มาเลย์เชียร์จีนเป็นผู้นำตั้ง “เงินสกุลเดียวแห่งเอเชีย”

รูปภาพ : นายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีของจีนโบกมือทักทายที่สนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ ระหว่างการเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธที่ 27 เมษายน 2011 ที่ผ่านมา

ที่มา : AFP

นายลิม เซียง ไช (Lim Siang Chai) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังมาเลเซียแนะนำจีนว่า จีนควรเล่นบทบาทนำในการก่อตั้งเงินตราสกุลเดียวสำหรับเอเชียขึ้น

เงินตราสกุลเดียวในทวีปเอเชีย ซึ่งประเทศส่วนใหญ่เป็นประเทศเกิดใหม่ทางเศรษฐกิจซึ่งมักดึงดูดเงินร้อนจากประเทศอุตสาหกรรมเข้ามาได้ง่ายนั้น สามารถช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและช่วยเพิ่มการค้าในภูมิภาคได้ นายลิมกล่าวในการให้สัมภาษณ์พิเศษกับหนังสือพิมพ์ไชน่าเดลี่ของจีน

“หากปราศจากการนำของจีน มันเป็นการยากสำหรับเอเชียในการบรรลุเป้าหมายของการมีเงินตราสกุลเดียว” นายลิมกล่าว

เขากล่าวเสริมด้วยว่า ท่ามกลางการค้าที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีนและสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือ ASEAN นับแต่ข้อตกลงเขตการค้าเสรีหรือ FTA จีน-ASEAN มีผลบังคับใช้นั้น เงินสกุลเดียวยังช่วยลดต้นทุนธุรกรรมสำหรับการชำระค่าสินค้าด้วย

เขตการค้าเสรีนี้ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในโลก ครอบคลุมประชากรกว่า 1,900 ล้านคนและเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2010

มาเลเซียยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีนในบรรดา 10 ชาติสมาชิก ASEAN เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ขณะที่จีนยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของมาเลเซียเป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว

ปริมาณการค้าระหว่างกันของทั้ง 2 ประเทศเพิ่มขึ้น 42.8% มาอยู่ที่ 74,300 ล้านดอลลาร์ในปี 2010

อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับการค้าระหว่างกันที่เติบโตขึ้นอย่างมากนี้ การลงทุนของจีนในประเทศมาเลเซียยังคงต่ำอยู่ นายลิมกล่าว โดยเสริมว่า รัฐบาลมาเลเซียหวังว่าจะสามารถดึงดูดนักลงทุนจากจีนได้เพิ่มขึ้น

บริษัทรับเหมาก่อสร้างจีนหลายรายอยู่ในระหว่างการพูดคุยกับรัฐบาลมาเลเซียเกี่ยวกับการลงทุนในโครงการทางรถไฟความเร็วสูงระยะทาง 700 กิโลเมตรซึ่งจะวิ่งผ่านมาเลเซียเพื่อเชื่อมประเทศไทยกับสิงคโปร์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทางรถไฟความเร็วสูงซึ่งเชื่อมเมืองคุนหมิงของจีนเข้ากับประเทศสิงคโปร์ การพูดคุยยังคงดำเนินต่อไปในเรื่องของการเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการโครงข่ายรถไฟฟ้าในเมืองมูลค่ากว่า 16,800 ล้านดอลลาร์ซึ่งการก่อสร้างจะเริ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคมปีนี้

จีนเป็นเจ้าของเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูงที่ก้าวหน้าและมีประสบการณ์สำคัญในเรื่องการก่อสร้างทางรถไฟ นายลิมกล่าว

“เราหวังว่าจะมีการขยายความร่วมกันในด้านนี้”

นอกจากนั้นแล้ว มาเลเซียยังได้วางแผนที่จะดึงดูดบริษัทจากจีนเพื่อมาจดทะเบียนในตลาดหุ้นมาเลเซีย บริษัทเครื่องเขียนที่ตั้งอยู่ในมณฑลฝูเจี้ยนได้รับอนุญาตให้ขายหุ้นเพื่อจดทะเบียนในมาเลเซียได้ในเดือนมิถุนายนนี้ ความคืบหน้านี้เกิดขึ้นหลังจากบริษัทจากจีนชุดแรกจำนวน 7 บริษัทได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นมาเลซียเมื่อปีที่แล้ว

นายทาจุดดิน อาทาน (Tajuddin Atan) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเบอร์ซา มาเลเซีย (Bursa Malaysia) หรือที่เรียกกันอย่างเป็นทางการว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur Stock Exchange) กล่าวว่า มีบริษัทจีนเริ่มแสดงความสนใจในการจดทะเบียนในมาเลเซียมากขึ้นหลังจากความสัมพันธ์เชิงพาณิชย์ระหว่างทั้ง 2 ประเทศแนบแน่นมากขึ้น

“เราคาดว่าจะอนุมัติการจดทะเบียนในตลาดหุ้นของมาเลเซียของบริษัทจีนอย่างน้อย 6 บริษัทได้ในปีนี้” นายลิมกล่าว

นอกจากนั้นแล้วนายลิมกล่าวอีกว่า แบงก์ เนการา มาเลเซีย (Bank Negara Malaysia) ธนาคารกลางของประเทศมาเลเซียได้เริ่มซื้อพันธบัตรในรูปเงินหยวนและหุ้นในกระดานเอของจีนแล้ว ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวในการยกระดับความร่วมมือทางการเงินในระยะยาว

ธนาคารกลางมาเลเซียได้ซื้อหุ้นและพันธบัตรของจีนในฐานะได้ใบนุญาตให้เป็นนักลงทุนสถาบันจากต่างประเทศที่ผ่านคุณสมบัติหรือ QFII (Qualified Foreign Institutional Investor) นายลิมกล่าวเสริม

เขากล่าวว่า มาเลเซียและจีนควรกระชับความสัมพันธ์ในภาคการเงินซึ่งเขาอธิบายว่าเป็นหนึ่งในด้านซึ่งสำคัญที่สุดของความร่วมมือระหว่างทั้ง 2 ประเทศ

ทุนสำรองเงินตราต่าวประเทศของมาเลเซียอยู่ที่ 112,000 ล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเพียงพอที่จะรองรับการนำเข้าสินค้าเป็นเวลา 9 เดือน

ที่มา China Daily

แปลและเรียบเรียงโดย เบ๊นซ์ สุดตา ฝ่ายข่าวเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศ Mtoday