เพื่อแผ่นดิน ประเมินยังไม่มีการเลือกตั้ง เหตุการเมืองยังระอุ ระบุ มีสิทธิ์ใช้มาตรา7 กู้ชาติหากเลือกตั้งไม่ได้ ชาญชัย ยันสส.ในพรรคยังอยู่ครบ
ที่รร.บางกอกสีสอร์ท มีการประชุมใหญ่สามัญพรรคเพื่อแผ่นดิน ครั้งที่ 1/2554 โดยมีนายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน เป็นประธานการประชุม โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ตามความเห็นส่วนตัวอาจจะไม่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น เนื่องจากยังมีวิกฤตการณ์ทางการเมืองและในทางบริหารอยู่ เพราะมีการอำนาจในการบริหารราชการเกินขอบเขต ทำลายหลักธรรมาภิบาล และยังส่งผลให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่น จึงกลายเป็นวิกฤตที่ยังจะไม่สิ้นสุดแม้จะมีการเลือกตั้งแล้วก็ตาม เพราะต่างฝ่ายต่างความคิด แบ่งขั้วความคิดกันอย่างเอาเป็นเอาตาย เป็นเรื่องอันตรายของชาติ ดังนั้นพรรคเพื่อแผ่นดินต้องเป็นผู้ขับเคลื่อนสู่การเป็นทางเลือกที่ 3 ทางการเมือง เพื่อนำไปสู่วิถีทางใดก็ตามที่จะก่อให้เกิดการมีรัฐบาลให้ได้
“หากสองขั้วยังปะทะกันอย่างรุนแรง หากพรรคสามารถเป็นทางเลือกโดยไม่มีขั้ว ผสมผสานเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ปรองดอง ไม่มีการทำลายล้างกัน ประเทศจึงสามารถเดินไปได้” นายชาญชัย กล่าว
ต่อมา นายชาญชัย ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า พรรคเพื่อแผ่นดินมีการย้ายที่ประชุมพรรคใหม่มาที่ถนนสุโขทัย นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขข้อบังคับพรรคเรื่องการให้มีกรรมหารบริหารพรรคไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมหารบริหารทั้งหมด โดยต้องมีสมาชิกพรรคมาประชุมไม่น้อยกว่า 200 คน ในการลงมติในการประชุมใหญ่ต้องกระทำโดยเปิดเผย นอกจากนี้ยังมีการให้ตั้งคณะกรรมการ 3 ชุด ได้แก่ คณะกรรมการนโยบายของพรรคการเมือง คณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคการเมือง และคณะกรรมการส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยในพรรคการเมือง ขึ้นมาทำงานในพรรค
ด้าน นายสิทธิชัย โควสุรัตน์ เลขาธิการ กล่าวว่า หากรัฐสภาไม่สามารถแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญที่ใช้ในการเลือกตั้ง 3 ฉบับได้ทันภายในเดือน พ.ค.นี้ ในขณะที่ก็มีกระแสข่าวว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะลาออก หากบังคับให้ กกต.ออกระเบียบเพื่อใช้ในการเลือกตั้งแทนการใช้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ หาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันที่จะยุบสภา ก็จะทำให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง โดยไม่มีสภาผู้แทนราษฎร และไม่มี ส.ส. ส่งผลให้รัฐบาลรักษาการณ์ไม่สามารถทำงานได้ ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่จะมีการตั้งรัฐบาลขึ้นมาเพื่อดำเนินการแทน หรือใช้บทบัญัติในรัฐธรรมนูญมาตรา 7 เพื่อแก้ไขสุญญากาศที่เกิดขึ้น
จากนั้น นายชาญชัย ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ทางการเมืองและอนาคตของพรรคเพื่อแผ่นดินว่า ขณะนี้ส.ส.ของพรรคยังอยู่ครบทั้ง 31 คน ยังไม่คนใดแจ้งความประสงค์ขอลาออก ซึ่งหากมีผู้ใดต้องการลาออกทางพรรคก็จะอนุมัติ และหาคนมาแทนทันที ส่วนการประเมินส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปนั้นนั้น ยังพูดไม่ได้ รอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมก่อน แต่ยอมรับว่าขณะนี้มีบุคคลจากหลายส่วนติดต่อเข้ามาร่วมกับพรรค เพราะเราเปิดกว้างทางการเมือง เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่จะรวมพรรคกับพรรครวมชาติพัฒนา นายชาญชัย กล่าวว่า ตนติดตามจากข่าว ซึ่งเห็นว่าหากสิ่งใดเป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองก็ยินดีที่จะทำ
เมื่อถามว่าหากในอนาคตส.ส.มีการย้ายพรรคได้เตรียมมาตรการไว้รองรับอย่างไร นายชาญชัย กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่มีใครลาออก หากมีอุดมการณ์เดียวกันก็อยู่ด้วยกันได้ แต่ถ้าอยากมีผัวใหม่ หรือผู้ใดประสงค์จะอยู่ก็อยู่ ไม่ประสงค์อยู่ก็ไป แต่ถ้าพรรคก็ได้มีการสร้างกำแพงป้องกันพลังดูดที่รุนแรง อย่างไรก็ตามเชื่อว่าจะมีโสเภณีการเมืองเกิดขึ้นอีกมาก
เมื่อถามว่าการตั้งพรรคประชามติของร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ จะมีผลกระทบต่อฐานเสียงของพรรคเพื่อแผ่นดินหรือไม่ นายชาญชัย กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับพรรคที่จะเกิดขึ้นมาใหม่ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดก็ตาม และขอต้อนรับร.ต.อ.ปุระชัยที่เข้ามาสู่เวทีประชาธิปไตย และไม่มีความกังวลใดๆที่ร.ต.อ.ปุระชัยตั้งพรรค อย่างไรก็พรรคมั่นใจในพื้นที่เดิมทั้งหมด โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสาน
เมื่อถามว่าภายในพรรคเพื่อแผ่นดินไม่มีความชัดเจนที่ส.ส.จะย้ายพรรคหรือการรวมพรรคจะทำให้พรรคเสียเปรียบในการเลือกตั้งหรือไม่ นายชาญชัย กล่าวว่า เป็นธรรมชาติทางการเมืองที่พรรคใหญ่จะได้เปรียบทุกด้าน ส่วนพรรคเราถือเป็นพรรคเล็ก แต่หากประชาชนให้ความไว้วางใจมากก็สามารถเข้ามีตำแหน่งบริหารประเทศได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงแนวคิดการตั้งรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทยเพื่อลดความขัดแย้งในประเทศ นายชาญชัย กล่าวว่า การตั้งรัฐบาลก็ต้องดูว่าน้ำดีหรือน้ำไม่ดี น้ำดีก็คือน้ำบริสุทธิ์ ส่วนน้ำไม่ดีก็คือน้ำเน่า
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยน้ำดีหรือไม่ดี นายชาญชัย กล่าวว่า เราไม่ได้พูดถึงพรรค แต่พูดถึงน้ำดีหรือน้ำไม่ดี ส่วน เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยที่จะชูนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ส.ส.สัดส่วนและนส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรค นายชาญชัย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่ใครจะขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคแสดงว่าได้มีกลั่นกรองแล้ว เพราะฉะนั้นใครก็ดีทั้งนั้น และขอแสดงความยินดีใครขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคก็ดีทั้งนั้น
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทยกับพรรคชาติไทยพัฒนาจับมือเป็นพันธมิตรกันทางการเมือง นายชาญชัย กล่าวว่า เรามองอย่างพรรคข้างบ้านว่าเขามีอุดมการณ์ร่วมกันหรือเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนก็ยินดีด้วย แต่ถ้าแสวงหาอำนาจเราก็ต้องติดตามดูว่าอะไรจะเกิดขึ้นว่ามีวัตถุประสงค์เพื่อผลประโยชน์หรือไม่ ส่วนพรรคเพื่อแผ่นดินจะจับมือกับใครจะต้องดูนโยบายตรงกันว่าเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยระบุว่ามีการจ่ายเงิน 8หลักแลกกับการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายชาญชัย กล่าวว่า เป็นเพียงข่าว ไม่เห็นมีใครเอามาให้ แต่ถ้าหลักการแล้วก็เป็นการทำหน้าที่ในการตรวจสอบฝ่ายบริหาร ซึ่งฝ่ายยื่นญัตติก็ทำได้ดี ฝ่ายตอบก็ตอบได้ดี ไม่รู้ใครถูกใครผิด แต่ที่รู้ตอนนี้สินค้าราคาแพงเกือบทั้งหมด
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 916 ครั้ง