ปากีสถานเดือด! หลังสังหาร”บินลาเดน” ระเบิดถล่มสุเหร่า ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันที 4 ราย สหรัฐ ยืนยัน ผลตรวจดีเอ็นเอศพ เป็นของ โอซามา บิน ลาเดน เตรียมพิจารณาเผยแพร่ภาพศพหรือไม่ ด้านผู้นำศาสนา ชี้ฝังในทะเลผิดหลีกศาสนา ด้านกลุ่มอิสลามหลายร้อยคน ออกเดินขบวนประณามการกระทำของสหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของสหรัฐ ระบุว่า ผลการตรวจดีเอ็นเอของศพ ก่อนจะหย่อนจากเรือยูเอสเอส คาร์ล ลงสู่ทะเล นอร์ธ อาระเบีย ได้ยืนยันว่า ศพดังกล่าวคือ โอซามา บิน ลาเดน และจากการวิเคราะห์ภาพถ่ายของสำนักข่าวกรองกลาง หรือ CIA , ก็ได้รับการยืนยันจากผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เชื่อว่าเป็นหนึ่งในภรรยาของบิน ลาเดน และการเข้ากันได้ของรูปร่างหน้าตา เช่น ส่วนสูง ได้ช่วยยืนยันอัตลักษณ์ของเขา ทั้งนี้ ทำเนียบขาวกำลังพิจารณาว่าจะเป็นการสมควรหรือไม่ที่จะเปิดเผยภาพศพของเขา ที่ถูกยิงเหนือตาซ้าย ทำให้บางส่วนของกระโหลกศีรษะหายไป
นอกจากบิน ลาเดน แล้ว นายคาลิด หนึ่งในบุตรชายของเขา ก็ถูกสังหารในระหว่างการบุกจู่โจมครั้งนี้ด้วย เช่นเดียวกับภรรยาที่ช่วยปกป้องเขา ที่เหลือเป็นคนนำสารที่บิน ลาเดน ไว้ใจ และในจำนวนนี้ ใช้ชื่อเป็นเจ้าของบ้านที่ถูกบุกถล่มด้วย
ก่อนหน้านี้ บารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ออกมาแถลงยืนยันว่า กองทัพสหรัฐได้บรรลุผลสำเร็จในปฏิบัติการตามล่า โอซามา บิน ลาเดน แกนนำกลุ่มก่อการร้าย อัลกออิดะห์ โดยสามารถสังหาร บิน ลาเดน ได้ภายในบ้านพักในประเทศปากีสถาน
ผู้นำศาสนาประณามฝังในทะเลผิดหลัก
เช้ค อาหมัด อัล-ทาเอ็บ ผู้นำศาสนาที่มัสยิดในกรุงไคโร อียิปต์ ระบุว่า การฝังร่างบินลาดินในทะเลขัดกับหลักปฏิบัติของชาวมุสลิม รวมถึงละเมิดธรรมเนียมด้านมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง แสดงให้เห็นว่าชาวอเมริกันต้องการทำให้ชาวมุสลิมอับอายด้วยการฝังศพบินลาดินในลักษณะดังกล่าว ซึ่งจะยิ่งทำให้กลุ่มติดอาวุธมุสลิมออกมาเรียกร้องให้มีการโจมตีเพื่อแก้แค้นให้บินลาดิน
เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐเปิดเผยว่า ศพของบินลาดินถูกนำขึ้นบนเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส คาร์ล วินสัน โดยได้รับการชำระล้างอย่างสะอาด จากนั้นนำไปห่อบนผ้าขาวและถุงบรรจุศพ มีการอ่านบทไว้อาลัยเป็นภาษาอาหรับ ก่อนทิ้งร่างทะเลอาหรับ
สหรัฐตัดสินใจทิ้งศพของบินลาดินลงทะเล เพราะเกรงว่าจะไม่มีประเทศใดยอมรับศพของเขา รวมถึงเพื่อให้มั่นใจว่าที่ฝังศพของเขาจะไม่กลายเป็นที่บูชาสักการะของสมุนต่อไป
อีกด้านหนึ่ง ได้เกิดเหตุระเบิดรุนแรงใกล้กับสุเหร่าในเมืองชาร์ซัดดา จังหวัดเปชวาร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันที 4 ศพ และเด็กอีก 2 คน เสียชีวิต โดยเหตุระเบิดเกิดขึ้นหลังจากที่โอซามา บิน ลาเดน ถูกสังหาร ท่ามกลางความหวาดวิตกว่าเครือข่ายอัลกออิดะห์จะเดินหน้าการโจมตีล้างแค้น
ด้วยแรงระเบิดได้สร้างความเสียหายรุนแรงให้กับพื้นที่โดยรอบ และยังทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายสิบคนด้วย
ทั้งนี้ เมืองชาร์ซัดดา อยู่ห่างออกไปจากกรุงอิสลามาบัดทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 100 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากเมืองที่ บิน ลาเดน กบดานอยู่ราว 40 กิโลเมตร ซึ่งในขณะนี้เจ้าหน้าที่ปากีสถานยังไม่ทราบรายละเอียดของการระเบิด
ขณะเดียวกัน ที่เมืองเคต้า ทางตอนใต้ของประเทศ สมาชิกกลุ่มอิสลามที่แตกตัวออกจากกลุ่มจาเมียต อูเลมา อิสลาม จำนวนหลายร้อยคนได้เริ่มเดินขบวนประณามการสังหารโอซามา บิน ลาเดน พร้อมกับรุมเผาธงชาติสหรัฐ ท่ามกลางความโกรธแค้น
บิน ลาเดน
“สมาชิกทุกคนจะกลายเป็นบิน ลาเดน และจะเป็นอันตรายต่ออเมริกา และโลกแน่นอน” หนึ่งในผู้ประท้วง กล่าว
เผยกระสุนเจาะกะโหลกเบ้าตาซ้ายบิน ลาเดน
เจ้าหน้าที่สหรัฐผู้หนึ่ง เปิดเผยล่าสุดว่า กระสุนที่ถูกยิงจากหน่วยซีล ทีมที่ 6 ได้ยิงเข้าเจาะบริเวณเหนือเบ้าตาซ้ายของ โอซามา บิน ลาเดน ทำให้กะโหลกบางส่วนของเขาแตกออก และเสียชีวิตในทันที
หลังจากปฏิบัติการเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่สหรัฐได้ส่งภาพของ บิน ลาเดน ไปยังกรุงวอชิงตันเพื่อพิสูจน์ลักษณะบุคคล อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐไม่ได้เปิดเผยภาพของบิน ลาเดน ดังกล่าว
โอบามาเตรียมประกาศชัยชนะที่นิวยอร์คพฤหัสฯนี้
เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐ เปิดเผยว่า บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเดินทางไปมหานครนิวยอร์ค ในวันพฤหัสบดีนี้ ( 5 พ.ค. ) เพื่อประกาศชัยชนะของการสังหาร โอซามา บิน ลาเดน
บารัค โอบามา
ทั้งนี้ โอบามา จะเดินทางไปยังจุดที่เป็นที่ตั้งของอาคาร เวิลด์ เทรด เซ็นเตอร์ ที่ถูกทำลายไปเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 นอกจากนั้น โอบามา ยังจะเดินทางไปพบกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วย
ยูเอ็นเอสซีออกแถลงการณ์ยินดีสิ้นบินลาเดน
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ออกแถลงการณ์แสดงความยินดีต่อข่าวการเสียชีวิตของนายอุซามะห์ บิน ลาเดน ซึ่งต่อจากนี้ไปจะไม่สามารถกระทำการก่อการร้ายใดๆ ได้อีก พร้อมยืนยันด้วยว่า การก่อการร้ายไม่สามารถเข้ากันได้กับทุกศาสนา ทุกเชื้อชาติ ทุกอารยธรรม หรือกลุ่มใดๆ ก็ตาม ซึ่ง UNSC นั้น ให้การยอมรับการต่อต้านการก่อการร้าย และเรียกร้องให้นานาประเทศร่วมมือกันสกัดกั้นการก่อการร้ายต่อไป
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1507 ครั้ง