สุเทพ โต้จตุพรทุกข้อกล่าวหา ยันรัฐบาลไม่คิดสั่งฆ่าประชาชน เปิดโฉมหน้าชายชุดดำ4กลุ่มบงการบึ้มคอกวัว10เม.ย.คร่าชีวิต ร่มเกล้า ชี้ทักษิณใช้คอมมิวนิสต์โมเดลเคลื่อนไหวล้มรัฐบาล แนะสู้นอกระบบไม่มีวันชนะ
วันที่ 18 มีนาคม เวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา มีการพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นวันสุดท้าย โดยตั้งแต่เวลา 9.00น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ด้านความมั่นคง อภิปรายชี้แจงข้อกล่าวหาของนายจตุพร พรหมพันธ์ สส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทยที่ระบุว่ารัฐบาลเป็นสั่งให้เจ้าหน้าที่ทหารปราบปรามกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งนายสุเทพ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความรุนแรงในสองเหตุการณ์ คือ เหตุการณ์ ขอพื้นที่คืนบริเวณถนราชดำเนินวันที่ 10 เม.ย.และการกระชับพื้นที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ 19 พ.ค.2553
ชี้นปช.เคลื่อนไหวป่วนเมืองเพื่อหวังมีกรรมการห้ามมวย
นายสุเทพ อธิบายว่า การชุมนุมของคนนปช.เป็นความต้องการที่ล้มรัฐบาลภายหลังจากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกยึดทรัพย์ และมากล่าวหาว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่มีความชอบธรรมในการบริหารประเทศ ทั้งที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกับที่สภาฯเลือกนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี แต่พอพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นมาเป็นรัฐบาลพวกท่านก็ไม่พอใจจึงหาวิธีโค่นล้มด้วยการสร้างความวุ่นวายให้กับประเทศถึงสองครั้ง ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อปี2552ตอนนั้นพวกคุณไม่สามารถทำอะไรได้ จึงกลับมาใหม่หวังสร้างสถานการณ์ให้มีคนเจ็บคนตายเพื่อให้มีคนเข้ามายุติเหตุการณ์
จากนั้นนายสุเทพได้ลำดับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับโชว์ภาพพร้อมคลิปเสียงประกอบการชี้แจง โดยเน้นพฤติกรรมการปลุกระดมของบรรดาแกนนำนปช. และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ปลุกระดมให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง พร้อมกับกล่าวหาว่านายจตุพรเป็นฆาตกรฆ่าประชาชน โดยนายสุเทพชี้แจงสรุปว่า เหตุทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาจากกลุ่มคนเสื้อแดงก่อเหตุยิงอาร์พีจี ปาระเบิด บุกปิดล้อมรัฐสภา พร้อมกับเตรียมกองกำลังชุดดำเพื่อปฏิบัติการ โดยมีการโชว์ภาพกลุ่มกองกำลัง
ชำแหละชายชุดดำ4กลุ่มฝึกยิงหัวกลางสนาม
นายสุเทพ ระบุว่า กองกำลังเสื้อดำ แบ่งออกเป็น 4 หน่วยคือ 1.กลุ่มนักรบโรนิน ภายใต้กำกับพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เริ่มก่อตั้งเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2551 มีกองกำลัง 80-100 คน เริ่มฝึกการต่อสู้โดยใช้ไม้พลองแทนปืนที่สนามหลวง มีการฝึกยิงศูนย์นั่งแท่นบริเวณหัวฝึกให้ยิงหัวอย่างเดียว มอบหมายให้นายมงคล สารพัน และนายยงยุทธ ท้วมมี เป็นแกนนำ กลุ่มนี้เป็นคนก่อเหตุเมื่อวันที่ 10 เม.ย.2553 เข่นฆ่าประชาชนโดยใช้อาวุธปืนอาร์ก้าที่ยึดมาจากเจ้าหน้าที่ 2.กลุ่มเสือดำ มีพล.ท.ทวนทอง อินทรทัต มีนายอารี ไกรนรา หัวหน้าการ์ดกลุ่มเสื้อแดง และนายสมบูรณ์ เป็นผู้ฝึก โดยกลุ่มนี้พัฒนามาจากการ์ดอาสาเสื้อแดง ฝึกครั้งแรกเดือน ก.พ.2553 ที่จ.อุตรดิตถ์ จากนั้นมาฝึกที่เขตบางบอน โดยมีการใช้งานจริงเดือนเม.ย.2553
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า 3.กลุ่มสมิงดำ เป็นการรวมกลุ่มของกลุ่มฮาร์ดคอที่อยู่บริเวณศาลาแดง โดยมีพล.ต.ขัตติยะ เป็นผู้ฝึก ฝึกประกอบระเบิดตามจุดต่างๆในกทม. 4.กลุ่มกูคือผู้ชนะ กำกับโดยนายยงยุทธ(ไม่บอกนามสกุล) กลุ่มนี้ลึกลับไม่มีหลักฐานชัดเจน ไม่มีรูปถ่ายไว้ กำลังติดตามอยู่ ซึ่งการจัดกองกำลังของนปช.ที่ถนนราชดำเนินและสี่แยกราชประสงค์มีความแตกต่าง และมีโครงสร้างที่สลับซับซ้อน คือที่ราชดำเนินเป็นลักษณะของผบ.ร้อย โดยมีหัวหน้าคุมหน่วย 111 คน และมีการ์ด 307 คน ขณะที่สี่แยกราชประสงค์มีการยกระดับเป็นเหมือนผบ.พัน มีคนคุมกองร้อย 87 คน และมีหัวหน้าคุมส่วนต่างๆ อีก 23 คน มีการกระจายกำลังอยู่ทุกพื้นที่ โดยมีกองกำลังทั้งหมด 3,342 คน เพื่อเตรียมพร้อมสู้กับเจ้าหน้าที่ หากมีการสลายการชุมนุม โดยหวังให้เกิดเหตุการณ์นองเลือดขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีการวงแผนเป็นอย่างดี ซึ่งต้องการสร้างความรุนแรงให้เกิดขึ้น
2ศพวัดปทุมฯมีเขม่าปืนติดมือสงสัยจับปืนสู้ก่อนตาย
“ขอชี้แจงว่าเหตุการณ์วางเพลิงที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิล์ด ไม่มีใครลอยนวล มีการจับผู้ต้องหาและส่งฟ้องแล้ว 4 คน อีกทั้งยังมีการออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องอีกด้วย ส่วนกรณีการเสียชีวิต 6คนที่วัดปทุมวนาราม ยังพบว่ามี 2 ศพมีเขม่าดินปืนติดอยู่ที่มือ แสดงว่าอาจมีการใช้อาวุธปืนก่อนเสียชีวิต ซึ่งตรงข้ามกับที่นายจตุพรระบุว่าไม่มีศพไหนมีเขม่าดินปืน อีกทั้งนายจตุพรยังบอกว่าบางศพมีกระสุนหัวสีเขียวฝังใน เป็นฝีมือของทหารนั้น ขอชี้แจงว่าเหตุการณ์รุนแรงเมื่อวันที่ 10 เม.ย.53 มีการยึดอาวุธทหาร หลังจากนั้นมีการจับกุมได้พบว่ามีการยึดกระสุนหัวสีเขียวไปด้วย”
นายสุเทพกล่าวว่า ที่สำคัญคือเหตุการณ์การเสียชีวิตของพล.อ.ร่วมเกล้า ธุวธรรม หรือพ.อ.ร่มเกล้า ได้มีรถตู้ขนคนชุดดำเข้าไปปฏิบัติการ และหนึ่งในนั้นคือผู้สังหารพล.อ.ร่วมเกล้า และที่น่าเสียใจคิอพล.อ.ร่มเกล้าอาจไม่เสียชีวิต หากไม่ถูกขัดขวางจากผู้ชุมนุมในการนำตัวส่งโรงพยาบาล ในที่นี้ไม่โทษประชาชน แต่โทษแกนนำที่ต้องรับผิดชอบผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต ทหารถูกยิงและไม่ได้ไปโรงพยาบาล จึงขอความเป็นธรรมจากนายจตุพร ให้กับครอบครัวของพล.อ.ร่วมเกล้าและทหารที่เสียชีวิตด้วย ขณะเดียวกัน เหตุการณ์ความรุนแรงวันที่ 10 เม.ย.เป็นที่น่าข้อสังเกตุว่าภายในเว็บไซต์เสธ.แดงมีการโพสต์ข้อความเมื่อเวลา 16.30น.ที่มีเนื้อหาให้มีการนำกองกำลังออกมาปฎิบัติการที่สี่แยกคอกวัว ซึ่งปรากฎว่าพอตกดึกก็ได้เกิดเหตุการณ์ชายชุดดำสร้างความรุนแรงกับประชาชนและทหาร
ยกทฤษฎีคอมมิวนิสต์เทียบทักษิณเคลื่อนไหว
ขณะเดียวกันนายสุเทพได้ทำแผ่นชาร์ต แผนผังทฤษฎีคอมมิวนิสต์ ระหว่างพรรคคอมมิสนิสต์แห่งประเทศไทย และเครือข่ายทักษิณ เพื่อมาเปรียบเทียบให้เห็นว่าการเคลื่อนไหวของเครือข่ายทักษิณ มีลักษณะเช่นเดียวกับคอมมิวนิสต์ โดยยกตัวอย่างว่า มีการตั้งมวลชนคนเสื้อแดงเคลื่อนไหวเปิดเผย เพราะไม่มีกฎหมายห้าม มีการตั้งโรงเรียนนปช. สร้างแนวร่วมมีกองกำลังติดอาวุธ ใช้สื่อทุกรูปแบบ พร้อมกับสร้างเครือข่ายต่างประเทศ พรรคคอมมิวนิสต์มีวิทยุปักกิ่ง เครือข่ายทักษิณมีสื่อเรดนิวส์ สื่อดาวเทียม พรรคคอมมิวนิสต์มีเครื่อข่ายคอมมิวนิสต์สากล เครือข่ายทักษิณ มีการจัดตั้งเว็บไซด์เชื่อมโยงทั่วโลก
นายสุเทพ ได้สรุปตอนท้ายของการอภิปรายว่า การเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย เพราะมีเจตนาที่ต้องการล้มรัฐบาลด้วยวิธีการนอกระบบ ถ้าเป็นการเคลื่อนไหวในระบบประชาธิปไตยก็จะไม่เกิดปัญหาขึ้น ถ้าพวกท่านได้เป็นรัฐบาลออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้กับพ.ต.ท.ทักษิณก็ทำได้ พวกผมก็นั่งดูพวกท่านตาปริบๆ แต่วันนี้พวกท่านไม่ได้เล่นตามระบบ วันนี้จึงอยากให้พวกท่านฝากบอกนายของท่านว่าให้กลับมาเล่นในกติกาตามระบบ ขอให้เชื่อว่าฝืนเดินหน้าต่อไปก็ไม่มีวันชนะและฝากไปถึงพวกคอมมิวนิสต์เก่าที่อยู่ในศูนย์บัญชาการของพวกท่านขอให้กลับใจอย่าเป็นคอมมิวนิสต์หลงโลกเพื่อกลับมาพัฒนาบ้านเมืองน่าจะดีกว่า
“รัฐบาลชุดนี้ได้เสนอแนวทางเพื่อสร้างความปรองดอง แต่ต้องล้มไปเมื่อนายจตุพรได้รับโทรศัพท์ทางไกล หลังจากนั้นพ.ต.ท.ทักษิณ ได้วีดีโอลิงค์มาบอกว่าเป็นไปตามคาด ซึ่งเป็นแผนที่ไม่ต้องการความปรองดอง ไม่ทราบว่านายจตุพรเอาเปรียบเกินไปหรือไม่ เพราะมีทั้งพรรคการเมือง มวลชน และกองกำลังติดอาวุธอยู่ในมือ มันไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตยตามที่คนเสื้อแดงเรียกร้อง มาสู่ในระบอบจะดีกว่า เลือกตั้งกันไปเลยว่าใครจะชนะ ถ้าอยากจะเสนอนโยบายให้เอาพ.ต.ท.ทักษิณกลับมาก็ได้ ถ้าพวกตนแพ้ก็นั่งดูการแก้กฎหมายนิรโทษกรรมให้พ.ต.ท.ทักษิณตาปริบๆ หรือไม่ก็นายจตุพรลองมาติดคุกดู เผื่อเรียกคะแนนจากมวลชนให้เลือกกลับเข้ามาเต็มสภาฯ” นายสุเทพ กล่าว
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1332 ครั้ง