รูปภาพ : ธนบัตรเงินหยวนกับเงินดอลลาร์ ปัจจุบันเงินหยวนจีนกำลังมีการกล่าวถึงมากขึ้นในหมู่ผู้รับผิดชอบด้านนโยบายค่าเงินว่า อาจมีการโยกทุนสำรองไปซื้อหยวนมากขึ้น
ที่มา : Bloomberg
คาซัคสถานอาจแปลงทุนสำรองเงินตราต่างประเทศบางส่วนเป็นเงินหยวนจีนหากว่าเงินหยวนจีนได้รับการยอมรับจากทั่วโลกให้เป็นเงินตราสกุลหลักของโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ในปีนี้ ผู้ว่าการธนาคารกลางคาซัคสถานกล่าววานนี้ (อังคารที่ 10 พฤษภาคม 2011)
นายกริกอรี มาร์เช็นโก้ (Grigory Marchenko) ผู้ว่าการธนาคารกลางคาซัคสถานยังทำนายอีกว่า เงินหยวนจะได้รับความนิยมมากขึ้นในการค้าระหว่างคาซัคสถานและจีนซึ่งเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยเงินดอลลาร์สหรัฐฯในปัจจุบันยังคงคิดเป็นกว่า “99%” ของการชำระเงินระหว่างคาซัคสถานและประเทศเพื่อนบ้าน
“หากเงินหยวนจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองของคาซัคสถานที่ประกอบไปด้วยทองคำและเงินตราต่างประเทศ เงินหยวนจะต้องได้รับการยอมรับให้เป็นสกุลเงินที่สามารถแลกเปลี่ยนได้และเป็นเงินตราสำรองโดยประชาคมโลก” นายมาร์เช็นโก้กล่าวในการแถลงข่าว “เราเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นในปีนี้”
“ถ้าหากว่าในช่วงเวลาที่แน่นอนช่วงหนึ่ง กองทุนการเงินระหว่างประเทศประกาศให้เงินหยวนเป็นเงินสำรองอย่างเป็นทางการ … ทุนสำรองจำนวนมหาศาลสามารถแปลงจากเงินดอลลาร์เป็นเงินหยวนได้” นายมาร์เช็นโก้ระบุ
เขาปฏิเสธที่จะให้ตัวเลขถึงปริมาณของทุนสำรองที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินหยวนได้ ล่าสุดประเทศคาซัคสถานซึ่งเป็นเศรษฐกิจและผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของภูมิภาคเอเชียกลางมีทองคำและทุนสำรองเงินตราต่างประเทศสุทธิอยู่ที่ 36,400 ล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 30 เมษายน 2011 เพิ่มขึ้นจาก 34,600 ล้านดอลลาร์เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2011
ประเทศจีนซึ่งเป็นเจ้าของผลผลิตน้ำมันดิบ 1 ใน 4 ของคาซัคสถานกลายเป็นตลาดส่งออกที่เฟื่องฟูสำหรับสินค้าโภคภัณฑ์ของคาซัคสถานเมื่อปีที่แล้ว โดยคิดเป็นกว่า 17% ของการส่งออกทั้งหมดของคาซัคสถานในรูปของเงินดอลลาร์
นายมาร์เช็นโก้กล่าวว่า ขณะที่ไอเอ็มเอฟต้องทำการตัดสินใจเรื่องสถานะเงินหยวนอีกทีนั้น ธนาคารกลางของคาซัคสถานและจีนได้บรรลุข้อตกลงเรื่องสัญญาสว็อปเงินทั้ง 2 สกุล (Currency Swap) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ถ้าหากว่าเราสามารถเปลี่ยนไปสู่การชำระเงินด้วยสกุลเงินท้องถิ่นในหมู่ประเทศสหภาพศุลกากรกับประเทศจีนได้จริง ต่อจากนั้นคงามต้องการเงินดอลลาร์เพื่อการชำระเงินร่วมกันก็จะลดลง” เขากล่าว
ในบทสนทนาข้างต้นนี้ นายมาร์เช็นโก้กำลังอ้างถึงสหภาพศุลกากรระหว่างรัสเซีย เบลารุส และคาซัคสถาน
เงินเตงก์แข็งค่า
ความต้องการเงินดอลลาร์ที่ลดลงอาจเป็นสัญญาณถึงการแข็งค่าขึ้นของเงินเตงก์คาซัคสถาน ซึ่งตอนนี้ได้รับแรงหนุนอย่างมากในปีนี้จากราคาน้ำมันและโลหะของคาซัคสถานที่สูงในตลาดโลก
นายมาร์เช็นโก้กล่าวว่า ธนาคารกลางคาซัคสถานตอนนี้กำลังซื้อเงินดอลลาร์ในตลาดในประเทศน้อยลงเพื่อยับยั้งการแข็งค่าของเงินเตงก์ ข้อมูลทางการระบุว่า ธนาคารกลางคาซัคซื้อเงินตราต่างประเทศเป็นเงิน 1,000 ล้านดอลลาร์ในเดือนเมษายน เทียบกับ 6,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงมกราคมจนถึงกลางเดือนมีนาคม
“ดังนั้นแล้ว นั่นหมายความว่าเราสามารถหวังได้ว่า อัตราแลกเปลี่ยนจะค่อยๆกลับมาสู่ระดับที่ยอมรับได้และมีความสมดุล” เขากล่าว
“ตอนนี้มีการคาดการณ์จากบางสำนักแล้วว่า ระดับค่าเงินที่เหมาะสมนี้อาจอยู่แถวๆ 144.6-144.7 เตงก์ (ต่อดอลลาร์)” เขากล่าว
อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของเงินเตงก์วานนี้อยู่ที่ 145.9 เตงก์ต่อดอลลาร์
นายมาร์เชนโก้กล่าวอีกว่า ค่าเงินเตงก์อาจทดสอบที่ระดับอื่นได้ ทั้งนี้ขึ้นกับการส่งออกโภคภัณฑ์ของคาซัคสถาน, ส่วนแบ่งของกำไรซึ่งผู้ส่งออกขายในตลาดในประเทศ (ในรูปเงินดอลลาร์ที่ได้จากการส่งออก) และ ความต้องการที่มีต่อเงินดอลลาร์
ที่มา ข่าว Real Time จากโปรแกรม Reuters 3000 Xtra
ไอดีข่าว nLDE7490JN
แปลและเรียบเรียงโดย เบ๊นซ์ สุดตา ฝ่ายข่าวเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศ Mtoday