ชายแดนไทย-กัมพูชายุติแล้ว หลังปะทะนาน 5 ชั่วโมง อพยพประชาชนออกจากพื้นที่วุ่น! พบทหารไทย เจ็บ 9 นาย เสียชีวิต 2 นาย -นายกฯกำชับดูแลประชาชน
เกิดการยิงปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา เสียงปืนใหญ่ดังสนั่น ทางกลุ่มปราสาทตาเมือน และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ตั้งแต่เวลาประมาณ 06.00 น.
รายงานเบื้องต้นระบุ กระสุนปืนใหญ่ของกัมพูชาตกลงในหมู่บ้าน จึงได้มีการอพยพชาวบ้านไทยสันติสุข ต.บักได อ.พนมดงรัก ไปยังบ้านตาลวก ต.บักได ขณะที่ชาวบ้านรายงานว่า เห็นทหารไทยบาดเจ็บ 3-4 นาย
ขณะเดียวกัน บริเวณช่องกร่าง ต.บักไดจุดที่อยู่ใกล้ที่สุดเพียง 4-5 กิโลเมตร บริเวณใกล้ปราสาทตาควาย เสียงปืนมใหญ่ดังมากจนถึงเวลา 07.30 น.การยิงโต้ตอบกันยังดำเนินต่อไป
ทั้งนี้มีประกาศจากเสียงตามสายขององค์การบริหารส่วนตำบลบักได อ.พนมดงรัก ว่าทหารกัมพูชาเปิดฉากยิงใส่ทหารไทย จึงเกิดการยิงตอบโต้ พร้อมให้ประชาชนตามแนวชายแดนเตรียมพร้อมด้านอพยพถ้าจำเป็น และเรียกระดม อปพร.ประจำหมู่บ้านตำบลให้รับทราบสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
ด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก เปิดเผยความคืบหน้าว่า เหตุดังกล่าวมีจริง โดยเกิดการยิงปะทะตั้งแต่เวลา ประมาณ 06.45 น. โดยมีการยิงปืนเล็กและได้ยินเสียงปืนใหญ่มาเป็นระยะ โดยจุดที่เกิดเหตุยังไม่ยืนยันว่า เป็นจุดภายในปราสาทตาเมือนธม หรือไม่ ซึ่งแม่ทัพภาคที่ 2 เจ้าของพื้นที่ ได้รับทราบรายงานแล้ว และได้แจ้งให้ประชาชนที่อาศัยย่านดังกล่าวเตรียมพร้อมอพยพ แต่ขณะนี้ยังไม่มีแผนอพยพประชาชน
ทั้งนี้ ยังไม่มีรายงานความสูญเสีย เนื่องจาก เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถ เข้าพื้นที่ได้ อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ทางด้านแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ ก็มีประชาชนได้ยินเสียงปืนใหญ่และระเบิด เช่นกัน ซึ่งยังไม่มีเจ้าหน้าที่ ออกมายืนยันเหตุดังกล่าวได้ ส่วนความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
ทางด้านพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ ผบช.ตชด. สนับสนุนการปฏิบัติของทหารอย่างใกล้ชิด และให้ความช่วยเหลือดูแลความปลอดภัยของประชาชนเป็นอันดับแรก
รายงานล่าสุดว่า เมื่อเวลาประมาณ 07.35 น. ทหารกัมพูชา ได้ยิงปืนใหญ่ กระสุนตกมายังข้าง สภ.พนมดงรัก ในพื้นที่อีก 1 ลูก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบความเสียหาย โดยล่าสุด ทางนายอำเภอพนมดงรัก ได้ทำการอพยพประชาชนที่อาศัยตามแนวชายแดนออกนอกพื้นที่แล้ว
ด้าน กระทรวงสาธารณสุข รายงานผู้บาดเจ็บจากเหตุปะทะที่เกิดขึ้น เป็นทหาร 9 นาย จำนวนนี้สาหัส 7 นาย ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลปราสาท และโรงพยาบาลสุรินทร์ เนื่องจากโรงพยาบาลพนมดงรักอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุมากเกินไป ขณะเดียวกันยังได้สั่งการให้โรงพยาบาลใน จ.สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี เตรียมพร้อม ทั้งการสำรองเลือด ยา และเวชภัณฑ์ รวมถึงห้องผ่าตัด และให้ประสานศูนย์กลางหากต้องการความช่วยเหลือ ทั้งนี้ มีรายงานว่า ทหารไทยเสียชีวิตแล้ว 1 นาย คือทหารพรานบุญฤทธิ์บัวงาม สังกัด ร้อยทหารพราน 2606
ล่าสุดเหตุการณ์ะปะทะได้ยุติลงแล้ว เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.
นายกฯ สั่งดูแลประชาชน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนได้รับทราบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทย-กัมพูชา บริเวณชายแดน จ.สุรินทร์ แล้ว และได้มีการประสานมาว่าขณะนี้เหตุการณ์ได้ยุติแล้ว และอยู่หว่างการตรวจสอบรายละเอียดและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่าเป็นอย่างไร และได้สั่งการให้นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ไปดูแลประชาชนที่มีการอพยพออกนอกพื้นที่ปะทะ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นต้องเน้นย้ำว่าการตรึงกำลังของทหารที่อยู่ใกล้กันถ้ามีการเคลื่อนไหว ก็อาจจะเกิดเหตุปะทะขึ้นได้ แต่ในส่วนของไทยไม่มีเจตนาที่จะไปดำเนินการอะไรก่อนอย่างแน่นอน
ก่อนหน้านี้ นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานเรื่องเหตุการณ์ปะทะที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ จ.สุรินทร์ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาแล้ว โดยได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยแก่ราษฎรในพื้นที่ให้มากที่สุด พร้อมมอบหมายให้นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ชี้แจงเรื่องดังกล่าวต่อนานาชาติด้วย
“ท่านนายกฯ ได้รับรายงานแล้ว และกำชับให้ดูแลความปลอดภัยของชาวบ้านอย่างเต็มที่” นายปณิธาน กล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้อพยพชาวบ้านออกมาจากพื้นที่เกิดเหตุแล้ว ส่วนในจุดเกิดเหตุนั้นทราบว่าเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้ และได้รับรายงานว่ามีทหารไทยบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดให้ชัดเจน
ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยว่า ยังไม่ได้รับทราบรายงานที่ชัดเจนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีสาเหตุจากอะไร แต่มีโอกาสอาจจะเกิดจากอุบัติเหตุขึ้นได้ เพียงแต่จะรอฟังรายงานจากทางแม่ทัพภาคที่ 2 ในช่วงสายวันนี้ก่อน
“ยังรอดูสถานการณ์ ยังไม่ทราบรายละเอียด จะขอรอคุยกับแม่ทัพภาค 2 ก่อน เหตุปะทะเป็นอาวุธขนาดเล็ก ซึ่งมีโอกาสจะเป็นอุบัติเหตุได้” นายสุเทพ กล่าวฃ
รองนายกฯ ยืนยันว่า ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามลดความตึงเครียด บริเวณแนวชายแดน แต่เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นก็ขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1410 ครั้ง