สหรัฐร่วมชาติตะวันตกปฎิบัติการทางทหารเริ่มการโจมตีกองกำลังกัดดาฟีแล้วหลังผู้นำเผด็จการเมินมติยูเอ็น พร้อมเคลื่อนยุทโธปกรณ์ประชิดลิเบีย
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่าการปฏิบัติการทางทหารในลิเบียของชาติตะวันตกภายใต้ชื่อ “โอดิสซี ดอว์น” บริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ได้เปิดฉากขึ้นแล้ว โดยเครื่องบินฝรั่งเศสได้เข้าทำลายรถถัง จำนวน 4 คันของกองกำลังฝ่าย พ.อ.โมอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำประเทศลิเบีย ในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองเบงกาซี
ขณะที่ กองทัพสหรัฐได้ใช้ เรือพิฆาตติดขีปนาวุธ ยูเอสเอส บาร์รี (ดีดีจี 52) ที่ประจำการในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ยิงจรวดโทมาฮอว์กใส่ฐานต่อต้านอากาศยานของกองกำลังของกัดดาฟี โดยมีรายงานว่าได้มีการยิงจรวดโทมาฮอว์กกว่า 110 ลูกเข้าใส่ฐานที่มั่นทางทหารซึ่งเป็นแนวป้องกันชายฝั่งของลีเบีย เพื่อเปิดทางให้กองกำลังภาคพื้นดิน
อย่างไรก็ดี ยังมีหลายชาติที่แสดงความไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของชาติตะวันตก ในการใช้ปฏิบัติการทางทหารกับลิเบียในครั้งนี้ โดยเฉพาะรัสเซีย
ขณะที่กาชาดสากล เรียกร้องให้ทุกฝ่ายในลิเบีย อย่าทำการการสกัดกั้นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ และรถพยาบาล เพื่อให้เข้าดูแลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ
ประธานาธิบดี นิโกลาส์ ซาร์โกซี ผู้นำฝรั่งเศส กล่าวว่า การประชุมฉุกเฉิน ที่กรุงปารีสเมื่อวันสเาร์ที่ผ่านมา กับผู้เข้าร่วมระชุม ระดับผู้นำประเทศ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงข รวมทั้งเลขาธิการสันนิบาตอาหรับ มีมติตกลงที่จะใช้มาตราการที่จำเป็น เพื่อให้ พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดฟี ผู้นำลิเบีย เคารพมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่เรียกร้องให้หยุดยิง
สำนักข่าว อัลจาซีร่า รายงานว่า ฝรั่งเศสเตรียมส่งเครื่องบินรบ”ชาร์ลส์ เดอ โกลล์” เข้าไปยังลิเบียพรุ่งนี้(20)ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าเวลาในประเทศไทยประมาณ 5 ชั่วโมง เพื่อป้องกันกองกำลังกัดดาฟีมิให้โจมตีกลุ่มต่อต้าน เช่นเดียวกับ กลาโหมสหรัฐฯ ที่เตรียมเรือดำน้ำ 3 ลำเข้าประจำการที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เพื่อเตรียมพร้อมในการจัดการกับลิเบีย
เรือพิฆาตสหรัฐยิงโทมาฮอว์กใส่กองกำลังกัดดาฟี
ด้าน พ.อ.โมอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำประเทศลิเบีย แถลงผ่านทางโทรทัศน์ สั้นๆ หลังสหรัฐ และชาติตะวันตก เปิดฉากปฎิบัติการทางทหารโจมตีใกล้ศูนย์บัญชาการในกรุงตริโปลี โดยประณามการกระทำครั้งนี้ว่า ป่าเถื่อน และเป็นความก้าวร้าวของนักรบครูเสดที่ไร้ความชอบธรรม และลั่นวาจาว่าจะแก้แค้นด้วยการโจมตีทั้งทหารและพลเรือนบริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียนซึ่งขณะนี้กลายเป็นสมรภูมิไปแล้วอย่างแท้จริง
“ขณะนี้คลังสรรพาวุธถูกเปิดออกแล้ว ชาวลิเบียจะจับอาวุธกันทุกคนเพื่อต่อสู้กับกองกำลังตะวันตก”พ.อ.กัดาฟี กล่าว
เขาเรียกร้องให้ชาวลิเบีย ลุกขึ้นจับอาวุธ เพื่อปกป้องประเทศจากการรุกรานโดยกองกำลังของชาติตะวันตก โดย กัดดาฟี กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาล วานนี้ (19 มี.ค.) ว่า เป็นสิ่งจำเป็นในตอนนี้ ที่ประชาชนทุกคนต้องหันมาจับอาวุธ เพื่อปกป้องความเป็นอิสระ ความสามัคคี และศักดิ์ศรีของชาวลิเบีย พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนของประเทศอาหรับ อิสลาม ลาตินอเมริกา เอเชีย และแอฟริกา ยืนเคียงข้างชาวลิเบียที่กล้าหาญ และมีเพียงความสามัคคีและความแข็งแกร่งของประชาชนชาวลิเบีย เท่านั้น ที่จะนำพาประเทศผ่านพ้นการคุกคามนี้ไปได้
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศลิเบียแถลงว่า ปฏิบัติการของชาติตะวันตกถือเป็นการทำลายความมั่นคงและสันติสุขของนานาชาติ และขอเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเปิดประชุมด่วน เนื่องจากความรุนแรงที่เกิดขึ้นในประเทศจากการโจมตีดังกล่าว ถือเป็นการกระทำต่อรัฐเอกราชและสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ
ด้านสื่อรัฐบาลลิเบียรายงานว่า เครื่องบินรบฝ่ายตะวันตกทิ้งระเบิดใส่พลเรือนในกรุงตริโปลี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 48 คน บาดเจ็บ 150 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็ก ขณะที่โฆษกกองทัพระบุว่า ถังเก็บเชื้อเพลิงในเมืองมิสราตาซึ่งกลุ่มกบฎยึดครองอยู่ ก็ถูกโจมตีเช่นกัน
ในอดีตสหรัฐฯเคยโจมตีทางอากาศต่อลิเบีย ในสมัยอดีตประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน เมื่อ 25 ปีที่แล้ว หลังเหตุระเบิดในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในประเทศเยอรมนี ทำให้ทหารอเมริกัน 2 นายเสียชีวิต ซึ่งสหรัฐฯ โทษลิเบียว่ามีส่วนในเหตุระเบิดดังกล่าว
ในขณะทื่ประเทศจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่งดออกเสียงในการอนุมัติมติกำหนดเขตห้ามบินในลิเบียของคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ ระบุในแถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศ ว่า จีนคัดค้านการใช้กำลังกับปัญหาด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ด้านรัสเซีย ซึ่งก็งดออกเสียงในการอนุมัติมติเขตห้ามบิน ก็ออกแถลงการณ์โดยใช้คำพูดคล้ายๆกันรวมทั้งยังเรียกร้องให้มีการหยุดยิงโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่แถลงการณ์ของจีน ไม่ได้พูดถึงเรื่องการหยุดยิง แต่บอกว่าจีนเคารพในอธิปไตย เอกราช และบูรณภาพแห่งดินแดนของลิเบีย รวมทั้งหวังว่าลิเบียจะสามารถฟื้นฟูเสถียรภาพเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้และหลีกเลี่ยงการสูญเสียของฝ่ายพลเรือนเพิ่มเติมจากกรณีพิพาททางด้านอาวุธที่รุนแรงขึ้น
จีนและรัสเซีย เป็นแกนนำในคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติที่คัดค้านการใช้กำลังทางทหารกับลิเบีย แต่ทั้งสองประเทศก็ไม่ได้ใช้อำนาจที่มีอยู่ในการขัดขวางการ
ออกมติ แต่ก็ประกาศว่าจะไม่เข้าร่วมในการปฏิบัติการณ์เพื่อกำหนดเขตห้ามบินเหนือลิเบีย
ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแนวทางในการช่วยเหลือคนไทยในลิเบียภายหลังกลุ่มชาติยุโรปได้หารือถึงการใช้กำลังทหารจัดการกับรัฐบาลลิเบียว่า ได้สอบถามผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ว่าจะมีผลกระทบอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ และจะประเมินซึ่งการสู้รบที่เกิดขึ้นอยู่ทางตอนเหนือทั้งหมด ซึ่งแรงงานไทยที่เคยอยู่ตรงนั้นก็ได้นำออกมาหมดแล้ว ยกเว้นคนที่สมัครใจอยู่ก่อนหน้านี้ แต่เรายังติดตามอย่างต่อเนื่องเพราะว่าถ้าเมื่อไรที่พวกเขาต้องการกลับมาก็ต้องเข้าไปช่วย
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1587 ครั้ง