วันที่ 15มี.ค. ได้เกิดเหตุคนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้าค่ายกรมทหารราบที่ 1 พัน 1 รอ.ที่อยู่ตรงข้ามสถานีโทรทัศน์ NBT ถนนวิภาวดีรังสิต ทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ถูกนำตัวส่งรพ.พระมงกุฎ แล้ว โดยเหตุเกิดเวลา 13.30 น. ขณะที่พลทหารที่ยืนรักษาการณ์ได้รับบาดเจ็บชื่อพลทหารปรีชา ปานสมุทร ได้รับบาดเจ็บท้องด้านบน และพลทหารหนุ่ม สีเพียร บาดเจ็บต้นแขนด้านซ้าย แพทย์ทำการรักษาใกล้ชิดขณะนี้อาการปลอดภัย และกำลังรอผลเอ็กเรย์ว่าได้รับบาดเจ็บภายในหรือไม่ ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เห็นคนยิงอาวุธคาดว่าเป็นปืนเอ็ม 79 ยิงจากถนนวิภาวดีฝั่งตรงข้าม ร.1 พัน 1 รอ. เข้ามาตกบริเวณด้านหน้าค่ายทหารทำให้พลทหาร 2 นาย ที่ยืนรักษาการณ์อยู่ป้อมทหารหน้าค่าย ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บ
พ.อ.ณัฐวัฒน์ อัคนิบุตร ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) เปิดเผยว่า ช่วงเวลา 13.30 น. เกิดเสียงคล้ายระเบิดได้ยิงเข้ามาภายใน ร.1 รอ. จำนวน 3 นัด โดยลูกแรกตกที่หน้ากองบังคับการ ร.1 รอ. ลูกที่สองตกบริเวณสวนสุขภาพภายใน ร.1 รอ. และลูกที่สามตกหน้ากองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 พัน 1 รอ.) ส่งผลให้มีทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คือ จ.ส.อ.ปรีชา ปานสมุทร ถูกยิงบาดเจ็บที่ท้อง และพลทหารหนุ่ม ศรีเฟือง ได้รับบาดเจ็บบริเวณแขน จึงส่งผู้บาดเจ็บไปโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าฯ ซึ่งทั้ง 3 ลูกยิงในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน และน่าจะเป็นลักษณะของเครื่องยิง ซึ่งเบื้องต้นคาดว่า ผู้ก่อเหตุยิงจากบนรถยนต์ที่อยู่บริเวณถนนวิภาวดีฯ ขาเข้า ซึ่งขณะนี้ได้ประสานกับตำรวจ เพื่อให้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พล.ต.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล. 1 รอ.) กล่าวว่า ยืนยันว่า มีการยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 เข้าไปในร. 1 รอ.จำนวน 4 ลูกจริงจึงสั่งให้ผบ.ร. 1 พัน 1 รอ. เพิ่มมาตรการคุมเข้ม โดยให้มีการปรับกำลังที่จะปฏิบัติภารกิจในการรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งหลังจากที่ทหารออกมาปฏิบัติหน้าที่ภายนอก ทำให้เกิดช่องว่างภายในหน่วยทหาร แม้ว่าจะป้องกันเป็นอย่างดีก็ตาม ทำให้จำเป็นต้องมีการปรับกำลังใหม่ ซึ่งเบื้องต้นรายงานให้ผู้บัญชาการทหารบกทราบแล้ว ซึ่งท่านได้ให้ดำเนินการตรวจสอบถึงเรื่องที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามขณะนี้มีคนจ้องสร้างสถานการณ์ ทำให้การป้องกันเป็นไปอย่างลำบาก ดังนั้นทางที่ดีที่สุดต้องมีการปรับกำลังเพื่อนำไปดูแลที่ตั้ง ส่วนกระแสข่าวว่า มีการยิงเอ็ม 79 เข้าไปในพล.1 รอ.นั้นตนยืนยันว่าไม่มี
รายงานข่าวแจ้งว่า ลูกระเบิดที่ใช้ในการก่อเหตุยิงใส่ร.1 รอ. เป็นลูกระเบิดเอ็ม 79 โดยผู้ก่อเหตุได้ใช้รถปิกอัพวิ่งเข้ามาจากฝั่งถนนวิภาวดีขาเข้า ก่อนที่จะชะลอรถ และยิงลูกระเบิดเป็นช่วง ๆ ก่อนที่จะขับรถหลบหนีไป โดยรถได้วิ่งกลับไปที่แยกสุทธิสาร ก่อนที่จะเลี้ยวหลบหนีเข้าไปในซอยข้างสถานีวิทยุโทรทัศน์ช่อง 11 ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเป็นทหาร 2 นาย คือ จ.ส.อ.ปรีชา ปานสมุทร ผบ.กองรักษาการณ์ ถูกยิงบาดเจ็บที่ท้อง และพลทหารหนุ่ม ศรีเฟื้อง ทหารเวรยาม ได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนด้านซ้าย
“เผย”อาการ2จนท.ทหาร”ปลอดภัย”
พ.อ.พีระพงษ์ ปกป้อง ผอ.กอบ.โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เปิดเผยอาการของทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์คนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้าไปในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ถนนวิภาวดีรังสิต ตรงข้ามสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (สทท.)ว่า ผู้บาดเจ็บคือ จ.ส.อ.ปรีชา ปานสมุทร อยู่ในระหว่างรักษาตัวได้รับบาดเจ็บถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่ท้อง ลักษณะบาดแผลประมาณครึ่งเซนติเมตร ส่วน พล.ทหารหนุ่ม สีเพียง บาดเจ็บที่แขนซ้าย ซึ่งผู้บาดเจ็บทั้ง 2 อาการไม่รุนแรง ขณะนี้ยังมีสัญญาณชีพจรและความดันที่ดีอยู่
ผบก.น.2 รุดตรวจจุดเกิดเหตุดูภาพกล้องวงจรปิด
เมื่อเวลา 13.00 น.เศษพล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.2 ได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุเมื่อเวลา 14.00 น. โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดกรมสรรพวุธ (หรือหน่วยอีโอดี) มาตรวจจุดที่เกิดเหตุ ขณะที่ พล.ต.ต.สาโรจน์ กล่าวปฏิเสธว่า ยังไม่ทราบสาเหตุ แต่ทั้งนี้ จะติดตามดูภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิดอีกครั้ง
นายกฯทราบเหตุยิงเอ็ม79สั่งจนท.ระวังความปลอดภัย
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุการณ์ยิงระเบิดเอ็ม- 79 ไปยังกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร. 1 พัน 1 รอ.) ถนนวิภาวดีรังสิต ทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบเรื่องนี้แล้ว และได้กำชับเจ้าหน้าที่ในเรื่องความปลอดภัย อีกทั้งสั่งให้เร่งดำเนินการสอบสวน เพราะน่าจะมีกล้องและมีพยานอยู่ แต่ตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุปว่าเป็นฝีมือของใคร เพราะกำลังสอบสวน ซึ่งกำลังดูกลุ่มที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้หรือไม่ ซึ่งตอนนี้มีอยู่หลายกลุ่ม แต่ยังไม่ยืนยันว่าเป็นฝีมือของกลุ่มใด เพราะยังไม่มีหลักฐาน แต่ยืนยันว่าต้องพยายามหาตัวคนร้ายโดยเร็ว เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นไปตามที่เคยมีการแจ้งตือนไว้แล้ว
“อภิสิทธิ์”ปรับแผนรปภ. เน้นใช้เฮลิคอปเตอร์เป็นหลัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่นายอภิสิทธิ์ พร้อมด้วยนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม นายปณิธาน เเละนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์เเบล็กฮอว์กออกจาก ร.11รอ.เมื่อเวลา10.15น.โดยอ้างว่าจะไปตรวจการจราจรนั้น ปรากฏว่านายอภิสิทธิ์เเละคณะได้ตรวจการจราจรจริงโดยใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง จากนั้นนายอภิสิทธิ์ได้มุ่งหน้าไปยังกรมการบินทหารบก(ขส.ทบ.)ที่ตั้งอยู่ในกองทัพอากาศ โดยมีการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดในพื้นที่ดังกล่าว
หลังเกิดเหตุ นายอภิสิทธิ์ ได้ปรับเเผนรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด โดยการเดินทางจะใช้เฮลิคอปเตอร์เป็นหลัก
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 3071 ครั้ง