งยี่ปั๊วรับซื้อน้ำตาลไปขายชายแดน ต้นตอใหญ่ทำน้ำตาลหายจากตลาด พร้อมประสาน 4 โรงงานผลิตน้ำตาลบรรจุถุง 1 กิโลกรัมเพิ่มป้อนห้างค้าปลีก

นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า แนวทางที่ทำให้น้ำตาล หายออกไปจากตลาดหนักสุดช่วงนี้ นอกจากขนโดยกองทัพมดขายชายแดน และไหลออกทางโรงงานผลิตของหวาน ขณะนี้มีโรงงานน้ำตาลบางแห่ง แอบไปตั้งบริษัทค้าส่ง หรือยี่ปั๊ว มาสั่งซื้อน้ำตาลไปจำหน่ายชายแดน ซึ่งเรื่องนี้ตรวจสอบยาก โดยกระทรวง จะตรวจสอบว่ามีการถือหุ้นกลุ่มเดียวกัน ระหว่างโรงงานน้ำตาล กับยี่ปั๊วหรือไม่

ขณะนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ขอความร่วมมือโรงงานน้ำตาลจำนวน 4 แห่ง ได้แก่ กลุ่มไทยรุ่งเรือง ผลิตน้ำตาลยี่ห้อ ลิน กลุ่มมิตรผล กลุ่มวังขนาย และบริษัทครบุรี ที่ผลิตน้ำตาลบรรจุถุง 1 กิโลกรัม ให้ผลิตเพิ่มเพื่อกระจายลงสู่ห้างค้าปลีกอย่างทั่วถึง

นอกจากนี้จะร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ (พณ.) ในการตรวจการกระจายน้ำตาลอย่างใกล้ชิด โดยให้ พณ. เป็นผู้ตรวจสอบน้ำตาลปลายทางแจ้งเข้ามายังกระทรวงอุตสาหกรรมว่าในพื้นที่ไหนยังขาดแคลนอยู่ เพื่อที่จะได้กระจายน้ำตาลเข้าไปเพิ่มให้ตรงจุด   

“ส่วนการบรรจุถุงที่ทำให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้น ได้ประสานกับ พณ. ให้ช่วยประสานงานกับห้างค้าปลีกเพื่อดูแลต้นทุนการจัดการให้ โดยในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมได้คุยกับโรงงานให้เร่งการผลิตเพิ่มขึ้นแล้ว”นายชัยวุฒิ กล่าว

ทั้งนี้รายงานข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรมแจ้งว่า ขณะนี้ปัญหาการขาดแคลนน้ำตาลยังไม่เกิดขึ้น เนื่องจากยังมีน้ำตาลอยู่ในตลาดเป็นจำนวนมาก แต่ส่วนที่ขาดคือการจำหน่ายใน ห้างค้าปลีก เพราะโรงงานน้ำตาลผลิตน้ำตาลบรรจุถุง 1 กิโลกรัมค่อนข้างน้อย เพราะผลิตขายแล้วไม่คุ้มทุนการบรรจุภัณฑ์ ทำให้ประชาชนที่เข้าไปซื้อน้ำตาลภายในห้างค้าปลีกรู้สึกว่าน้ำตาลขาด

ส่วนปัญหาราคาน้ำตาลแพงนั้น เกิดขึ้นเพราะ กระบวนการจำหน่ายน้ำตาลในเมืองไทย มีการจำหน่ายผ่านยี่ปั๊วซาปั๊วต่อกันหลายทอด ซึ่งทุกทอดก็ต้องมีค่าบริหารจัดการและค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น ทำให้น้ำตาลที่ถึงมือประชาชนจึงไม่ได้เป็นน้ำตาลในราคาควบคุม 23.50 บาทต่อกิโลกรัม

ด้าน นายประเสริฐ ปตนียางกูร เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) กล่าวว่า สอน.ได้ทำหนังสือขอความร่วมส่งไปยังโรงงานน้ำตาลให้ผลิตเพิ่มแล้ว ซึ่งจากการขอความร่วมมือให้โรงงานช่วยผลิตน้ำตาลเพิ่มในครั้งนี้จะทำให้มีปริมาณน้ำตาลบรรจุถุง 1 กิโลกรัม จำนวนทั้งสิ้น 266 ล้านถุง จากปีที่แล้วที่มีน้ำตาลบรรจุถุง 1 กิโลกรัมขายอยู่จำนวน 105 ล้านถุง โดยการขอความร่วมมือผลิตเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากห้างค้าปลีกมีการขยายสาขามากขึ้น ทำบางสาขาได้รับน้ำตาลไปขายน้อยลง แต่ยืนยันว่าน้ำตาลไม่ได้ขาดตลาดจริงๆ

“น้ำตาลที่ขายอยู่ในห้างค้าปลีกบางสาขาอาจมีอยู่น้อยจริง ไม่เพียงพอต่อความต้องการ เนื่องจากห้างค้าปลีกต้องกระจายสินค้าไปให้ทั่วถึงทุกสาขาที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น ปริมาณที่แต่ละสาขาได้รับจึงน้อยลง โดยโรงงานน้ำตาลก็ผลิตน้ำตาลบรรจุถุงส่งให้ปริมาณเท่าเดิม เพราะทำแล้วไม่คุ้มทุน แต่ที่ขอความร่วมมือให้ผลิตเพิ่มโรงงานทุกแห่งก็ยอมรับ เพื่อช่วยประชาชน” นายประเสริฐ กล่าว

ด้าน โรงงานน้ำตาล ระบุว่า ขณะนี้โรงงานที่ผลิต น้ำตาลทรายบรรจุถุง 1 กิโลกรัมต้องเผชิญภาวะขาดทุนเพราะค่าการบรรจุหีบห่อและต้นทุนการบรรจุที่แพงแต่ กระทรวงพาณิชย์กลับไม่ให้ปรับราคาขายเพิ่มจึงไม่มีโรงงานใดทำขาย จึงอยากแนะนำให้ห้างค้าปลีกควรจะมาซื้อน้ำตาลไปบรรจุขายเองถ้าเห็นว่าโรงงานได้กำไรจริง