วันที่ 6 มีนาคม เวลา 13.00 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปยังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ เพื่อร่วมเปิดงานเฉลิมฉลอง 100 ปี วันสตรีสากล และบรรยายพิเศษ หัวข้อ “ผู้หญิงทำงานกับคุณภาพชีวิติที่ยั่งยืน” ณ ห้องประชุมประกอบ หุตะสิงห์ ชั้น 3 อาคารอเนกประสงค์ 1 ซึ่งระหว่างที่นายกฯได้บรรยาพิเศษอยู่นั้นได้มีกลุ่มสตรีที่เป็นอดีตสหภาพแรงงานไทอัมพ์ ได้ลุกยกชูป้ายที่เขียนข้อความว่า อย่าดีแต่พูด ซึ่งนายกฯได้เห็นข้อความดังกล่าวและได้พูดผ่านไมค์ว่า ” ในวันนี้ผมมาพูดเรื่องเกี่ยวกับนโยบายสตรี หากจะมาว่าเรื่องการเมืองขอให้ไปฟังผมที่ในสภา ที่จะมีการอภิปรายในเร็วๆ ” นี้หลังจากนั้นกลุ่มสตรีดังกล่าวก็ยังคงที่จะยืนชูป้ายต่อ โดยได้เขียนข้อความตอบโต้ว่า เหรอ.. โดยจากนั้นนางสุนีย์ ไชยรส ที่ปรึกษากลุ่มบูรณาการแรงงานสตรี ได้เข้ามาพูดคุยและพยายามไกล่เกลี่ย แต่กลุ่มสตรีกลุ่มดังกล่าวไม่รับฟัง และพยายามที่จะชูป้ายต่อ และได้เขียนป้ายที่มีข้อความว่า มือใครเปื้อนเลือด ซึ่งในระหว่างนั้นนายกฯไม่ได้ให้ความสนใจแต่อย่างใด พร้อมทั้งลุกขึ้นพูดจนจบ และหลังจากนั้นนายกฯได้เดินทางกลับทันทีท่ามกลางดูแลรักษาความปลอดของเจ้าหน้าตำรวจติดตามอย่างเข้มงวด
ระหว่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ บรรยายพิเศษ หัวข้อ “ผู้หญิงทำงานกับคุณภาพชีวิติที่ยั่งยืน” นั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาว่า “มือเปื้อนเลือด” ระหว่างนายกฯ ขึ้นบรรยายพิเศษ นอกจากนี้ ยังมีอีกสองคนที่ชูป้าย “ดีแต่พูด” ระหว่างที่นายกฯกำลลังบรรยาย โดยคนที่ตะโกน คือ นางจิตตรา คชเดช ตัวแทนจากสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ นอกจากตะโกนยังได้วาดรูปมือขนาดใหญ่ใส่กระดาษ A4 แล้วเขียนข้อความในกระดาษว่า “มือใคร เปื้อนเลือด” แล้วชูขึ้นเหนือศีรษะ
ขณะที่นายกฯซึ่งก้าวขึ้นเวที กล่าวตอบโต้ทันทีว่า “วันนี้เป็นวันสตรี ถ้าต้องการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ให้รอฟังในสภา จะตอบเพื่อจะได้ทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด เพราะท่านควรจะรู้ความจริงว่าใครบ้างที่ต้องการทำให้เกิดการเสียชีวิตขึ้นในเหตุการณ์เมื่อปีที่แล้ว”
จากนั้นนางจิตตรา ก็เขียนข้อความว่า “เหรอ…” แล้วชูขึ้นให้นายกฯอ่าน พร้อมทั้งชูกระดาษที่พิมพ์ข้อความว่า“ดีแต่พูด”ตลอดเวลาที่นายกฯกล่าวบรรยาย จากนั้นยังมีการส่งกระดาษข้อความดีแต่พูดให้สตรีอีก 2 คนที่นั่งเกือบด้านหน้าเวที ช่วยกันชูข้อความด้วย ซึ่งตลอดเวลาที่นายกฯกล่าวบรรยายสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก และพยายามหลีกเลี่ยงที่จะมองมาที่ป้ายข้อความดังกล่าว
หลังเสร็จสิ้นภารกิจบรรยาย นายกฯเดินลงจากเวทีเพื่อจะไปชั้นล่าง ปรากฏว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนถามว่า “จักร 150 ตัวที่ นายไพฑูรย์ (นายไพฑูรย์ แก้วทอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน) เอาไป อยู่ไหน” และเมื่อนายกฯเดินมาให้สัมภาษณ์สื่อที่ชั้น1 กลุ่มนางจิตตรา พยายามจะเข้ามาหาอีก แต่ทีมรปภ.นายกฯ ได้ยืนกันไว้ เพื่อไม่ให้เข้ามาก่อความวุ่นวาย เมื่อนายกฯขึ้นรถไปแล้วกลุ่มดังกล่าวชูตีนตบเสียงดังเป็นการส่งท้าย
นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ได้บอกผู้ที่มาชูกป้ายถามว่า ให้รอฟังคำชี้แจงในสภาและจะได้รู้ว่าใครกันแน่ที่ทำให้คนตาย ให้รอฟังในสภา ตนและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงก็เตรียมที่จะเอาข้อเท็จจริงทั้งหมดมาชี้แจง
ทั้งนี้เรื่องที่เกิดขึ้นคงไม่มีปัญหากับการเลือกตั้งใหม่ เพราะเป็นเรื่องของการแสดงออก หรืออาจจะเป็นวิธีการของใครก็แล้วแต่ ตราบเท่าที่ไม่นำไปสู่ความรุนแรงก็ไม่เป็นปัญหา เพราะคิดว่าพี่น้องประชาชนจะได้ตัดสินใจเองว่าฝ่ายของตนมีแต่เดินหน้าในการที่จะแก้ไขปัญหาในการทำงาน ส่วนฝ่ายอื่นๆ ก็มีความต้องการให้ประเทศติดหล่มอยู่ในภาวะของความขัดแย้ง ก็ต้องเลือกเอา
เมื่อถามอีกว่า กับความเคลื่อนไหวของกลุ่มบางกลุ่มที่ใกล้ถึงวันเลือกตั้ง รวมถึงการลงหาเสียงจะเป็นอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นไปได้ แต่พี่น้องต้องคิดว่าถ้าคนที่มีจิตใจเป็นประชาธิปไตยจริงๆ เขาก็จะต้องเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถที่จะไปพบปะ พูดคุยกับประชาชนได้ เพราะฉะนั้นถ้ามีฝ่ายใดขัดขวางเท่ากับว่าเป็นฝ่ายที่กลัวความจริง กลัวฝ่ายอื่นเขาได้มีโอกาสนำข้อมูลข่าวสารไปให้กับประชาชน
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1600 ครั้ง