สรรพากรใจดีให้คนไทยที่บริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ญี่ปุ่นได้สิทธิลดหย่อนภาษีด้วย
ตามที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่และเกิดคลื่นยักษ์สึนามิในหลายพื้นที่ของประเทศญี่ปุ่น ทำให้ชาวญี่ปุ่นได้รับความเดือดร้อนสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินเป็นอย่างมาก จนมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในประเทศไทยตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยดังกล่าว โดยเปิดรับบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อรวบรวมส่งไปใช้ บรรเทาทุกข์ต่อไป นั้น กรมสรรพากร ขอแจ้งให้ทราบว่าเพื่อให้การบริจาคช่วยเหลือในกรณีดังกล่าว สามารถนำเงินหรือมูลค่าทรัพย์สินที่บริจาค นำมาหักเป็นค่าลดหย่อน หรือหักเป็นรายจ่ายในการเสียภาษีได้ นั้น จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังนี้
๑. ผู้บริจาคที่เป็นบุคคลธรรมดา ได้เฉพาะผู้ที่บริจาคเป็นเงิน ด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีช่วยเหลือผู้ประสบภัย ผ่านบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ได้แก่ สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ช่อง 5 ช่อง 7 ช่อง 9 อสมท. เป็นต้น สามารถนำเงินบริจาคนั้นหักลดหย่อนในการคำนวณภาษีได้ตามจริง (รวมกับเงินบริจาคอื่นๆ ด้วย) แต่ไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่น ๆ แล้ว โดยใช้หนังสือสำคัญการรับเงินบริจาค จากนิติบุคคลที่เป็นตัวแทนรับบริจาคหรือใบโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร หรือสลิปของธนาคาร เพื่อเป็นหลักฐานในการนำไปหักลดหย่อนต่อไป
๒. ผู้บริจาคที่เป็นบริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สามารถนำเงินหรือทรัพย์สินที่บริจาคนำมาหักรายจ่ายได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินร้อยละ 2 ของกำไรสุทธิในปีที่บริจาค นอกจากนี้ กรณีทรัพย์สินหรือสินค้าที่นำไปบริจาคก็ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มโดยไม่ถือเป็นการขาย
ทั้งนี้ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เป็นตัวแทนรับบริจาคเงินหรือทรัพย์สิน ตามข้อ 1 และข้อ ๒ ต้องนำเงินและทรัพย์สินที่ได้รับบริจาคมาทั้งจำนวนนั้น ไปบริจาคให้แก่หน่วยงานของส่วนราชการไทยเท่านั้น เช่น กระทรวงการต่างประเทศ ช่วยผู้ประสบภัย และหน่วยงานราชการนั้นจะต้องออกใบเสร็จรับเงินหรือหนังสือสำคัญการรับเงินที่เป็นยอดรวมให้ตรงกับยอดบริจาค เช่นนี้ ผู้บริจาคตามข้อ ๑ และข้อ ๒ จึงจะได้รับสิทธินำยอดเงินหรือทรัพย์สินที่บริจาคไปหักลดหย่อนหรือหักรายจ่ายได้ แต่หากตัวแทนรับบริจาคนำไปมอบให้แก่ผู้ประสบภัยโดยตรงผู้บริจาคจะไม่ได้รับสิทธิในการหักลดหย่อนแต่อย่างใด
นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า เหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นเรื่องที่ร้ายแรง มีชาวญี่ปุ่นสูญเสียเป็นจำนวนมาก การที่คนไทยร่วมกันบริจาคเงินและทรัพย์สินให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ญี่ปุ่นในครั้งนี้ เป็นการแสดงออกถึงความมีน้ำใจและความมีเมตตาประสงค์ที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ดังนั้น นอกจากผู้บริจาคจะได้รับอานิสงค์ผลบุญตามความเชื่อของชาวไทยแล้ว ยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอีกด้วย แต่ทั้งนี้ขอให้เป็นไปตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากรด้วย
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1237 ครั้ง