กองทัพภาคที่ 2 แฉ เขมรพยายามเข้าปราสาทตาควาย ใช้เป็นโล่กำบัง ยืนยันมีกำลังเพียงพอ สธ. เผย มีทหารบาดเจ็บเพิ่มอีก 10 นาย
พ.อ.ประวิทย์ หูแก้ว โฆษกกองทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงสถานการณ์การปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา ว่า เมื่อคืน 03.20น. มีการปะทะกันอีก และยุติเมื่อเวลา 5.00น.ที่ผ่านมา ตามข่าวกัมพูชาพยายามจะยึดปราสาทตาเมือนธม-ตาควาย เห็นทหารกัมพูชาบางส่วนอยู่ในปราสาทตาควาย อาจจะพยายามใช้ปราสาทเป็นโล่กำบัง แต่ตรวจสอบแล้วขณะนี้ไม่น่าจะมีแล้ว ขณะนี้เราก็พยายามควบคุมพื้นที่ให้ได้มากที่สุด ที่ตรวจสอบได้ที่เห็นแน่ๆคือบริเวณปราสาทพระวิหารในทุกพื้นที่ฐานที่มั่นของฝ่ายกัมพูชา ก็จะมีประชาชนลูกเด็กเล็กแดงเข้าไปอยู่ในฐานที่มั่นต่างๆ ดังนั้นก่อนที่เราจะยิงเข้าไปเราก็จะตรวจสอบว่าเป็นพื้นที่ทหารจริงๆ
“ขอยืนยันว่าเราสามารถปกป้องอธิปไตยได้ด้วยกำลังปกป้องชายแดนของเรา ขณะนี้เมื่อเจรจาแล้วไม่สามารถได้ข้อยุติเพราะต้องขึ้นอยู่กับฮุนเซนแต่ผู้เดียว จึงไม่จำเป็นต้องเจรจา เมื่อคืนนี้ก็มีการโจมตีลึกเข้ามาที่บ้านหนองคันนาอีก 7-8 ลูก ซึ่งเราอพยพประชาชนออหหมดแล้ว ที่ลึกเข้ามาสุดก็ประมาณ 7-8 กิโลเมตร ใกล้ๆกับโรงพยาบาลพนมดงรัก”พ.อ.ประวิทย์ กล่าว
พ.อ.ประวิทย์ ยังกล่าวว่า ขณะนี้มีประชาชนอพยพประมาณ 3-4 หมื่นขึ้น อยากให้มุ่งช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ในส่วนของทหารที่ปฏิบัติงานก็ขอกำลังใจเป็นหลัก ทางด้านความเป็นอยู่เรามีระบบของเราดูแลเต็มที่อยู่แล้ว
โฆษกกองทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทหารทุกหน่วย ซึ่ง กองทัพภาคที่ 2 พร้อมดูแล และปฏิบัติตามกฎสากลอย่างเคร่งครัด แม้จากสถานการณ์ที่แรงขึ้น แต่ขณะนี้ กำลังทหารกองทัพภาคที่ 2 มีเพียงพอ โดยไม่จำเป็นต้องขอกำลังเสริมจากหน่วยอื่น ซึ่งมีการเตรียมพร้อมสำรองไว้เช่นกัน ส่วนการใช้อาวุธหนักในการปะทะนั้น ก็จะมีการพิจารณาตามลำดับชั้นและเหตุการณ์
ไทยยังคุมสถานการณ์ได้
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กระทรวงกลาโหม (กห.) กล่าวว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะนี้ยังควบคุมได้ แต่ยังมีเหตุปะทะอยู่ประปราย แต่ในช่วง 2-3 วันมานี้ ยังไม่มีการเจรจาระหว่าง 2ประเทศ ทั้งนี้ ยืนยันว่าแนวทางการเจรจาเป็นทางออกเพื่อให้ยุติปัญหา อย่างไรก็ตาม ไทยไม่มีความคิดรุกรานใคร ทั้งนี้ ตนขอปฏิเสธข่าวทหารกัมพูชาเข้ายึดปราสาทตาควาย และยืนยันว่าไทยสามารถควบคุมได้อยู่รวมถึงพื้นที่ 4.6ตารางกิโลเมตร ส่วนการทบทวนนโยบายระหว่าง 2 ประเทศนั้น เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ อย่างไรก็ดี ในการประชุมผู้นำอาเซียนที่ประเทศอินโดนิเซียในช่วงต้นเดือนพ.ค.นี้ ก็จะคุยกันถึงเรื่องดังกล่าวด้วย
ทหารบาดเจ็บเล็กน้อย 16 นาย
ด้าน นพ.คำรณ ไชยศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขต 14 กล่าวว่า จากเหตุปะทะระหว่างทหารไทยและกัมพูชาที่บริเวณ ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ จ.สุรินทร์ เมื่อคืนที่ผ่านมาและสิ้นสุดลงเมื่อเวลา 03.00 น.นั้น มีเจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บจำนวน 16 นาย ทั้งหมดบาดเจ็บเล็กน้อยและถูกนำส่งรักษาที่ รพ.ค่ายวีระวัฒน์โยธิน จ. สุรินทร์ ทำให้มียอดผู้บาดเจ็บรวม 42 นาย ส่วนยอดผู้เสียชีวิตยังคงที่ 5 นายเท่าเดิม
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมให้ความช่วยเหลือและดูแลเรื่องของสุขาภิบาลในพื้นที่ตามศูนย์อพยพทั้ง 32 ศูนย์ของ จ.สุรินทร์ และบุรีรัมย์ โดยเตรียมฉีดพ่นยากันยุงให้กับศูนย์ต่าง ๆ ทุก 3 วัน เพื่อป้องกันปัญหายุงในพื้นที่ ซึ่งอาจนำมาสู่โรคได้ ส่วนความช่วยเหลืออื่น ๆ ทั้งยาและเวชภัณฑ์ขณะนี้มีเพียงพอ
ปิดด้านช่องจอม
บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ยังคงปิดโดยไม่มีกำหนด ทหารพรานได้มีการนำรั้วเหล็กมากั้นทางเข้าบริเวณ 3 แยกห่างจากจุดผ่านแดนฯประมาณ 3 กิโลเมตรและไม่อนุญาตให้รถยนต์ทุกชนิดผ่าน ขณะที่บรรดาพ่อค้ามาค้าชาวกัมพูชาในตลาดการค้าชายแดนช่องจอมในฝั่งไทย ถึงแม้จะยังไม่มีคำสั่งปิดตลาดที่แต่ว่า พ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชากว่า 90 %ได้พากันปิดร้านไปโดยปริยาย และพากันเดินเท้ากว่า 2 กิโลเมตร เพื่อกลับข้ามแดนไปยังกัมพูชา หลังไม่มั่นใจในสถานการณ์ในพื้นที่ ส่วนทรัพย์สินและสินค้ายังไม่สามารถนำกลับไปได้และยังคงถูกปิดทิ้งอยู่ในร้าน มีเพียงไม่กี่คนที่ยังคงอยู่เฝ้าสินค้าอยู่
ขณะที่ศูนย์อพยพ 33 แห่ง ประชาชนผู้ประสบภัยกว่า 23,000 คน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปช่วยเหลืออย่างทั่วถึงแล้ว
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1165 ครั้ง