วันที่ 17 มีนาคม การพิจารณาญัติอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ได้เข้มข้นขึ้นในช่วงเย็น นางอรุณี ชำนาญยา สส.พะเยา พรรคเพื่อไทย เป็นผู้แรกเกิ่นว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะมาใช้คำว่าผู้ก่อการร้ายกับคนเสื้อแดงไม่ได้ เพราะเขามาชุมนุมทางการเมืองเพื่อเรียกร้องให้ยุบสภา และขนาดภาคใต้ก็ยังเรียกว่า ผู้ก่อความไม่สงบ แต่คำนี้มาจากการยกระดับความรุนแรงของนายอภิสิทธิ์ วันนี้นายอภิสิทธิ์นั่งอยู่บนเขาควาย หนีจากคำว่ากลัวพข้อหาสั่งฆ่าประชาชน อีกข้อหาคือ ท่านยัดเยียดผู้ก่อการร้ายให้กับแกนนำ นายอภิสิทธิ์ไม่ได้ตั้งความปรองดอง แต่เป็นผู้สร้างความขัดแย้งในสังคม นายกฯใช้ความอดทนน้อยสำหรับการสลายการชุมนุม การให้ประกันแกนนำนปช.ไม่ได้เกิดจากรัฐบาลแต่เกิดจากคอป.และ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ อภิสิทธิ์เป็นต้นเหตุสร้างความแตกแยกสังคม และเป็นผู้ก่อการร้ายตัวจริง
นายอภิสิทธิ์ ได้ลุกขึ้นชี้แจงทันทีว่า ตนได้สร้างความปรองดอง แต่คนกลุ่มหนึ่งบอกชัดเจนว่า ไม่ปรองดองด้วย กรณีการประกันตัวของคนเสื้อแดงกลุ่มแรกก็เป็นผลจากการที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ไปเยี่ยมคนเสื้อแดง ซึ่งก็ไม่รู้ว่า ทำไมถึงไม่มีใครช่วยอะไรเลย กลุ่มนี้จึงได้รับการประกันตัวออกมา
ปัญหาที่พูดมาจาก ความคลาดเคลื่อนที่เกิดจากการลำดับหลายอย่าง การชุมนุมของคนเสื้อแดงก็เปลี่ยนแปลงตลอดโดยในปี 2552 ไม่ได้เรียกร้องยุบสภา มาเรียกร้องในปี 2553 หลัง ศาลตัดสินเรื่องยึดทรัพย์ และช่วงมานี้ก็ไม่สนใจเรื่องยุบสภา ตนไม่มองผู้ชุมนุมเป็นผู้ก่อการร้าย และที่จริงศัพท์การก่อการร้ายเริ่มต้นจาก การที่กลุ่มพวกท่านร้องว่า กลุ่มพันธมิตรเป็นกลุ่มก่อการร้ายก่อน
เหตุการณ์ทั้งหมด ท่านไม่ได้พูดเรื่อง เอ็ม79ยิง อาร์จพีจี เหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นแล้วมีการจับกุม ผมเป็นนายกฯคนแรกและอาจเป็นคนเดียวที่เมื่อมีชุมนุมแล้ว ผมไปนั่งเจรจา และทุกครั้งที่เจรจาแล้ว แกนนำขอเลิกเพราะมีโทรศัพท์ทางไกลมา การยกระดับความจริงเกิดจากการปะทะที่ลาดหลุมแก้วที่ไทยคมก่อนจะมาที่ราชประสงค์ ท่านพูดท่านไม่ซื่อสัตย์จากข้อเท็จจริง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ชี้แจงต่อทันทีว่า ไม่มีมือที่มองไม่เห็นมาจัดตั้งรัฐบาล แต่รัฐบาลนี้จัดตั้งโดยมือในสภา และถ้า พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ชนะเป็นนายกฯ ท่านก็ไม่ก่อเหตุวุ่นวายจนถึงวันนี้ พวกผมถูกพวกท่านล้อมหน้าสภา เอาก้อนหิน เอาน้ำกรดลาดใส่ ซึ่งพวกท่านเตรียมการวางแผนมาแล้ว หลังจากที่นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ พวกท่านก็เริ่มวางแผนสร้างความรุนแรงในบ้านเมือง เพื่อล้มรัฐบาลทำกันแบ่งงานเป็นระบบ เมื่อนายอภิสิทธิ์แถลงนโยบายเสร็จ 2เดือนจากนั้นก็เข้าแผนท่านแล้ว โดยท่านได้ก่อการจลาจลวุ่นวายในกทม. ท่านพังการประชุมผู้นำอาเซียน เผาบ้านเผาเมืองกรุงเทพ ช่วงนั้นเป็น ฝันร้ายของคนกรุง ท่านจับคนกรุงเป็นตัวประกัน ท่านยิงคนนางเลิ้งตาย 2 คนบาดเจ็บ 5 คนแต่รัฐบาลอดทน คลี่คลายสถานการณ์ โดยไม่มีคนตาย ยกเว้นที่ยนางเลิ้ง แต่มันไม่หนำใจท่านคิดใหม่กลับมาอาละวาดโดยในปี 2553 เอาผู้ก่อการร้าย เอาคนชุดดำ มายิงอาร์พีจี เอ็ม 79 เอ็ม 16 พวกที่ยกระดับความรุนแรงคือ กลุ่มของท่าน วันนี้ผมจะชี้ว่า ใครบ้างที่เป็นผู้ก่อการร้ายในสภานี้
วิเชียรชี้ลูกน้องเสธ.กำลังคิดบัญชีรัฐบาล
นายวิเชียร ขาวขำ สส.อุดรธานี กล่าวว่า ในระหว่างการชุมนุมไม่มีรัฐบาลชุดไหนสั่งปิดล้อมประชาชชน กำหนดพื้นใช้กระสุนจริง ซึ่งทุกอย่างมาจากคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ถ้าเป็นผู้นำประเทศอื่นลาออกไปแล้วและนายกฯอภิสิทธิ์เคยบอกว่าผู้นำประเทศต้องมีความรับผิดชอบสูงกว่าคนธรรมดา เหตุการณ์อนุสรณ์ถนนวิภาวดีรังสิตมีการใช้กำลังกับประชาชนที่เตรียมไปให้กำลังใจคนเสื้อแดงและมีการอ้างว่าจับอาวุธจากคนเสื้อแดง
นายวิเชียร กล่าวว่า สำหรับการลอบยิงพล.ต.ขัตติยะ สัวสดิผล อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก มาจากฝีมือของทหารที่ซุ่มอยู่บนหลังตึกโรงแรมดุสิตธานีมานานแล้ว โดยทหารคนดังกล่าวมียศสิบเอก อยู่หน่วยฉก.90จ.ลพบุรี มีชื่อนำหน้าอักษรย่อ พ. นามสกุล ป. ยิงเอ็ม 16 เมื่อมีการยิงเสธ.แดงพวกตนที่อยู่บริเวณหลังอนุสาวรีย์บริเวณสวนลุมพีนีพยายามจะเข้าไปช่วยแต่ปรากฏว่ามีการยิงเอ็ม 16 เข้ามาเพื่อกีดกันไม่ให้เข้าไป
“พล.ต.ท.ท่านหนึ่งเป็นคู่กรณีเสธ.แดงไปรพ.หัวเฉียว เข้าไปสร้างความวุ่นวาย โชคดีดีที่ผู้การแต้มพล.ต.วิฃัชัย สังข์ประไพไปที่รพ.ด้วย จึงทำให้ทหารกลุ่มหนึ่งที่จะกรูเข้ามาแย่งศพเสธ.แดงทำไม่ได้ การเผาบ้านเผาเมืองใส่ร้ายป้ายสีสร้างสถานการณ์จากรัฐบาล รัฐบาลจะพูดอย่างไรก็ไม่มีใครเชื่อ นายสุเทพทำไม ทำเพื่อสร้างสถานการณ์เพื่อเป็นเหตุสลายการชุมนุมเพื่ออยู่ในอำนาจต่อไปกีดกันพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร การตัดสินใจสลายการชุมนุมของนายกฯคิดหรือไม่ว่าจะมีการสูญเสียคิดหรือไม่ว่าสร้างความแค้นให้กับประชาชนสืบต่อไป ลูกน้องเสธ.แดงกำลังรอคิดบัญชีคุณอยู่ ชีวิตคุณอภิสิทธิ์จะไม่สามารถใช้ชีวิตเหมือนคนปกติได้ วันนี้คุณมีรปภ.เต็มไปหมดเพราะอยู่ในอำนาจถ้าวันหนึ่งคุณไม่ได้เป็นนายกฯจะทำอย่างไร” นายวิเชียร กล่าว
ซึ่งขณะที่น.ส.อรุณี ชำนาญยา ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย อภิปรายนั้น ฝ่านค้านได้นำหุ่นภาพของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง พร้อมเทียนสีแดงมาประกอบการอภิปรายก่อนได้รับอนุญาต ทำให้นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ต้องลุกขึ้นประท้วง ว่ากรรมการไม่อนุญาตให้นำมาประกอบอภิปรายและต้องนำออกไป สุดท้ายนายสามารถ แก้วมีชัย ประธานการประชุมได้สั่งให้เก็บอุปกรณ์เหล่านี้ออกไป
วรวัจน์อ้างหลักฐานทหารไม่ช่วยดับเพลิง
จากนั้น เป็นการอภิปรายของนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ที่ได้อภิปรายเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดง วันที่ 19 พฤษภาคม 2553 โดยหยิบยกคลิปการประชุมสภาที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ยืนยันไม่มีทหารบนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส และยังบอกว่า ภาพถ่ายทหารยืนบนรางรถไฟฟ้าถ่ายเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ตอนคุ้มกันประชาชนออกจากวัดปทุมวนาราม เป็นคนละวันกันนั้น ข้อเท็จจริงวันนั้นยังสอบสวนอยู่ วันนั้น มีคนตาย 7 ศพ 1 ศพอยู่นอกวัด แต่อีก 6 ศพ อยู่ในวัด นายสุเทพบิดเบือนที่บอกไม่มีทหารอยู่บนรางรถไฟฟ้า แต่ในบันทึกคำให้การของดีเอสไอ ที่ จ.ส.อ สมยศ อ้นจำปา ให้การว่า เวลา 16.00 น.ได้รับคำสั่งให้ถอนตัวมาที่สถานีรถไฟฟ้าสยาม เพื่อปรับแผน จากนั้น 17.30 น.ได้รับคำสั่งให้คุ้มครองกองกำลัง ร.31 พัน.2 รอ. กระชับพื้นที่ไปยังสถานีรถไฟฟ้าสยาม โดยเดินบนรางรถไฟฟ้า ฝั่งเหนือวัดปทุมฯ ขณะที่ ส.อ.วิฑูรย์ อินทำ ให้การว่า เดินอยู่บนรางรถไฟฟ้า มุ่งหน้าแยกราชประสงค์
นายวรวัจน์นำคลิปที่สองมาเปิด เป็นภาพบริเวณแยกราชประสงค์ ที่ยืนยันว่า ไม่มีผู้ก่อการร้าย ไม่มีการยิงกันเกิดขึ้น ขณะที่รัฐปล่อยปละละเลยให้เผาเซ็นทรัลเวิลด์ ไม่มีการนำรถน้ำเข้าไปดับไฟ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ยังปล่อยให้เกิดเพลิงไหม้
ส่วนคลิปที่ 3 เป็นภาพการประชุมสภาที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี บอกว่ากรณีเซ็นทรัลเวิลด์มีประกันก่อการร้าย จะพิสูจน์ว่าใครเป็นผู้เผา ถ้าจงใจเผาก็เป็นการก่อการร้ายอยู่ดี โดยนายวรวัจน์กล่าวว่า ถ้าวันนั้นนายอภิสิทธิ์ไม่ได้เป็นนายกฯ ไฟไม่ไหม้กรุงเทพฯ แน่นอน ตนมีหลักฐานแผนผังการดับเพลิง ใครอยู่จุดไหน แต่เข้าไปดับเพลิงไม่ได้ เพราะทหารสั่งไม่ให้พนักงานดับเพลิงเข้าไป ทั้งที่ทหารมีเป็นพันคน แต่ผู้ก่อการร้ายมีไม่เกิน 20 คนเท่านั้น รัฐบาลนี้ใจดำอำมหิต เลวร้ายที่ไม่ให้พนักงานดับเพลิงเข้าไปดับไฟ วันนั้นมีคนในเหตุการณ์ 300 กว่าคนที่ชี้ได้ว่าเป็นฝีมือใคร ทั้งนี้ พนักงานเซ็นทรัลเวิลด์บอกว่า ผู้บุกรุกที่แต่งกายชุดทหารได้เตรียมขว้างระเบิดเข้าไปข้างใน
นายวรวัจน์โชว์ภาพชายชุดดำใส่รองเท้าบู๊ท โดยระบุว่า ชายดังกล่าวเป็นผู้ลงมือเผา ไม่ใช่กลุ่มผู้ชุมนุม และทหารยังปล่อยให้เซ็นทรัลเวิลด์ถูกเผาโดยไม่เข้าไปช่วยดับไฟ และยังกีดกันไม่ให้พนักงานดับเพลิงเข้าไปภายในด้วย และยืนยันว่า ถ้าวันนั้นพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลไฟไม่ไหม้กรุงเทพฯ แน่นอน
วิชาญอ้างมีชุดดำถือปืนเข้าสภา
ต่อมาเวลา 20.45 น. นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย แจ้งเรื่องต่อประธานการประชุมว่า มีชายชุดดำ 3 คน พกอาวุธปืนอยู่ในห้องโสต ล็อกประตูไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่สภาเปิดประตูเข้าไป ขอให้ประธานสั่งตรวจสอบด้วย ทำให้นายสามารถ แก้วมีชัย ประธานขณะนั้น สั่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะกรรมการตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่ใช้ในการอภิปราย ชี้แจงว่า ชายทั้ง 3 คน เป็นเจ้าหน้าที่ของนายสุเทพ ที่ได้รับอนุญาตแล้ว เข้าไปตรวจคลิปที่จะใช้ในการอภิปราย
ขณะที่ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภา ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบพบว่าชายทั้ง 3 คน เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคลิปที่จะใช้ในการอภิปรายและไม่ได้มีการพกปืนตามที่นายวิชาญกล่าวอ้างแต่อย่างใด
ชี้วรวัจน์มั่วข้อมูล
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่่ายความมั่นคงฯ ชี้แจงว่า เวลาประมาณ14.00 น. เจ้าหน้าที่เซ็นทรัล ตรวจพบคน 20 คนทุบกระจกเข้าไปโซนอีของห้างสรรพสินค้า ฝั่งตรงข้าม รพ.ตำรวจ ซึ่งกลุ่มนี้เป็นผู้จุดเพลิงไหม้ทางเข้าโซนอีแต่ระบบสปริงเกอร์ควบคุมไว้ได้ ภาพเหมือนกันเลย สถานการณ์เดียวกันเลย แต่นายวรวัจน์แปลไปอีกอย่าง ทั้งที่ มีการพยายามวางเพลิงมาสองรอบไม่สำเร็จ จนรอบสามส่งคนเข้ามาใหม่ ทุบกระจกเข้ามา แต่พนักงานห้างมีคนมากว่ากลุ่มที่บุกเข้ามาเลยต้องถอยออกไป ต่อมาเข้ามาอีก ขว้างระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่หนีไป และไปโทรขอความช่วยเหลือจากตำรวจและนำคนกลุ่ม417 คน นี้ออกไปยังสนามศุภชลาศัย
“ดังนั้นที่ระบุว่าทหารขว้างระเบิดไม่ใช่ แต่คนบุกเข้าไปเป็นคนขว้างระเบิด เจ้าหน้าที่บันทึกเทปสัมภาษณ์คนบาดเจ็บทุกคน ก่อนหน้านี้ ที่มีการระบุว่าถูกยิงทั้งหมดก็ไม่ใช่ โกหกทั้งสิ้น เพราะคนที่บาดเจ็บทั้งหมดถูกระเบิด และ หลังจากที่มีการเผาเซ็นทรัลได้ ก็ไล่พนักงานออกไปหมด ใครเข้าไปดับเพลิงก็ถูกยิง เราต้องพยายามอยู่นานกว่าจะคุ้มกันเจ้าหน้าที่ไปดับเพลิงได้ การที่ระบุว่าละเลยไม่ดูแลปล่อยให้ไฟไหม้” นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวว่า การที่นายวรวัจน์ระบุว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดกั้นไม่ให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็ไม่เป็นความจริง เพราะในภาพที่นำมาแสดงเป็นภาพเจ้าหน้าที่กำลังดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยหน้าวังสระปทุม โดยมี พ.ต.อ.ฤชากร จรเจวุฒิ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 จัด ซึ่งตนได้ประสานขอกำลัง 150 นายมาคุ้มกันรถดับพลิง 12 คันไปด้านหลังพารากอน เพื่ออำนวยการดูแลดับเพลิงจน พล.ต.ต.อนุทัย เล็กบำรุง ผบก.น5 ในขณะนั้น มารับหน้าที่ต่อจนถึงเช้า
“ผมมีหลักฐานหมดเป็นบันทึกเทป ว่าเจ้าหน้าที่สั่งการอะไร ซึ่งฟังแล้วจะเข้าใจว่าคนเผาคือคนพวกนี้ (พร้อมชี้มือไปยังฝ่ายค้าน) และจะเห็นว่าความพยายามเผา ไม่ใช่เฉพาะวันที่ 19 มี.ค.แต่มีการเผามาเป็นระยะ ตั้งแต่ วันที่ 17-18 มี.ค. “
สุเทพ ชี้เผาตั้งแต่เช้ามืดยันค่ำ
ทั้งนี้มีการเผาตั้งแต่ ช่วงเช้าวันที่ 19 มี.ค. ก็มีการเผาที่ทำการ ป.ป.ส.ดินแดง ตั้งแต่ 7 โมงเช้า ช่วง 8.30 เผากองยางตรงโรงพยาบาลจุฬา 10.30 เผาโลตัสเอ็กเพรส ซอยงามดูพลี 14.30 มีการเผาสยาม 14.53 เผาอาคารมาลีนนท์ และไปเผาตลาดหลักทรัพย์ เลา 15.20 นาที จากนั้น 15.40 น. จึงเผาเซ็นทรัลเวิลด์
นายสุเทพ ได้นำภาพ คนเผาเซ็นทรัลเวิลด์ซึ่งบางส่วนเป็นภาพสื่อมวลชนเคยนำเสนอ เป็นภาพผู้ชุมนุมสวมสักษณ์ข้อมือ และ บัตรนปช. ใส่เสื้อยืด กางเกงขาสั้น ถือยางล้อรถ โยนเข้าไปในกองไฟอาคารเซ็นทรัลเวิลด์ปรากฎอยู่ พร้อมระบุว่า การเผาสถานที่ต่างๆ ไม่ใช่เริ่มที่เซ็นทรัลเวิลด์อย่างเดียว เริ่มตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. ตามที่ต่างๆ เช่น สถานีรถไฟใต้ดิน โลตัส ธนาคารกสิกรไทย อาคารมาลีนนท์ สยามสแควร์ ตลาดหลักทรัพย์ กระทั่งมาเผาที่เซ็นทรัลเวิลด์ช่วง 15.40 น. ดังนั้น นายอภิสิทธิ์ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะเผาบ้านเผาเมืองเป็นบ้าเป็นหลัง นอกจากพวกคิดกบฎที่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย
นายสุเทพ ยังนำเสนอคลิปภาพเจ้าหน้าที่ผ้าพันคอเขียวคุ้มกันรถดับเพลิงไปดับเพลิง พร้อมชี้แจงว่า สุดท้ายไม่สามารถเข้าไปได้เพราะติดเครื่องกีดกันของพรรคพวกนายวรวัจน์ กว่าจะเข้าได้ต้องเข้าไปหลังพารากอน เรื่องเหล่านี้ขอยืนยันยันว่า ประการที่หนึ่งทหารไม่ได้เเผาเซ็นทรัลเวิล เรื่องนี้มีพนักงานพร้อมเป็นพยาน รวมทั้งผู้บริหารซึ่งได้ติดต่อตั้งแต่ไฟไหม เป็นพยานได้ การอ้างของนายวรวัจน์โกหกทั้งสิ้น
ประการสอง พวกตนไม่ได้ปล่อยปละเหตุการณ์ แต่ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่กทม. พวกตน ศอฉ. ร่วมมือแก้ไขสถานการ์ดับเพลิงได้ในที่สุด ประการที่สาม กรณีที่นายวรวัจน์อ้างว่าทหารอยู่บนรางรถไฟและไปยิงตรงนั้น โดยอ้างสำนวน ดีเอสไอ ก็เป็นเรื่องที่นายวรวัจน์โกหกทั้งสิ้น ซึ่งหากมีการอภิปรายเพ่ิมเติมก็จะได้นำเสนอข้อเท็จจริงชี้แจงต่อไป
นายวรวัจน์ ตอบโต้ว่า ภาพของนายสุเทพที่แสดงผู้ชุมนุมเป็นคนเผา ไม่ใช่ของกลุ่มนปช.เพราะนปช. ไม่มีสายรัดข้อมือ แต่น่าจะเป็นกลุ่มพันธมิตร และอาจจะเป็นของเก่าก็ได้
นายอภิสิทธิ์ โต้ว่า อยู่ดีๆ นายวรวัจน์ก็ไปแขวะพันธมิตรอีก ทั้งที่พันธมิตรกับผมก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกัน และก็ไม่เป็นธรรมกับเขา และที่อ้างว่าทหารได้ประโยชน์ จากเรื่องงบประมาณ ความจริงกองทัพได้งบมากที่สุดก็ยุครัฐบาลสมัครของท่าน ยุคที่ท่านเป็นรมว.วัฒนธรรมสร้างผลงานที่น่าจำได้ คือ การแจกปลัดขลิก นายวรวัจน์เขียนประวัติศาสตร์เพื่อประโยชน์ของการสร้างความขัดแย้งเพิ่มเติม พยายามทำเรื่องให้สลับซับซ้อน ความจริงยังมีเหตุการณ์เผาศาลาว่าการจังหวัด ซึ่งศาลได้ตัดสินไปแล้ว และยังมีของในเซ็นทรัลเวิรด์อีกที่บางส่วนถูกนำขึ้นรถของแกนนำบางคน
ให้วรวัจน์ใช้ปี๊บคลุมหัว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รปภ.ที่ผมพูดถึงเขาในวันนั้น เขาให้สัมภาษณ์โพสต์ทูเดย์ตั้งแต่ปีที่แล้ว ไม่ได้เป็นอย่างที่นายวรวัจน์เล่า เขายืนยันชัดเจนคนที่บุกเข้าไปแต่งตัวอย่างไร เหมือนกับสำนวนดีเอสไอที่ระบุว่า คนที่เข้ามาคือ กลุ่มผู้ชุมนุมหรือ คนเสื้อแดง ความจริงถ้าไม่มีแกนนำ ปลุกระดมว่า กรุงเทพจะเป็นทะเลเพลิงก็ไม่เป็นอย่างนี้
นายวรวัจน์ ชี้แจงว่า เอารปภ.ตัวเป็น ๆมาแสดงต่อหน้าสื่อก็ได้ แต่นปช.กับพันธมิตร แต่งกายแตกต่างกัน นปช.ไม่ใส่ริบบิ้นธงชาติ คนชุดแดง ชุดดำเขาไม่มี ท่านกำลังเข้าใจผิด
ต่อมา นายอดุลย์ วันไชยธนวงศ์ ส.ส.แม่ฮ่องสอน พรรคเพื่อไทย ได้ลุกประท้วงนายสุเทพ โดยให้ถอนคำพูดที่กล่าวหาใส่ร้ายโดยชี้มือทางฝ่ายค้านว่า “พวกท่านเผาบ้านเผาเมือง” โดยอยากให้ถอนและลบเทปออกจากบันทึกการประชุม นายชัย กล่าวว่า ทางโน้นก็กล่าวหาไปมาอย่างรุนแรง และถือว่าพอๆกัน ดังนั้น ปล่อยให้ปชช.เป็นผู้ตัดสินใจเอง เพราะขณะนี้ประชาชนไม่หลับ มาดูพวกท่านอภิปราย
จากนั้น นายอรรถพร ได้ลุกขึ้นประท้วงนายวรวัจน์ เพราะนำเอาเรื่องการสลายชุมนุมมาอภิปรายจนถูกจับได้กลางสภา และขอให้นายชัย ในฐานะประธานควบคุมการประชุม เอาปี๊บมาให้นายวรวัจน์คลุมหัว
ส.ส.เพื่อไทยถ่อย ด่า พ่อมึงในสภา
เมื่อเวลา 22.00น. ภายหลังจาก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงข้อกล่าวหาของ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.แพร่ พรรคเพื่อไทยกรณีการวางเพลิงห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ในช่วงการชุมนุมทางการเมืองที่แยกราชประสงค์เมื่อปี2553 ปรากฎว่านายวิเชียร ขาวขำ สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ได้ขอใช้สิทธิพาดพิงในฐานะที่ถูกกล่าวหาเป็นผู้ก่อการร้าย
นายวิเชียร กล่าวว่า ตนเองอยู่ในเหตุการณ์และขอยืนยันว่าคนเสื้อแดงไม่ได้ทำการวางเพลิง ระหว่างนี้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)จำนวนมากที่นั่งอยู่อีกฝั่งส่งเสียงโห่ขึ้นมา ทำให้นายวิเชียร์ กล่าวอย่างมีอารมณ์ผ่านไมค์โครโฟนว่า “โห่หาพ่อมึงเหรอ หนักหัวพ่อมึงเหรอ กูอยู่ในเหตุการณ์ สุเทพไม่ได้อยู่ ไอ้ห่า”
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1174 ครั้ง