ผิดหวัง! อัยการให้ประกันตัว สุภรณ์-พายัพ-ชินวัฒน์ วางหลักทรัพย์คนละ 6 แสน หลังเจอดีเอสไอยื่นถอนประกัน ขณะที่อัยการนัดฟังยื่นศาลพิจารณาถอนประกันหรือไม่ 19 พ.ค.
เมื่อเวลา 10.30 น. นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ นายพายัพ ปั้นเกตุ และนายชินวัฒน์ หาบุญพาด แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อร้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้เดินทางมายังสำนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ เพื่อยื่นหนังสือขอปล่อยตัวชั่วคราวพร้อมหลักทรัพย์คนละ 6 แสนบาท หลังจากที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ยื่นเรื่องขอถอนประกันในชั้นสอบสวน เนื่องจากทำผิดเงื่อนไขประกันตัว
ต่อมาในเวลา 12.00น. อัยการฝ่ายคดีพิเศษ ได้อนุญาตให้ทั้ง 3 คนได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว โดยยื่นเงื่อนไขว่า ห้ามชุมนุมโดยผิดกฏหมาย ห้ามออกนอกประเทศ ห้ามยุยงปลุกปั่น และห้ามยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน
นายสุภรณ์ กล่าวว่า การชุมนุมเมื่อวันที่10เม.ย.เป็นการไปร่วมตามมาตรา ม.63 ของรัฐุธรรมนูญ ว่าด้วยสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบอย่างแท้จริง ไม่ได้ยั่วยุโจมตีแต่อย่างใด ซึ่งวันนี้มาแสดงความบริสุทธ์ใจและยินดีเข้าสู่กระบวนการสอบสวนของอัยการต่อไป
ทั้งนี้อัยการได้นัดฟังคำสั่งว่าจะมีความเห็นยื่นคำร้องขอถอนประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ต่อศาลอาญาหรือไม่ในวันที่ 19 พ.ค.นี้
เบื้องต้น พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ อนุญาตให้ประกันตัวนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน นายพายัพ ปั้นเกตุ และนายชินวัฒน์ หาบุญพาด 3 แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ผู้ต้องหาในคดีก่อการร้าย โดยตีราคาประกันคนละ 600,000 บาท ยกเว้นนายชินวัฒน์ ที่ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ โดยวางเงื่อนไขการให้ประกันตัว ห้ามผู้ต้องหาเข้าร่วมชุมนุมในลักษณะยั่วยุ ปลุกปั่นประชาชนให้กระทำผิดกฎหมาย ห้ามยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ
ขณะที่นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธาน นปช.กล่าวว่า การชุมนุมของกลุ่มนปช. ถูกต้องและเป็นการส่งสัญญาที่ดี ว่ามีสิ่งที่ไม่ถูกต้องในสังคมไทย เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง ส่วนพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ออกหมายเรียกแกนนำ นปช.ทั้ง 18 คน ให้มารายงานตัว หลังเข้าร่วมการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา และมีการกล่าวปราศรัยในลักษณะหมิ่นสถาบัน ซึ่งขณะนี้แกนนำทุกคนได้รับหมายเรียกแล้ว และพร้อมที่จะเข้ารายงานตัวเพื่อยืนยันว่าเป็นการชุมนุมตามกฎหมาย
“คำพูดทั้งหมดของ นายจตุพร พรหมพันธ์ สส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย เป็นการเตือนว่าอย่าใช้กำลังทำร้ายประชาชน เป็นข้อกล่าวหาที่เป็นสัญญาณที่คล้ายกับเหตุการณ์ 6ต.ค.”นางธิดา กล่าว
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1282 ครั้ง