กัดดาฟี่ เข้าตาจน สื่ออาหรับ ระบุ ต่อรองกับสภาเฉพาะการขอลงจากอำนาจโดยแลกกับความปลอดภัยของตัวเองและครอบครัว รวมถึงการไม่ถูกดำเนินคดีและไม่ถูกยึดทรัพย์ แต่ได้รับการปฏิเสธ
หนังสือพิมพ์ อัสชาร์ค อัล ออว์ซัท ที่มีสำนักงานอยู่ที่กรุงลอนดอน และหนังสือพิมพ์ อัล บายันที่มีสำนักงานอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมถึงสถานีโทรทัศน์อัล จาซีเราะห์ รายงานว่า พันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย กำลังมองหาหนทางทำข้อตกลงในการก้าวลงจากอำนาจ แต่ยังไม่มีรายงานยืนยันอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด โดยอัล จาซีเราะห์ ระบุว่า พันเอกกัดดาฟี ได้เสนอขอจัดการประชุมเจรจากับฝ่ายต่อต้านที่สภาผู้แทนราษฎร เพื่อกรุยทางให้เขาก้าวลงจากตำแหน่งด้วยหลักประกันที่แน่นอน
อัล จาซีเราะห์ ระบุว่า พันเอกกัดดาฟี ได้เสนอไปยังสภาเฉพาะกาล ที่ทำหน้าที่เป็นปากเป็นเสียงให้กับดินแดนตะวันออกที่อยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายต่อต้าน ขณะที่แหล่งข่าวในสภาเฉพาะกาลเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวของอัล จาซีเราะ ที่เมืองเบนกาซีว่า พันเอกกัดดาฟี ต้องการหลักประกันด้านความปลอดภัยของตัวเขาและครอบครัว รวมถึงขอไม่ให้มีการฟ้องร้องดำเนินคดีเขาด้วย แต่ทางสภาเฉพาะกาลได้ปฏิเสธ เนื่องจากมันจะกลายเป็นการให้เกียรติแก่พันเอกกัดดาฟี่ และสร้างความไม่พอใจให้กับคนที่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงของเขา
ด้านแหล่งข่าวในสภาเฉพาะกาลอีกคนหนึ่ง เปิดเผยต่อสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เขาได้ยินว่ามีการเสนอสูตรที่จะให้พันเอกกัดดาฟีส่งมอบอำนาจให้กับรัฐสภา และออกนอกประเทศ พร้อมกับเงินอีกก้อนหนึ่ง แต่เรื่องเงินได้กลายเป็นประเด็นสำคัญที่เป็นอุปสรรคต่อการทำข้อตกลง
สภาเฉพาะกาลยืนยันว่า จะไม่มีการเจรจากับพันเอกกัดดาฟี และการเจรจาใด ๆ จะตั้งอยู่บนพื้นฐานที่เขาต้องลาออกเท่านั้น หนังสือพิมพ์ อัสชาร์ค อัล ออว์ซัท ระบุว่า พันเอกกัดดาฟีได้ส่งตัวแทนการเจรจาไปยื่นข้อเสนอต่อฝ่ายต่อต้านที่เบนกาซีว่า เขาจะยอมลงจากอำนาจถ้ารับประกันความปลอดภัยต่อตัวเขาและครอบครัว รวมถึงทรัพย์สมบัติของเขาด้วย ส่วนหนังสือพิมพ์ อัล บายัน รายงานอ้างแหล่งข่าวที่เป็นคนวงในของพันเอกกัดดาฟีว่า เขากำลังเริ่มมองหาสถานที่ปลอดภัยนอกประเทศแล้ว
แหล่งข่าวในแวดวงค้าน้ำมัน ระบุว่า ได้รับข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการมาจากเอ็กซอน โมบิล บริษัทพลังงานรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ที่มีผลประกอบการแข็งแกร่งที่สุดในโลกว่า เอ็กซอนโมบิล ได้ระงับการค้าน้ำมันดิบกับลิเบีย เพื่อน้อมรับมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ และยังทราบด้วยว่า บริษัทน้ำมัน 2 แห่งของสหรัฐ คือ โคโนโค ฟิลลิปส์ และมาราธอน ที่เข้าไปมีหุ้นอยู่ในโครงการผลิตน้ำมันของลิเบีย ได้ระงับหรือลดระดับการทำข้อตกลงกับลิเบียลง
แหล่งข่าวยังระบุเมื่อวันจันทร์ด้วยว่า มอร์แกน สแตนลีย์ บริษัทให้บริการทางการเงินระดับโลก ได้ระงับสัญญาทุกชนิดที่ทำไว้กับลิเบียเช่นกัน ด้านแอลจีเรีย หนึ่งในสมาชิกโอเปค และเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดอันดับ 8 ของโลก ได้แสดงความวิตกต่อสถานการณ์ที่รบกวนการส่งออกน้ำมันของลิเบีย แต่ไม่คิดว่าจะทำให้น้ำมันดิบขาดแคลน
นายยูเซฟ ยูสฟี รัฐมนตรีน้ำมันและพลังงานของแอลจีเรีย ระบุว่า ราคาน้ำมันในปัจจุบัน จะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น และจะไม่ทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงแต่อย่างใด ซึ่งเขาคิดว่าเป็นผลกระทบด้านจิตวิทยามากกว่า และไม่คิดว่าจะเกิดการขาดแคลนน้ำมันดิบในตลาดโลกขึ้นมาจริง ๆ
ส่วนสถานการณ์ในลิเบีย เครื่องบินรบของลิเบียได้โจมตีทางอากาศระลอกใหม่รอบเมืองราส ลานุฟ ที่ตั้งของโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ หลังจากใช้ทั้งปืนใหญ่ และเฮลิคอปเตอร์ติดปืนกล ยิงถล่มกองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาล เพื่อหวังชิงพื้นที่คืน ขณะที่ฝ่ายต่อต้านก็เสริมอาวุธหนักมากขึ้นทั้งจรวดทำลายรถถังและกระสุนปืนเพื่อปกป้องเมืองยุทธศาสตร์สำคัญแห่งนี้ที่จะปูทางสู่เคลื่อนพลรุกคืบเข้าสู่กรุงทริโปลี ฐานที่มั่นของพันเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟี นอกจากนี้กองกำลังที่ภักดีต่อกัดดาฟี ยังสู้รบอย่างหนักกับฝ่ายต่อต้านในเมืองซาวิยา และมิสราต้า
การโจมตีทางอากาศของเครื่องบินรบลิเบียในหลายวันนี้ ทำให้มีเสียงเรียกร้องมากขึ้นจากฝ่ายต่อต้านที่ต้องการให้นานาชาติประกาศเขตห้ามบินในลิเบีย แต่พวกเขายืนยันคัดค้านการส่งทหารราบจากชาติตะวันตกเข้าไปในดินแดนลิเบีย นอกจากนี้ชาติอาหรับบางชาติก็สนับสนุนแนวทางการกำหนดเขตห้ามบินเพื่อคุ้มครองปกป้องพลเรือนชาวลิเบีย
ล่าสุด อังกฤษและฝรั่งเศส ได้เริ่มร่างมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่มีเนื้อหาสนับสนุนให้มีการประกาศเขตห้ามบินในลิเบีย แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะรัสเซียที่มีอำนาจยับยั้งหรือวีโต้ ประกาศไว้แล้วว่าไม่เห็นด้วยกับวิธีนี้
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1063 ครั้ง