นายกฯตรวจพื้นที่แหลมตะลุมพุก
วันที่ 30 มีนาคม สถานการณ์อุบัติภัยที่อ.เขาพนม จังหวัดกระบี่ นายสมบัติ มรกต นายกอบต.เขาพนม จ.กระบี่ เปิดเผยว่า เนื่องจากในพื้นที่มีน้ำท่วมสูงประมาณ 1-2 เมตร ทำให้ขณะนี้ยังไม่สามารถเข้าให้การช่วยเหลือชาวบ้านได้อีกจำนวนมาก โดยเฉพาะชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 7 และหมู่ที่ 10 ซึ่งได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากทั้งหมด 5 หมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านถูกตัดขาดความช่วยเหลือทั้งที่ต้องเร่งเข้าไปอพยพให้ออกมาจากพื้นที่อย่างเร่งด่วนแต่ก็ยังไม่ไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่ เบื้องต้นต้องรอให้สถานการณ์น้ำคลี่คลายระดับหนึ่งก่อน ส่วนผู้ที่สามารถออกมาจากพื้นที่ได้ทั้งหมดประมาณ 200-300 รายได้เข้าไปอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลืออย่างน้อย 2 จุด คือที่วัดเทพพนมและอาคารเอนกประสงค์ประจำหมู่บ้าน โดยมีเจ้าหน้าที่และชาวบ้านได้ร่วมกันจัดเตรียมเสบียงอาหารตลอดจนที่พักให้อยู่ชั่วคราว เนื่องจากชาวบ้านต้องหนีเอาตัวรอดโดยที่ส่วนใหญ่ไม่สามารถนำทรัพย์สิน และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆออกมาได้ทัน
“ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าที่โรงเรียนบ้านหน้าเขาซึ่งมีครูเข้าไปพักอาศัยอยู่ภายในบ้านพักครู ยังติดอยู่อีกหลายคน โดยล่าสุดยังไม่มีหน่วยงานใดเข้าช่วยเหลือ เบื้องต้นได้เร่งประสานให้เจ้าหน้าที่ทหารซึ่งมีอุปกรณ์และความพร้อมในการช่วยเหลือเข้าพื้นที่ในจุดที่ชาวบ้านเข้าไปไม่ถึงเพื่อเร่งอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะล่าสุดได้รับรายงานว่าพื้นที่หมู่ที่ 2 ตำบลเขาดิน ซึ่งมีบ้านเรือนราษฎรประมาณ 100 หลังคาเรือนระดับน้ำเริ่มไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนสูงมากกว่า 2 เมตร บางพื้นที่ระดับน้ำได้ทะลักท่วมจนมิดหลังคาแล้วหลายหลัง” นายสมบัติ กล่าว
นายกฯ ห่วงเขาพนม
ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการคุยโขมงบ่ายสามโมง ทางช่อง 9 ว่าบอกตอนนี้ เป็นห่วงเหตุดินโคลนถล่มที่ อ.เขาพนม จ.กระบี่มาก เร่งประสานหาที่อยู่ให้ประชาชนอยู่ในที่ปลอดภัย ถ้าจำเป็นให้อพยพปชช.ไปอยู่ในที่ปลอดภัยก่อน ตอนนี้เราเข้ามาดูแลเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว และในสัปดาห์หน้า หลักเกณฑ์ช่วยเหลือ จะนำเข้า คาม. และจะมีการพิจารณาและอนุมัติออกมาได้
เวลา 14.50 น. นายกฯและทีมงาน กำลังเดินทางไปที่ โรงพยาบาลท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช และด้วยภาระกิจที่เร่งด่วน นายกฯอภิสิทธิ์ต้องรับประทานอาหารข้าวกล่องบนขณะเดินทาง ก่อนที่จะบินกลับ กทม.ในช่วงเย็นวันเดียวกัน
อาคม สั่งลูกน้องลุยช่วย
นายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเหตุดินถล่มบริเวณพื้นที่หมู่ 7 บ้านต้นหาด ต.หน้าเขา อ.เขาพนม จ.กระบี่ เมื่อคืนวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านว่า บริเวณนั้นเป็นพื้นที่ที่มีภูเขาสูงที่สุดในจังหวัด เมื่อฝนตกหนักหลายวัน ดินที่อุ้มน้ำไว้หลายวันได้เกิดถล่มลงมาทับถมบ้านเรือนประชาชนหลายสิบหลัง ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดรายงานว่า ขณะนี้มีรายงานพบผู้เสียชีวิตแล้ว 1 คน มีชาวบ้านที่ยังติดต่อไม่ได้อีก 30 คน แต่คาดว่าน่าจะเสียชีวิตประมาณ 10 คน อย่างไรก็ตาม ตนคงยังไม่ลงพื้นที่ในช่วงนี้ แต่ได้กำชับให้ลูกน้องในพื้นที่จับตาอย่างใกล้ชิด
พบศพชาวบ้านแล้ว 10 ศพ
นายสุพจน์ ชนะกิจ นายอำเภอเขาพนม จ.กระบี่ เปิดเผยว่า จากการระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือช่วยบ้านในพื้นที่ประสบเหตุน้ำท่วมและดินสไลด์ในเขตพื้นที่ 3 ตำบล โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่ที่ 7 ตำบลหน้าเขาซึ่งเป็นจุดที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก เนื่องจากเป็นจุดแรกที่น้ำจากเขาพนมเบญจาไหลลงมาทับบ้านเรือนจนทำให้บ้านทั้งหลังจมหายไปกับสายน้ำจำนวนหลายหลังคาเรือน เบื้องต้นในการเข้าช่วยเหลือได้แบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ออกเป็น 2 ส่วน คือ ชุดที่เข้าค้นหาผู้สูญหายซึ่งล่าสุดพบศพชาวบ้านประมาณ 10 ศพซึ่งลอยมากับสายน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากจึงได้เข้าทำการเก็บกู้ศพมาไว้ที่ปลอดภัยเพื่อรอการตรวจสอบต่อไป
ในขณะนี้ที่กำลังเจ้าหน้าที่อีกชุดหนึ่งเข้าทำการช่วยเหลือชาวบ้านไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย เนื่องจากฝนยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดได้ตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือไว้ที่วัดเทพพนม และศาลาเอนกประสงค์ประจำหมู่บ้าน
“เป็นความเศร้าสลดใจอย่างมากกับอุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 10 ราย และเชื่อว่ายอดจำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเร็วมากทำให้ชาวบ้านไม่ทันตั้งตา โดยเฉพาะชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 10 ต.หน้าเขาซึ่งเป็นจุดแรกที่ถูกน้ำซัด ซึ่งขณะนี้ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปสำรวจและให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในส่วนของผู้ที่สูญหายเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจวว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่” นายสุพจน์ กล่าว
เตือนฝั่งตะวันตกฝนยังหนัก
ทำเนียบรัฐบาล นายวิทเยนทร์ มุตตามุระ รองผู้อำนวยการ ศูนย์ประสานการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย (ศชอ.) ศชอ. เป็นประธานการประชุม แถลงว่า สภาพอากาศ หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ยังคงปกคลุมบริเวณชายฝั่งจังหวัดกระบี่ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยในภาคใต้ฝั่งตะวันออก เริ่มจะมีปริมาณฝนลดลง จึงขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ยังคงต้องระวังอันตรายจากสภาวะ น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากต่อไปอีกในระยะนี้
รองผอ.ศชอ. กล่าวว่า ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทย และทะเลอันดามันสูง 2 – 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะ 1 – 2 วันนี้ไว้ด้วยสำหรับ บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และ ภาคตะวันออกมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป และมีลมแรง
นายวิทเยนทร์ กล่าวต่อว่า สำหรับพื้นที่เฝ้าระวัง ชุมพร ระนอง ภูเก็ต พังงา สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ตรัง กระบี่ และจังหวัดสตูล ระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ปริมาณน้ำฝน มีบริเวณที่มีฝนสะสมมากใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยมีน้ำป่าไหลหลากจากที่ลาดเชิงเขาเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำในหลายพื้นที่ ซึ่งได้แก่ นครศรีธรรมราช พังงา ตรัง และสุราษฎร์ธานี
รองผอ.ศชอ. กล่าวต่ออีกว่า สถานการณ์อุทกภัย สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค. 2554 ถึงปัจจุบัน มีพื้นที่ประสบปัญหาน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำล้นตลิ่ง 8 จังหวัด 80 อำเภอ 536 ตำบล 3,464 ทั้งนี้ มีหมู่บ้านที่ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 257,786 ครัวเรือน 716,110 คน ปรับข้อมูลลดลงจากเดิมให้ตรงตามที่จังหวัดได้ตรวจสอบในรายละเอียดแล้ว ได้แก่ จ.นครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฏร์ธานี ตรัง ชุมพร สงขลา กระบี่ และพังงา มีผู้เสียชีวิต 11 ราย (จ . นครศรีธรรมราช 7 ราย จังหวัดพัทลุง 1 ราย จังหวัดสุราษฎร์ธานี 3 ราย โรงพยาบาลท่าศาลาระดับน้ำลดแล้ว สามารถให้บริการผู้ป่วยโดยตั้งเต็นท์บริการหน้าโรงพยาบาลท่าศาลา สถานการณ์อ่างเก็บน้ำ ขณะนี้มีน้ำล้นอ่างเก็บน้ำ 7 แห่ง ได้แก่ ห้วยน้ำใส คลองกระทูน คลองดินแดง เสม็ดจวน (จ . นครศรีธรรมราช) ป่าพะยอม ป่าบอน(จ . พัทลุง) และคลองท่างิ้ว (จ . ตรัง)
นายกฯ ระหว่างเดินทางตรวจน้ำท่วม
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1484 ครั้ง