วันที 25 เมษายน นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ไม่มาร่วมงานเปิดนโยบายและผู้สมัครส.ส.พรรคนั้น ขณะนี้ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่ไปงานต่างจับตาดูและวิพาษณ์วิจารณ์ว่าเมื่อเป็น ส.ส.และเป็นผู้ใหญ่ของพรรคเมื่อไม่มาก็ทำให้อดคิดตามกระแสที่จะไปร่วมตั้งพรรคใหม่กับนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช และพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตที่ประธานพรรคเพื่อไทยไม่ไดเ เพราะก่อนหน้านี้ก็มีกระแสข่าว ส.ส.บางกลุ่มของพรรคเพื่อไทยได้ไปหารือกับนายเสนาะ จึงขอฝากไปถึงนายมิ่งขวัญและส.ส.กลุ่มดังกล่าวด้วยว่า หากต้องการตั้งพรรคใหม่ขอให้จากกันด้วยดี อย่าเล่นเกมสกปรกใช้วิธีย้ายกันออกไปในวันสุดท้ายของวันสมัครรับเลือกตั้ง ขอให้มีน้ำใจนักกีฬา ขออวยพรและแสดงความยินดีให้นายมิ่งขวัญที่เป็นผู้มีความสามารถ และสามารถตั้งพรรคใหม่โดยไม่มีปัญหา ประสบผลสำเร็จ พรรคเพื่อไทยไม่ไล่ออกจากพรรค แต่ขออวยพรให้ และเมื่อตั้งพรรคใหม่แล้วอย่าลอกนโยบายของพรรคเพื่อไทยไปทั้งดุ้น ขอให้คิดนโยบายเอาเอง จะได้จากกดันด้วยดีในฐานะความเป็นเพื่อนส.ส.ด้วยกัน
นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า ส.ส.ภาคเหนือและภาคอีสานได้เตรียมการจัดปราศรัยใหญ่ตามหัวเมืองหลักของภาค โดยวันที่ 30 เม.ย.ในช่วงเย็นจะเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่จ.เชียงใหม่ ซึ่งจะมีส.ส.ภาคเหนือทุกคน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ แกนนำนปช. มาร่วมขึ้นเวทีด้วย โดยคาดว่ามีประชาชนให้ความสนใจมาร่วมฟังประมาณ 5 หมื่นคน นอกจากนี้ในวันเดียวกันก็จะมีเวทีปราศรัยที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งจะมีส.ส.ภาคอีสานทุกคน พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. และ ส.ส.สัดส่วน ขึ้นเวทีปราศรัย คาดว่าจะมีประชาชนมาฟังกว่า 2 แสนคน โดยพรรคจะใช้ระบบเทคโนโลยีไอทีเชื่อมโยง 2 เวทีเข้าด้วยกัน และติดตั้งจอโปรเจกเตอร์เป็นจุดๆตามบริเวณเวทีปราศรัย หากเวทีเชียงใหม่ปราศรัยจะถ่ายทอดสดมายังเวทีปราศรัยที่ขอนแก่น เมื่อถึงคิวเวทีขอนแกนปราศรัยจะถ่ายทอดสดไปยังเวทีปราศรัยเชียงใหม่ เพื่อให้ประชาชนได้สัมผัสบรรยากาศกับแกนนำปราศรัยทั้ง 2 เวที งานนี้จะมีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ วีดิโอลิงค์มาแนะนำนโยบายด้วย ทั้งนี้ต่อไปจะพัฒนาเป็นเปิดเวทีปราศรัยจุดเดียว แต่เชื่อมโยงเวทีปราศรัย 10-20 จังหวัดพร้อมกัน ประชาชนจะได้สัมผัสบรรยากาศปราศรัยได้พร้อมกันเลยทีเดียว
ส่วนกรณีที่พรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามมองว่าพ.ต.ท.ทักษิณแนะนำนโยบายจะเป็นสาเหตุนำไปสู่การยุบพรรคเพื่อไทยนั้น นายสุรพงษ์กล่าวว่าเราไม่กลัวการยุบพรรค หากยุบได้ก็ตั้งใหม่ได้ และกรณีของพ.ต.ท.ทักษิณไม่ขัดต่อกฎหมายเลือกตั้งแน่นอน เพราะแค่แนะนำนโยบายเท่านั้น ไม่เหมือนกรณีที่ตนยื่นให้กกต.ตรวจสอบที่นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทยสวมกอดกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อร่วมจัดตั้งรัฐบาล มีความผิดชัดเจน แต่เหตุใดไม่ถูกยุบพรรค
ด้านพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีตแกนนำพรรคเพื่อแผ่นดิน(พผ.) เดินทางไปสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย(พท.)แล้ว ท่ามกลางการต้อนรับจากแกนนำพรรค นำโดยนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค รวมทั้งบรรดานายทหาร ตท.10 ที่เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยก่อนหน้า นำโดย พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี
พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า วันนี้มาสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยเท่านั้น แต่หลังจากนี้ค่อยว่ากันอีกที
ส่วนที่มีข่าวว่าถูกวางตัวเป็นผู้นำเบอร์ 1 ของพรรคเพื่อไทย พล.ต.อ.ประชา กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น ทั้งนี้ยังปฏิเสธที่ตอบคำถามด้วยว่า พร้อมจะเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีคนใหม่หรือไม่
ด้านพล.อ.อ.สุเมธ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.ประชา เป็นคนประนีประนอมเหมาะสมกับเป็นผู้นำ และเคยถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้ว
ขณะที่ นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า พล.ต.อ.ประชา เป็นคนใจเย็น ประนีประนอม แต่ทั้งหมดยังไม่ตัดสินว่าพรรคจะเลือกใคร
ส่วนนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า การที่พรรคเพื่อไทย ดึงพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก มาเป็นสมาชิกใหม่ น่าจะเป็นการทดแทนกระแสความนิยม เพราะขณะนี้ท่าทีของสมาชิกพรรคเพื่อไทยนั้นชัดเจนว่าไม่ต้องการให้พล.อ.ชวลิตอยู่ในพรรคต่อไป รวมถึงนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ สส.สัดส่วนพรรค ที่อ้างว่าพิมพ์ชื่อตก และไม่มีเหตุผลเพียงพอ นอกจากนี้จะเห็นท่าทีนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล สส.เชียงใหม่ ออกมาอวยพรขอให้นายมิ่งขวัญประสบความสำเร็จในการตั้งพรรคใหม่ แสดงให้เห็นถึงว่ายังมีแรงกระเพื่อมอยู่
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1167 ครั้ง