วันที่ 21 มีนาคม ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงทิศทางการเมืองภายหลังการเลือกตั้ง ว่า จะมีด้วยกัน 5 กลุ่ม ประกอบด้วย พรรคการเมืองที่เกิดใหม่ และพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา และการรวมตัวกันของพรรคการเมืองเล็กๆ ซึ่งจะทำให้เห็นว่ารัฐบาลจะยังต้องเป็นรัฐบาลผสมต่อไป อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสัญญาณการยุบสภาและการเลือกตั้งใหม่ในเดือนมิถุนายนนี้ จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้เพิ่มมากขึ้น
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวเพิ่มเติมว่า หากเป็นไปได้ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย จะจับขั้วกันทางการเมืองเป็นพรรคร่วมรัฐบาล จะทำให้ประเทศเกิดการปรองดองได้รวดเร็วมาก
อักด้านหนึ่ง เมื่อเวลา 15.50 น. นายเสรี สุวรรณภานนท์ อดีตรองประธานสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ปี 53 เปิดเผยภายหลังการประชุมสามัญประจำปี พรรคธรรมาธิปัตย์ ภายหลังที่ได้รับเสียงสนับสนุนให้เปลี่ยนชื่อพรรคจากเดิม ว่า ผลการประชุมวันนี้ สืบเนื่องจากการตั้งพรรคใหม่ชื่อพรรคประชาสันติ เพื่อต้องการให้ทันเวลาที่นายกฯประกาศยุบสภา หากเราตั้งพรรคใหม่เกรงว่าจะไม่ทันการเลือกตั้งที่จะถึง อีกทั้ง เราคุ้นเคยกรรมาบริหารพรรคชุดเก่าที่มาจากพรรคธรรมาธิปัตย์เดิม ดังนั้น การดำเนินการต่างๆจึงไม่ต้องปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ซึ่งจากนี้ เราจะเปิดรับสมัครผู้ต้องการลงส.ส.ต่อไป ขณะที่นโยบายพรรค เบื้องต้องรอให้ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ มารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งให้กับประชาชน อย่างไรก็ตาม ส่วนนโยบายเรื่องการปรองดองที่หลายพรรคการเมืองชูขึ้นมานั้น เรียนว่ามักทำไม่สำเร็จ เพราะไม่มีใครที่อยากมาปรองดองด้วย ซึ่งปัญหาดังกล่าวพรรคจะพยายามสานต่อให้เกิดขึ้นให้ได้
เสรี
นายเสรี กล่าวว่า สำหรับตำแหน่งสำคัญที่มีการเลือกในที่ประชุมนั้น เบื้องต้นมีมติให้ตนเป็นหัวหน้าพรรค ระหว่างนี้ไปก่อน จนกว่าร.ต.อ.ปุระชัย จะมารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมือง ส่วนรองหัวหน้าพรรคมี 2 คน คือ นายพันธ์เลิศ ใบหยก และนางนงลักษณ์ วัฒนสิงหะ และนส.พรเพ็ญ เพชรสุขศิริ เป็นเลขาธิการพรรค
“ขณะนี้ร.ต.อ.ปุระชัยได้ตอบรับชัดเจนที่จะเป็นหัวหน้า แต่ขณะนี้ทางพรรคต้องส่งรายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรคชั่วคราวไปคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้ทันการเลือกตั้งที่จะถึง เมื่อกระบวนการเสร็จสิ้น ก็จะเสนอคณะกรรมการบริหารชุดถาวรที่จะเปิดตัวพร้อมกับร.ต.อ.ปุระชัย ประมาณต้นเดือนเม.ย.”นายเสรีกล่าว
เมื่อถามว่า การจัดตั้งพรรคดังกล่าวขึ้นมาเพื่อเป็นทางเลือกคนกรุงเทพใช่หรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า เรามีเป้าหมาสำคัญที่ต้องการคนมีความรู้ความสามารถเข้ามาทำงานกับพรรค ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองเก่า หรือผู้ที่สนใจก็สามารถสมัครเข้ามาได้ ซึ่งพรรคก็ไม่จำกัดในพื้นที่กทม.เท่านั้น เราให้ความสำคัญกับทุกพื้นที่ แต่ยอมรับว่ากทม.เป็นเป้าหมายหลัก เพราะร.ต.อ.ปุระชัยก็มีผลงานที่เป็นประจักษ์และดีเด่นอยู่แล้ว ส่วนพื้นที่ห่างไกลออกไป เราก็จะตั้งคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครขึ้นมา โดยเฉพาะผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ส่วนจำนวนเสียงที่จะได้ เราต้องดูทางกกต.สามารถแก้ปัญหาการซื้อเสียงในพื้นที่มากน้อยแค่ไหน แต่ถ้ากกต.แก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างที่ประสิทธิภาพ ทางพรรคก็น่าจะได้รับการเลือกตั้งในระดับหนึ่ง
“ขณะนี้มีส.ส. และนักการเมือง ยอมรับว่ามีหลายคน แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ เราจะเปิดเผยได้ต่อเมื่อร.ต.อ.ปุระชัยเข้ามารับตำแหน่งก่อน ส่วนส.ส.พรรคอื่นที่จะย้ายเข้ามาร่วมงานการเมืองเราก็ไม่ปิดกั้น แต่อย่างน้อยต้องมีอุดมการณ์เดียวกัน โดยเฉพาะการสร้างความผาสุก สันติให้กับประชาชน”นายเสรีกล่าว
นายเสรี กล่าวว่า จะยุบสภาหรือไม่ขึ้นอยู่กับนายกฯ เราคงให้ความเห็นอะไรไม่ได้มาก ถามว่า ตั้งเป้าไว้จะได้กี่ที่นั่ง นายเสรี กล่าวว่า พรรคใหม่อย่างเราก็จะพยายามอย่างดีที่สุด และไม่คาดหวังว่าจะได้จำนวนเท่าไหร่ แต่ถ้าบุคคลเป็นที่ยอมรับ ประชาชนก็จะเป็นผู้ตัดสิน
ส่วนจะรอบรับส.ส.จากพรรคอื่นหรือไม่ ยังไม่มีความชัดเจน ต่างคนก็ต่างพูดกันขึ้นมา แต่การกำหนดรับบุคคล ทางพรรคจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคัดเลือกในการพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติ รวมถึงความรู้ความสามารถ โดยจะคัดคนที่ดีที่สุดโดยไม่กำหนดว่ามาจากพรรคไหน แต่ยอมรับว่าขณะนี้ได้มีกาติดต่อเข้ามามาก ทั้งนักการเมืองท้องถิ่น รวมทั้งบุคคลที่เคยสมัครลงส.ส.
อย่างไรก็ตามขณะนี้คิดอย่างเดียวว่าต้องตั้งพรรคให้สำเร็จ เพื่อรองรับการเลือกตั้งครั้งหน้าก่อน เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับประชาชน เมื่อถามว่า การชูร.ต.อ.ปุระชัย เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อต้องการให้เป็นแคนดิเคตนายกฯใช่หรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่ขอพูด ซึ่งเป็นเรื่องที่ไกลไป ในส่วนของพรรคต้องเจียมเนื้อเจียมตัว เพราะเป็นพรรคเล็ก และยังต้องรอให้จัดตั้งให้เป็นพรรคที่สมบูรณ์เสียก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรคประชาสันติชั่วคราว มีทั้งสิ้น 11 คน ประกอบด้วย นายเสรี สุวรรณภานนท์ หัวหน้าพรรค นายพันธ์เลิศ ใบหยก นางนงลักษณ์ วัฒนสิงห และนายดนสวัสดิ์ ชาติเมธี รองหัวหน้าพรรค นส.พรเพ็ญ เพชรสุขศิริ เลขาธิการพรรค นส.จรินยาภร ชื่นตา รองเลขาการพรรค นายปฏิคม สาคร นายทะเบียนสมาชิกพรรค พล.ต.ท.ถวิล สุรเชษฐพงษ์ เหรัญญิกพรรค นายวรวิช ธีระศิริศิลป์ โฆษกพรรค จ.ส.อ.สุนทร เนตรประสม และนายรัตน์ ราศิวงศ์ กรรมการบริหาร
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1603 ครั้ง