นายสักระพี พรหมชาติ พราหมณ์เสื้อแดงที่มาทำพิธี กล่าวว่า เป็นการทำพิธีอัปมงคลให้ครม.ชุดนี้ และประเทศชาติซิบหาย รวมทั้งทุก ๆ คนในประเทศด้วย ไม่เว้นแม้แต่ตัวพราหมณ์เองด้วย แต่ทางแก้ผู้กระทำจะต้องมาแก้พิธีเอง โดยใช้นางรำและเท้ามหาพรหม ซึ่งการทำพิธีครั้งนี้ทำในประตูหลัก 2 ประตูคือประตูทางเข้าและทางออก ซึ่งไม่ได้ระบุชื่อใคร แต่ใช้คำว่าคณะผู้บริหารบ้านเมืองและอำมาตย์ อย่างไรก็ตาม ถ้ารัฐบาลยุบสภาในวันนี้ พรุ่งนี้ ตนจะมาทำพิธีแก้ด้วยตนเอง ทั้งนี้ ก่อนจะมาทำพิธี ตนได้ปรึกษาพ่อ ซึ่งเคยเป็นพราหมณ์ในพระราชวัง แต่พ่อบอกว่าการทำพิธีดังกล่าว ไม่ได้เป็นผลดีกับใครเลยในประเทศชาติ และการทำพิธีด้วยธูปดอกเดียวก็เหมือนเป็นการไหว้คนตาย
ขณะที่นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า รัฐบาลไม่มีนโยบายแก้เคล็ดหรือมีพิธีใด ๆ มีเพียงแต่นโยบายด้านการสาธารณสุข
ด้านพระราชครูวามเทพมุนี แห่งเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ ผู้นำคณะพราหมณ์ประจำสำนักพระราชวัง กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงได้ประกอบพิธีด้วยการนำเลือดป้ายบริเวณเสาและประตูทางเข้า-ออกทำเนียบรัฐบาล ในระหว่างการเทเลือดที่รวบรวมจากผู้ชุมนุม ว่า เชื่อว่าการกระทำดังกล่าว อาจจะทำให้คนเข้าใจว่าเป็นพิธีทางพราหมณ์ ด้วยผู้ประกอบพิธีสวมใส่ชุดมีลักษณะคล้ายชุดพราหมณ์
ข้อเท็จจริงในการประกอบพิธีทางพราหมณ์ในปัจจุบัน นิยมประกอบพิธีเพื่อความเป็นสิริมงคลเท่านั้น แต่การกระทำพิธีที่ทำเนียบรัฐบาล ไม่จัดว่าเป็นพิธีมงคล เพราะใช้เลือดเป็นสื่อในการทำพิธี ดังนั้น อาจเชื่อได้ว่าพิธีที่กลุ่มคนเสื้อแดงได้กระทำนั้น ไม่ใช่พิธีพราหมณ์ที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ในอดีตเคยมีการประกอบพิธีพราหมณ์เพื่อหวังผลในทางไสยศาสตร์หรือเป็นมนต์ดำ แต่ยุคปัจจุบันไม่ได้รับการยอมรับแล้ว
ที่จังหวัดเชียงหใม่ เวลา 16.40 น. พระครูสุเทพสิทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่นำคนเสื้อแดง ประมาณ 80 คนเดินทางโดยขบวนรถยนต์ซึ่งมีรถเครื่องขยายเสียงและมีธงสีแดงปักเป็นสัญลักษณ์กว่า 10 คัน เดินทางไปยังอนุสาวรีย์ค่ายกาวิละ ซึ่งอยู่ด้านหน้าฝั่งตรงข้ามกับมณฑลทหารบกที่33ค่ายกาวิละ จ.เชียงใหม่ โดยประกาศผ่านวิทยุคนเสื้อแดง แจ้งว่าจะนำเลือดที่คนเสื้อแดงร่วมบริจาคที่หน้าโรงแรมวโรรสแกรนด์พาเลซ ไปประกอบพิธีสังเวยพระเจ้ากาวิละ
เมื่อขบวนกลุ่มคนเสื้อแดงมาถึง ฝ่ายเจ้าหน้าที่ประกอบด้วยสารวัตรทหารประมาณ 40 นาย และตำรวจอีกบางส่วน ได้เตรียมกำลังตั้งแนวปิดกั้นที่บริเวณทางเข้าประตูค่ายและยืนกระจายจุดรักษาความปลอดภัยโดยรอบบริเวณ คหน้าค่ายทหาร จากนั้นส่ง พ.อ.นเรศร์ จิตรักษ์ นายทหารจาก มณฑลทหารบกที่33 ค่ายกาวิละจ.เชียงใหม่ ซึ่งปกติเป็นที่รู้จักมักคุ้นของพระสงฆ์เป็นอย่างดีเข้าไปเจรจากับพระครูสุเทพสิทธิคุณ ขอร้องไม่ให้นำเลือดไปราดลดสังเวยพระเจ้ากาวิละเพราะเป็นเรื่องไม่ควร
เบื้องต้นพระครูสุเทพสิทธิคุณ มีท่าทีสงบนิ่งรับปากว่าจะไม่ทำเช่นนั้น สอดคล้องกับ นายแดง สองแคว ดีเจวิทยุชุมชนแกนนำที่ประกาศระดมคนมาร่วมวันนี้ซึ่งกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า คนเสื้อแดงเพียงแต่ยกขบวนกันมาเพื่อจะมากราบไหว้สักการะพระเจ้ากาวิละ จากนั้นจึงจะเคลื่อนขบวนโดยจะแห่เลือดที่บริจาคได้จากเสื้อแดง 757 คน คนละ 10 ซีซี รวมเป็น 757 ซีซี วนไปรอบเมือง และจะไปจบกิจกรรมด้วยการนำเลือดไปเทลงพื้นในสุสานหายยาเพื่อแก้ขึด
แต่เวลาผ่านไปประมาณ 30 นาที พระครูสุเทพสิทธิคุณ ได้ยืนเพ่งพระอาทิตย์และนำกลุ่มคนเสื้อแดง กราบไหว้อนุสาวรีย์พระเจ้ากาวิละ และมีการสวดมนต์นำมวลชนได้พักใหญ่ กระทั่งสมาชิกคนเสื้อแดงรายหนึ่งได้แจ้งกับแกนนำว่าเลือดมาถึงแล้วพร้อมกับนำเอาแกลลอนพลาสติกขนาด 5 ลิตร ภายในมีเลือดสดๆอยู่เกือบเต็มเดินเข้ามาที่ช่องทางเข้าอนุสาวรีย์พระเจ้ากาวิละ ที่กลุ่มเสื้อแดงส่วนใหญ่นั่งกราบไหว้กันอยู่
ขณะเดียวกันสารวัตรทหาร 3-4 นาย จึงได้เข้าไปเจรจาและยืนกันไว้ว่าไม่ให้นำเข้ามา แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อ พระครูสุเทพสิทธิคุณ ได้เดินตรงเข้ามาคว้าแกลลอนเลือดดังกล่าว จากนั้นพยายามจะเดินรี่เข้าไปยังอนุสาวรีย์พระเจ้ากาวิละ
เจ้าหน้าที่จึงพยายามเข้าไปสกัดกั้นร้องขอแต่พระครูสุเทพสิทธิคุณ ไม่เชื่อฟังพร้อมกับตะโกนลั่นว่าอย่าขวาง จากนั้นได้ได้เขย่าแกลลอนเลือดและสาดเทเลือดในแกลลอนออกมาอย่างเต็มแรงเข้าไปใส่เจ้าหน้าที่ เพื่อเปิดทางเร่งเดินไปยังอนุสาวรีย์ที่อยู่ห่างประมาณ 15 เมตร ส่งผลให้สารวัตรทหารถูกเลือดสาดเข้าไปบริเวณหน้าและลำตัว2-3 คน
จากนั้นพระครูสุเทพสิทธิคุณ ได้เดินตรงไปเทเลือดจำนวนหนึ่งจากแกลลอนลงไปยังกระถางธูปที่ตั้งอยู่หน้าอนุสาวรีย์ทั้งซ้ายขวา ท่ามกลางการโห่ร้องของกลุ่มคนเสื้อแดงและประกาศว่าพิธีการสำเร็จ จากนั้นได้เรียกกลุ่มมวลชนขึ้นรถกลับ โดยหอบเลือดที่เหลืออีกค่อนแกลลอนออกเดินทางแห่ไปรอบเมืองต่อ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ใช้กำลังสกัดแต่ปล่อยให้กลุ่มเสื้อแดงเคลื่อนขบวนออกไป
พ.อ.นเรศร์ จิตรักษ์ นายทหารจาก มณฑลทหารบกที่33 ค่ายกาวิละ จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางเลขาฯเจ้าคณะจังหวัดได้โทรศัพท์เข้ามาพอดี และตนได้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้รับทราบ และเสนอให้เจ้าคณะจังหวัดเร่งนิมนต์พระครูสุเทพสิทธิคุณ ที่ก่อเหตุไปทำการสอบสวน โดยเสนอให้สงฆ์ตั้งคณะกรรมการสอบพระวินัยอย่างเร่งด่วน เพราะมองว่าหากปล่อยไว้อาจมีพฤติกรรมที่บานปลาย
“ที่ทหารต้องขอความร่วมมือไม่ให้พระท่านนำเลือดมาเทสักการะพระเจ้ากาวิละนั้น เนื่องจากมองว่าเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง และได้แจ้งกับพระครูสุเทพสิทธิคุณ ไว้แล้วว่า แม้จะเป็นเลือดที่ผู้ชุมนุมอ้างว่าได้มาจากการเสียสละก็ตามที แต่การนำเลือดไปถวายพระปฐมกษัตริย์นั้นเชื่อว่าพระองค์ท่านคงโทมมนัสมากกว่า และขอให้สงสารท่านที่จะต้องรับการบูชาเลือดและเกิดความไม่สบายใจที่ลูกหลานทะเลาะกัน”พ.อ.นเรศร์ กล่าว
ด้าน พล.ต.ชานุกร ตัณฑโกศล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่33 กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่า การกระทำของพระรูปดังกล่าวนั้นเข้าข่ายผิดกฎหมายใดหรือไม่ ซึ่งหากพบว่าผิดก็จะแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะในทางธรรมแล้วถือว่าพระท่านมิจฉาทิฐิ
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 2320 ครั้ง