ดินถล่มทับ 3หมู่บ้านใน อ.สิชล ด้านรักษาการนายอำเภอสิชล เผยมีพื้นที่กว่า 10 จุดเสี่ยงดินถล่ม ด้าน กองทัพภาคที่ 4 ส่ง ฮ.ช่วยชาวบ้านที่ติดค้างในเหมืองนบพิตำ
นายเฉลิม เพชรรัตน์ รักษาการนายอำเภอสิชล จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า จากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้สวนยางพาราเสียหายกว่า 2 แสนไร่ ขณะที่ราษฎรได้รับความเดือดร้อนกว่า 70,000 คน จากที่มีอยู่ 87,000 คน โดยมีบ้านเรือนเสียหายกว่า 50 หลังคาเรือน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย
นอกจากนี้ จากการลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย โดยการเดินเท้าสำรวจของตำรวจตระเวนชายแดน และทหาร พบว่ามีพื้นที่กว่า 10 จุด ที่เสี่ยงต่อดินถล่ม โดยเฉพาะใน ต.เทพราช ต.สี่ขีด และ ต.เขาน้อย ที่มีความเสี่ยงต่อดินถล่มค่อนข้างสูง โดยในขณะนี้มีถนนเสียหาย และไม่สามารถเดินทางได้ 4 เส้นทาง และยอมรับว่าบางจุดยังเข้าไปให้ความช่วยเหลือไม่ได้ เพราะฝนตกหนัก
ทภ.4 ส่ง ฮ.ช่วยชาวบ้านที่ติดค้างในเหมืองนบพิตำ
พล.ต.เดชา กิ่งวงษา รองแม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยถึงการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยใน จ.นครศรีธรรมราช โดยในพื้นที่หมู่บ้านนบพิตำ มีคนงานเหมืองแร่และชาวบ้านติดอยู่ กว่า 100 ราย เนื่องจากมีชุมชนอยู่บริเวณเชิงเขาจำนวนหลายครัวเรือน แต่สามารถรวมตัวอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว และทางกองทัพบกได้เร่งนำเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงสิ่งของบริจาคกว่า 2,000 ชุด เข้าช่วยเหลือ พร้อมอพยพชาวบ้าน โดยเฉพาะคนท้อง คนชรา คนป่วย และเด็ก ออกมาก่อนได้จำนวนหนึ่ง และหากวันนี้สภาพอากาศเปิดก็จะนำเฮลิคอปเตอร์เข้าสำรวจพื้นที่อีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการสื่อสารยังคงติดต่อกันได้ แต่การคมนาคมเสียหายอย่างหนัก รวมถึงไฟฟ้าถูกตัดขาด แต่ทางกองทัพบกอยากให้ประชาชนมีกำลังใจ และยืนยันจะเร่งช่วยเหลืออย่างเต็มที่และทั่วถึง
ดินถล่มทับ3หมู่บ้านในสิชล
ร.ต.ท.ขวัญชัย มายะเฉียว ผบ.มร.กก.ตชด.42 ค่ายศรีนครินทรา อ.ทุ่งสง นครศรีธรรมราช ได้นำเจ้าหน้าที่ ดชด.เข้าให้การช่วยเหลือชาวบ้าน 3 หมู่บ้านที่ถูกโคลนถล่มจากภูเขา บริเวณ ม.13 และ ม.15 ต.เทพราช และ ม.10 ต.ฉลอง อ.สิชล นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่าง 3 หมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านต้องติดอยู่ในพื้นที่อยู่เป็นเวลานาน กระทั่งเจ้าหน้าที่เข้าให้การช่วยเหลือและอพยพออกจากบริเวณหมู่บ้านซึ่งอยู่ในเชิงเขา โดยเบื้องต้นกำลัง ตชด.ได้มอบถุงยังชีพเป้ฯการเบื้องต้น และทำการอพยพให้ชาวบ้านกว่า 400 คน ไปอาศัยอยู่กับชาวบ้านอีกหมู่บ้าน ที่ ม.8 ต.เสาเภา อ.สิชล ทั้งนี้บริเวณที่ดินโคลนถล่มนั้นไฟฟ้าถูกตัดมา 2-3 วันแล้ว ทำให้ไม่สามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้ กระทั่งมาเกิดดินโคลนถล่มดังกล่าว โชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิตและเจ็บ
อย่างไรก็ตามสำนักงาน คปภ. จังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมกับชมรมประกันวินาศภัย จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มีการจัดตั้ง ศูนย์รับแจ้งเหตุผู้ประสบภัยน้ำท่วม ด้านการประกันภัยขึ้น ณ สำนักงาน คปภ. จังหวัดนครศรีธรรมราช เลขที่ 86 หมู่ที่ 1 ถนนมะขามชุม-นาเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนครศรธรรมราช สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนที่เป็นผู้เอาประกันภัย ที่ทรัพย์สินได้รับความเสียหายจากภัยน้ำท่วม สามารถแจ้งเหตุได้ที่สำนักงาน คปภ. จังหวัดนครศรีธรรมราช เลขที่ 86 หมู่ที่ 1 ถนนมะขามชุม-นาเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช หรือ สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร.075-347322 , 081-1748941 หรือสายด่วนประกันภัย 1186.
ชุมพรอพยพคนจากพื้นที่เสี่ยง
นายพินิจ เจริญพานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ให้สัมภาษณ์ว่า ตอนนี้ฝนหยุดตกแล้ว เราก็ทำงานได้สะดวกมากขึ้น ประสานกันหลายหน่วย คิดว่าคงเอาอยู่ คาดว่าคงจะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ส่วนจุดที่ประกาศว่าเสี่ยงดินถล่ม อ.สวี หลังสวน ทุ่งตะโก พะโต๊ะ ก็อพยพคนออกมาหมดแล้ว ถ้าเกิดเหตุดินถล่มก็จะไม่มีคนอยู่แล้ว สำหรับตัวเลขผู้เสียชีวิตมี 2 คน คนหนึ่งมีปัญหาสติไม่สมประกอบ
“การที่ดินจะถล่มได้ต้องมีฝนตกต่อเนื่อง แต่ตอนนี้ยังไม่ให้ชาวบ้านกลับเข้าบ้าน ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูสถานการณ์ก่อนว่าปลอดภัยไหม อย่างพะโต๊ะเป็นจุดเสี่ยงมากเพราะมีภูเขาสูง สิ่งแรกที่เราทำคือเราก็ได้ไปขอร้องให้ชาวบ้านย้ายบ้านไปอยู่นอกจุดเสี่ยง ซึ่งเราได้ทำตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว คือเริ่มทยอยให้คนย้ายบ้านออกมาจากจุดเสี่ยงตั้งแต่ปีที่แล้ว” นายพินิจ กล่าว
นายพินิจ กล่าวอีกว่า ในส่วนของมิสเตอร์เตือนภัยยังทำหน้าที่ได้ดี สังเกตุได้คือที่ชุมพรจะไม่มีการเสียชีวิตจากดินถล่ม เพราะชาวบ้านเชื่อจังหวัด เมื่อมีเจ้าหน้าที่ขอร้องก็ยอมย้าย และมีหลายหลังที่ยอมย้ายบ้านออกมาจากจุดเสี่ยงเลย มั่นใจว่าไม่มีจุดที่ตกสำรวจ ส่วนเส้นทางสายหลักของชุมพรไม่มีปัญหา รถวิ่งได้ตลอด
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1576 ครั้ง