“เทือก” หมดความอดทน! ย้ำ ” ทักษิณ” สั่งโจมตีสถาบัน จวกตีสองหน้า วางแผนเผื่อไว้หากเพื่อไทยแพ้เลือกตั้ง ขณะที่ “ธาริต” ยื่นถอนประกัน 9 แกนนำแดงจันทร์นี้ พร้อมจ่อเรียกอีก 18 เข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูงวันที่ 15 เมษายน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ออกมายืนยันอีกครั้งว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศเป็นผู้อยู่เบื้องหลังและสั่งการให้โจมตีองคมนตรี นายกรัฐมนตรี และกระทำเรื่องอันไม่สมควร
“วันนี้ขออย่างเดียวคือหยุดกระทำในสิ่งไม่สมควร และไม่ต้องตีสองหน้า ให้ลูกน้องออกมาทำในเรื่องไม่สมควร แต่คนเห็นกันทั้งเมือง การออกมาทำเป็นขอร้องฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ถือว่าตีสองหน้าชัดเจน”
นายสุเทพกล่าวว่า สมควรประณามจริงๆ มันเป็นเรื่องที่ไม่สมควรกระทำ แต่กลับกระทำกัน อยากถามว่าทำไปทำไม หากจะหาเสียงก็หาเสียงไป มีเรื่องอื่นเยอะแยะที่จะพูด แต่สิ่งที่กระทำออกมานั้นมันทำร้ายจิตใจคนไทย
เขากล่าวด้วยว่า ก็นายกฯ บอกว่าจะยุบสภาไม่เกินวันที่ 7 พ.ค. ทุกพรรคก็ควรเตรียมตัวเลือกตั้งและหาเสียงตามระบอบประชาธิปไตย ทำไมต้องไปหาเรื่องกองทัพหรือกระทำสิ่งไม่สมควร หรือต้องการสร้างกระแสเป็นเครื่องมือปลุกระดมประชาชนว่ากองทัพคิดปฏิวัติ ฉะนั้นประชาชนต้องลุกขึ้นมาร่วมต่อต้านการปฏิวัติด้วยกัน ทั้งหมดเป็นการกระทำที่มีแผนแยบยล ไม่ตรงไปตรงมา
อย่างไรก็ตาม เราจะเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งแน่นอน ยกเว้น นปช.จะลุกขึ้นดำเนินการอย่างที่เคยทำเมื่อสองปีที่แล้วคือเผาบ้านเผาเมืองอีกแต่ตอนนี้เราพยายามทำให้บรรยากาศเดินเข้าสู่การเลือกตั้ง และตนไม่ทราบว่า นปช.มีจุดประสงค์ใด แต่พยายามมองทุกอย่างในแง่ดีไว้ก่อน
“ผมคิดว่าบริวารของ พ.ต.ท.ทักษิณทำหลายเรื่องไปพร้อมๆ กัน ทางหนึ่งโหมกระแสเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง อีกทางก็กระทำเผื่อไว้ว่าหากพรรคแพ้จะทำอย่างไร และอีกทางหนึ่งคือดำเนินการนอกสภาควบคู่กัน”
เมื่อถามว่า พรรคฝ่ายค้านวิจารณ์ว่ารัฐบาลโหมเรื่องการหมิ่นสถาบัน แทนที่จะปล่อยให้ตำรวจดำเนินการ และไม่ควรให้ข่าวใส่ร้ายกันไปมา นายสุเทพกล่าวด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์ว่า “ทำไม ผมเป็นคนไทยจะต้องยอมให้คุณทักษิณทำร้ายพวกผม คนไทยทั้งประเทศฝ่ายเดียวหรืออย่างไรคนอื่นต้องอดทนกับคุณทักษิณไปถึงไหนนักหนา”
นพเหล่ปฏิเสธแทนแม้ว
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวกรณีนายสุเทพระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้สั่งการเกี่ยวกับการหมิ่นสถาบันว่าเรื่องนี้ปฏิเสธโดยสิ้นเชิง เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้สั่งการให้ใครไปจาบจ้วงสถาบัน ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณก็ทวิตเตอร์มาแล้วว่าสถาบันอยู่เหนือการเมือง และทุกฝ่ายไม่ควรนำสถาบันมาโจมตีและทำลายกันทางการเมือง
“ดังนั้นข้อกล่าวหาของนายสุเทพและพรรคประชาธิปัตย์จึงเป็นการใส่ร้ายป้ายสีเพื่อหวังผลทางการเมืองเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของพรรคเพื่อไทย”
นายนพดลกล่าวต่อว่า เพราะในการเลือกตั้งทั่วไปทุกครั้งที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยชนะพรรคไทยรักไทย และพรรคที่ พ.ต.ท.ทักษิณ สนับสนุนอยู่ได้จึงเลือกใช้วิธีที่ตนเองถนัด ก็คือการใส่ร้ายป้ายสีกันทางการเมือง ซึ่งวิธีการนี้มีการทำกันมานานแล้ว อยากถามว่าในอดีตมีใครไปตระโกนในโรงหนังว่า ปรีดีฆ่าในหลวง หรือกล่าวหาจำลองพาคนไปตาย ทำเพื่อหวังผลทางการเมืองทั้งสิ้น
เขากล่าวว่า นอกจากนี้พรรคประชาธิปัตย์กำลังจะโฆษณาชวนเชื่อ ว่าถ้าเลือกพรรคเพื่อไทยจะเกิดความขัดแย้งกันทางการเมืองตามมา ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย เพราะพรรคเพื่อไทยมีนโยบายที่จะแก้ปัญหาข้าวยากหมากแพงและความขัดแย้งในสังคมอย่างชัดเจน แต่ที่บ้านเมืองมีความแตกแยกก็เพราะมีคนบางกลุ่มไม่ยอมรับการตัดสินใจของประชาชนและทำการยึดอำนาจตั้งแต่ปี 2549 และมีการออกคำสั่งคณะรัฐประหารเพื่อหวังกำจัดศัตรูทางการเมืองของตน
นักวิชาการชมทหารทำดี
นายปกรณ์ ปรียากร อดีตคณบดีคณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงและกลุ่มนักวิชาการต่างๆ อย่างนายใจ อึ๊งภากรณ์ นักเคลื่อนไหวทางวิชาการและการเมืองสัญชาติไทย-อังกฤษ กลุ่มมหาลัยเที่ยงคืน พยายามจะดึงสถาบันมายุ่งกับการเมือง โดยอ้างว่ามาตรา 112 เป็นการละเมิดสิทธิ์ในการแสดงออกนั้น ตรงนี้เป็นสิ่งที่ตนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง และเชื่อว่าคนไทยอีก 90% ก็ไม่เห็นด้วย
นักวิชาการมองต่างมุม 112
“จากกรณีที่ทหารพระธรรมนูญไปยื่นฟ้องนายจตุพรและพวกต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ ที่ผ่านมาถือว่าเป็นการกระทำที่น่าชมเชย แต่อยากจะขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการทำคดีนี้ ให้เร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อให้มีความชัดเจนให้แก่สังคมต่อไป” นายปกรณ์กล่าว
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 894 ครั้ง