รูปภาพ : นายหลี่ อี้หนิง นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของจีนระหว่างกล่าวในที่ประชุมสภาที่ปรึกษาประชาชนประจำปีเมื่อวันอังคารที่ 8 มีนาคม 2011 โดยเขาแนะนำให้จีนกระจายทุนสำรองเพื่อลดความเสี่ยงจากค่าเงินดอลลาร์ที่ยังคงอ่อนค่าอยู่
ที่มา : Xinhua
จีนมีความจำเป็นต้องกระจายทุนสำรองเงินตราต่างประเทศมูลค่ามหาศาลเพื่อป้องกันการเสื่อมค่าลงอย่างต่อเนื่องท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน นักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำกล่าววานี้ (อังคารที่ 8 มีนาคม 2011)
“กลุ่มการลงทุนของเงินตราต่างประเทศของจีนควรมีการปรับโดยอิงกับเงื่อนไขที่เปลี่ยนไป” นายหลี่ อี้หนิง (Li Yining) ซึ่งดำรงตำแหน่งสมาชิกของคณะกรรมการแห่งชาติสภาผู้แทนประชาชนด้วยกล่าวในที่ประชุมสภาฯเมื่อวันอังคาร
“จีนควรค่อยๆเพิ่มปริมาณทองคำในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ” นายหลี่กล่าว
ล่าสุดประเทศจีนมีทุนสำรองมูลค่ากว่า 2.85 ล้านล้านดอลลาร์ ณ สิ้นปี 2010 จากภาคการค้าต่างประเทศที่แข็งแกร่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา หน่วยงานที่ทำหน้าที่ดูแลทุนสำรองของจีนไม่ได้มีการเปิดเผยโครงสร้างของการถือครองทุนสำรอง แต่เป็นที่เชื่อกันในวงกว้างว่า เงินดอลลาร์สหรัฐฯมีสัดส่วนมหาศาลในทุนสำรองของจีน
หลังจากการดำเนินนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE (Quantitative Easing) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ค่าเงินดอลลาร์ก็ยังคงร่วงอย่างหนัก ก่อให้เกิดความกลัวอีกครั้งว่ามูลค่าของทุนสำรองจีน (ในรูปดอลลาร์) อาจร่วงลงไปอีก
นายหลี่ยังให้คำแนะนำเพิ่มเติมอีกว่า จีนควรใช้เงินตราต่างประเทศที่มีไปในการซื้อที่ดิน เหมือง ป่า หรือแม้แต่หุ้นพื้นฐานดีในต่างประเทศ (หรือหุ้นบลูชิพ) ซึ่งล้วนเป็นนโยบายที่เขากล่าวว่าจะช่วยสร้างผลตอบแทนมากกว่าการถือครองพันธบัตรต่างประเทศ
นอกจากนั้นแล้วทุนสำรองที่มีมหาศาลยังสามารถนำมาปล่อยกู้ให้กับภาคธุรกิจในประเทศเพื่อไปลงทุนในต่างประเทศ และเพื่อนำไปซื้ออุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและบรรดาวัตถุดิบและเชื้อเพลิงที่จีนต้องการอย่างมากด้วย นายหลี่เน้นย้ำ
เนื่องจากทุนสำรองของจีนโดยมากถือครองโดยรัฐบาล นายหลี่กล่าวอีกว่า มันจะเป็นการปลอดภัยหากมีการอนุญาตให้ผู้มีถิ่นฐานในประเทศจีนถือทุนสำรองเพิ่มเติมเพื่อกระจายความเสี่ยง
ที่มา สำนักข่าวซินหัว
แปลและเรียบเรียงโดย เบ๊นซ์ สุดตา ฝ่ายข่าวเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศ Mtoday