เจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ไฟไหม้สวนปาล์มและสวนยางพาราในพื้นที่ป่าพรุนิคมสหกรณ์บาเจาะได้แล้ว หลังลุกไหม้เป็นบริเวณกว้างหลายวันติดต่อกัน
เมื่อวันที่ 6 มี.ค.นายมาหามะพีสกรี วาแม รักษาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส กล่าวถึงสถานการณ์ไฟไหม้พื้นที่สวนปาล์มและสวนยางพาราในพื้นที่ป่าพรุนิคมสหกรณ์บาเจาะบ้านฮูแตทูวอ หมู่ 4 ต.โคกเคียน บ้านบือราเป๊ะ หมู่ 3 ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส และบ้านบากง หมู่ 6 ต.ลูโบ๊ะสาวอ อ.บาเจาะ ว่าหลังจากเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานได้เร่งระดมกำลัง พร้อมสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์เข้ามาช่วยดับไฟที่ลุกไหม้เป็นบริเวณกว้างในพื้นที่ป่าพรุนิคมสหกรณ์บาเจาะ เป็นเวลาหลายวันติดต่อกัน
ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว และขณะนี้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาสกำลังอยู่ระหว่างการประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อสรุปผลและเตรียมให้ความช่วยเหลือตามระเบียบว่าด้วยการทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินซึ่งมีกรอบวงเงินช่วยเหลือกรณีเสียหายสิ้นเชิง รัฐจะชดเชยให้ไร่ละ912 บาทซึ่งเบื้องต้นพบว่าพื้นที่สวนปาล์มได้รับความเสียหายจำนวน150ไร่ พื้นที่สวนยางพารา จำนวน 50 ไร่ โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จภายใน1สัปดาห์
ทั้งนี้ในส่วนของมาตรการการป้องกันและควบคุมไฟป่าในช่วงหน้าแล้งนั้น จังหวัดนราธิวาสได้มีการประชุมเพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินงานให้เป็นเอกภาพในทุกพื้นที่ทั้ง13อำเภอ และจะมีการควบคุมเป็นพิเศษในพื้นที่ป่าพรุนิคมสหกรณ์บาเจาะ และที่ศูนย์วิจัยและศึกษาธรรมชาติป่าพรุสิรินธร อ.สุไหงโก-ลกที่มักเกิดไฟไหม้ป่าเป็นประจำในช่วงหน้าแล้งจากการกระทำของกลุ่มบุคคลที่ไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าพรุด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์